กฎหมายสากลในปัญหาอธิปไตยแห่งชาติ

(VOVworld)-วันที่30มีนาคม ในกรอบการประชุมใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู132ได้มีการจัดประชุมคณะ กรรมการประชาธิปไตยว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและได้มีการอนุมัติมติ “กฎหมายสากลในความสัมพันธ์ด้านอธิปไตยแห่งชาติ การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นและสิทธิมนุษยชน” ซึ่งนับเป็นมติที่มีความหมายสำคัญในสภาวการณ์โลกปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน

(VOVworld)-วันที่30มีนาคม ในกรอบการประชุมใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือไอพียู132ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการประชาธิปไตยว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและได้มีการอนุมัติมติ “กฎหมายสากลในความสัมพันธ์ด้านอธิปไตยแห่งชาติ การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นและสิทธิมนุษยชน” ซึ่งนับเป็นมติที่มีความหมายสำคัญในสภาวการณ์โลกปัจจุบันที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อน

กฎหมายสากลในปัญหาอธิปไตยแห่งชาติ - ảnh 1

ร่างมติ “กฎหมายสากลในความสัมพันธ์ด้านอธิปไตยแห่งชาติ การไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นและสิทธิมนุษยชน” ที่ถูกนำมาหารือในที่ประชุมไอพียูครั้งนี้ได้ยืนยันว่าอธิปไตยของประเทศต่างๆเป็นพื้นฐานของความร่วมมือระหว่างประเทศและเป็นปัจจัยที่สำคัญของความมีเสถียรภาพ  โดยข้อกำหนดเกี่ยวกับกฎหมาย สันติภาพและความมั่นคง สิทธิของมนุษย์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต่างมีความเกี่ยวข้องกัน นอกจากนั้นมติดังกล่าวยังยืนยันถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกประเทศในการให้ความเคารพสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษยชน์ การไม่เลือกปฏิบัติระหว่างชนชาติ เชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา การเมืองหรือทัศนะที่ต่างกัน พื้นฐานทางสังคม เป็นต้น

ความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้น

สถานการณ์โลกในหลายปีมานี้มีความผันผวนที่ซับซ้อน ซึ่งในฟอรั่มทวิภาคีและพหุภาคีต่างๆ ทุกชาติได้แสดงความเห็นเดียวกันว่า สันติภาพและเสถียรภาพคือพื้นฐานที่สำคัญและมั่นคงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน แต่อันที่จริงความไร้เสถียรภาพ ความขัดแย้งทางศาสนาและเชื้อชาติ การพิพาททางดินแดน ทรัพยากร เกาะแก่ง การแข่งขันด้านอาวุธ การปะทะ การใช้อำนาจทางการเมืองและไม่สนใจกฎหมายสากลกลับมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยหลายประเทศได้อ้างการปกป้องสิทธิมนุษยชนเพื่อใช้กำลังทหารโจมตีประเทศอื่นจนผลพวงที่ตามมาก็คือสงครามและวิกฤตด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม  ซึ่งรองศ. ดร. ดั๋งชี้หยุง หัวหน้าสถาบันวิจัยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนแห่งสถาบันการเมืองแห่งชาติโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า“การยัดเยียดปัญหาสิทธิมนุษยชนได้นำไปสู่ปัญหาที่ว่าหากประเทศใดไม่ปฏิบัติตามความปรารถนาของประเทศอื่นก็เสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งภายในหรือแม้กระทั่งอาจมีการแทรกแซงจากภายนอกรวมทั้งในปัญหาสิทธิมนุษยชน พวกเราต้องยืนยันว่าสิทธิมนุษยชนคือคุณค่าการปฏิบัติในขั้นพื้นฐาน คือความปรารถนาและเป้าหมายที่ทุกชาติต่างมุ่งปฏิบัติแต่ในขณะเดียวกันนั่นคือกระบวนการด้านจิตสำนึกของรัฐบาลประเทศต่างๆ เพราะจากสถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า การปะทะต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนต่างเกิดจากการยัดเยียดการปฏิบัติในสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับการพัฒนาของแต่ละประเทศ”

กฎหมายสากลในปัญหาอธิปไตยแห่งชาติ - ảnh 2
ประธานไอพียู
ผลักดันการปฏิบัติเพื่อโลกที่สันติภาพ

จากหัวข้อ “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน: แปรคำพูดให้เป็นการปฏิบัติ” การประชุมไอพียู132ได้วางหน้าที่อันยิ่งใหญ่คือแลกเปลี่ยนแนวคิดและปฏิบัติการเพื่อมีส่วนร่วมผลักดันการปฏิบัติเป้าหมายร่วมของมนุษยชาติ โดยหนึ่งในความสนใจอันดับแรกในระเบียบวาระการประชุมครั้งนี้คือการแปรคำพูดให้เป็นการปฏิบัติเพื่อให้กฎหมายและกฎระเบียบต่างๆในกฎหมายสากลได้รับการเคารพ ข้อตกลงและระเบียบการในการปฏิบัติต่อกันของประเทศต่างๆได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง ปัญหาข้อพิพาทและความขัดแย้งได้รับการแก้ไขอย่างสันติและทุกประชาชาติต่างมีความเสมอภาคกัน

จากการสานต่อเป้าหมายและแนวทางการดำเนินงานของไอพียูในตลอด130ปีที่ผ่านมาไอพียู132กำลังพิสูจน์ให้เห็นบทบาทการเป็นฟอรั่มรัฐสภาพหุภาคีที่สำคัญที่สุดของโลก มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและยิ่งใหญ่ต่อสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา ประชาธิปไตย ความก้าวหน้า ความยุติธรรมทางสังคมและสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆของมนุษย์ นาย ซาเบอร์ ซอว์ด ฮูรี ประธานไอพียูได้ยืนยันว่า“สันติภาพและการพัฒนาคือปัญหาที่สำคัญของโลก ถ้าไม่มีสันติภาพก็ไม่มีการพัฒนา ซึ่งสำหรับไอพียูในฐานะเป็นองค์การรัฐสภาระดับโลกจะช่วยกระชับการสนทนาเพื่อให้สส.ประเทศต่างๆกระเถิบเข้าใกล้กันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการส่งเสริมโลกที่สันติภาพ”

กฎหมายสากลในปัญหาอธิปไตยแห่งชาติ - ảnh 3
ประธานรัฐสภาเวียดนาม
สำหรับเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับความสูญเสียมากมายจากสงคราม ทั้งประชาชาติจึงมีความเข้าใจและให้ความสำคัญต่อคุณค่าของสันติภาพมาโดยตลอด โดยหลายปีที่ผ่านมาเวียดนามได้อยู่เคียงข้างสมาชิกอื่นๆของไอพียูเพื่อพยายามปฏิบัติเป้าหมายร่วมเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ส่งเสริมประชาธิปไตย ปกป้องมนุษย์ ผลักดันความเสมอภาคทางเพศ สิทธิของเด็กและสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ ดังนั้นไอพียู132จึงถือเป็นโอกาสให้เวียดนามเชิดชูสาส์นแห่งสันติภาพตามที่ประธานรัฐสภาเหงวียนซิงหุ่งได้ชี้ชัดว่า“เสียงพูดของไอพียูครั้งนี้จะส่งผลในเชิงบวกต่อสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเพื่อผ่านความเห็นชอบแผนปฏิบัติการของสหประชาชาติและของโลกในอีก15ปีข้างหน้าคือตั้งแต่2016-2030 ซึ่งผมขอย้ำว่าเพื่อให้โลกสามัคคีกัน มีสันติและร่วมมือกันผลักดันการพัฒนาชีวิตที่สันติสุข สิ่งแรกที่ต้องให้ความเคารพคือสิทธิของมนุษย์ สิทธิแห่งประชาชาติ สิทธิของชาติและความสามัคคีบนพื้นฐานแห่งความไว้วางใจกัน หากทำได้เช่นนั้น เราจะมีพลังความสามัคคีที่เข้มแข็งของทั้งโลกเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ”

ทั้งนี้การผ่านความเห็นชอบมติ “กฎหมายสากลในความสัมพันธ์ด้านอธิปไตยแห่งชาติ ไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นและสิทธิมนุษยชน”ในที่ประชุมไอพียู132จะเป็นการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของกฎหมายสากลที่ประชาคมระหว่างประเทศได้ทุ่มเทพัฒนาและร่วมกันปฏิบัติ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด