(VOVworld) –  เมื่อวันที่๒๕เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของบรรดาประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหรือยูโรโซนได้เห็นพ้องกันว่า จะขยายเวลาโครงการเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซออกไปอีก๔เดือนหลังจากที่ได้อนุมัติกลุ่มมาตรการปฏิรูปใหม่ที่กรีซยื่นเสนอซึ่งถือเป็นชัยชนะเบื้องต้นของกรีซและช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่เพราะการต่ออายุเงินช่วยเหลือออกไปอีกสี่เดือนนี้ก็ทำให้พรรคซีรีซาของนายอเล็กซิส ซิปราซนายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเมื่อตอนหาเสียงเลือกตั้งและตอนเข้าสาบานตนรับตำแหน่ง

กรีซต้องการเงินของอียู (Photo:Telegraph )

กลุ่มมาตรการปฏิรูปของกรีซประกอบด้วยการแก้ไขปัญหาการหนีภาษี การลักลอบค้าวัตถุดิบ บุหรี่และการปรับปรุงโครงสร้างระบบบริหารราชการ การแก้ไขปัญหาวิกฤตด้านมนุษยธรรม การปรับปรุงหนี้ภาษีและหนี้เสีย การยุติการยึดที่อยู่อาศัยเพื่อชำระหนี้ กลุ่ม๑๘รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยูโรโซนได้เห็นชอบกับกลุ่มมาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซยื่นเสนอ ตามแผนการนี้ วงเงินช่วยเหลือจะได้รับการเบิกจ่ายหลังจากที่บรรดาเจ้าหนี้อนุมัติแผนเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลกรีซ ปัจจุบัน ทั้งสหภาพยุโรปและกรีซกำลังทำระเบียบการสุดท้าย รวมทั้งการลงคะแนนในรัฐสภาประเทศสมาชิกยูโรโซนในอีกไม่กี่วันที่จะถึง

การอ่อนข้อของทางการกรีซ

เป็นอันว่า โครงการเงินช่วยเหลือกรีซที่จะหมดอายุในวันที่๒๘เดือนนี้จะได้รับการขยายเวลาออกไปอีก๔เดือนโดยในช่วงเวลา๔เดือนนี้ รัฐบาลกรีซจะต้องเสนอขั้นตอนรายละเอียดเพื่อปฏิบัติการปฏิรูปที่ได้ให้ไว้ภายใต้การควบคุมขององค์การระหว่างประเทศต่างๆ บรรดานักวิเคราะห์ให้ข้อสังเกตุว่า แม้ว่า ข้อตกลงดังกล่าวมิใช่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งยุโรปและกรีซแต่อย่างน้อยได้ช่วยคลายความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายและทั้งสองฝ่ายต่างเห็นว่า จะไม่มีทางเลือกอื่นใดเพราะกรีซต้องการวงเงินช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ส่วนยุโรปสามารถหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายของเขตยูโรโซนจากการที่กรีซอาจออกจากยูโรโซนและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะตามมาสำหรับโครงการช่วยเหลืออื่นๆ

แต่สำหรับกรีซนั้นใช่ว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะสร้างผลประโยชน์ที่จริงจังในสภาวการณ์ที่พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราซมีทัศนะที่แข็งกร้าวต่อโครงการรัดเข็มขัดของยุโรป ในบทปราศรัยหลังจากที่บรรดาเจ้าหนี้ขยายเวลาโครงการเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซออกไปอีก๔เดือน นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราซได้ยอมรับว่า วงเงินช่วยเหลือนี้จะช่วยให้กรีซยุติมาตรการรัดเข็มขัดแต่กรีซต้องแลกด้วยการอ่อนข้อ

ความท้าทายต่อทางการกรีซ

เนื่องจากเห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้กรีซยุติมาตรการรัดเข็มขัด นายอเล็กซิส ซิปราซ นายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ยืนยันว่า รัฐบาลจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อบรรลุมาตรการที่เป็นประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่ายโดยยึดมั่นหลักการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ปฏิบัติตามข้อกำหนดของอียูและพิจารณาความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า รัฐบาลกรีซยากที่จะปฏิบัติหน้าที่นี้ได้เพราะคำมั่นสัญญาที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราซให้ไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งจะไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างน้อยในอีก๔เดือนข้างหน้าซึ่งขัดกับคำแถลงและท่าทีที่แข็งกร้าวของนายอเล็กซิส ซิปราซต่อบรรดาเจ้าหนี้เมื่อขึ้นบริหารประเทศคือ จะยกเลิกโครงการช่วยเหลือ ลดมาตรการรัดเข็มขัด ยุติความร่วมมือกับเจ้าหนี้หลักได้แก่คณะกรรมการยุโรปหรืออีซี ธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบีและกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลกรีซต้องยอมอ่อนข้อ และการอ่อนข้อนี้กำลังได้ถูกตำหนิติติงจากประชามติภายในประเทศซึ่งฝ่ายค้านในกรีซเห็นว่า รัฐบาลของนายอเล็กซิส ซิปราซกำลังเดินตามรอยข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลชุดก่อนและพรรคซีรีซาของเขาไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งซึ่งเป็นก้าวถอยหลังของกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยและนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราซจะต้องเผชิญกับการชุมนุมคัดค้านรัฐบาลเมื่อพรรคการเมืองอื่นๆเรียกร้องให้จัดการชุมนุมคัดค้านแผนการปฏิรูปที่นายอเล็กซิส ซิปราซยื่นเสนอ บรรดาผู้จัดการชุมนุมเห็นว่า ประชาชนรู้สึกผิดหวังต่อวิธีการแก้ไขของรัฐบาลและเรียกร้องให้ทางการเพิ่มเงินเดือนขั้นพื้นฐาน ปฏิรูปตลาดแรงงาน เพิ่มการใช้จ่ายให้แก่การดูแลสุขภาพ การศึกษาและการบริการสาธารณะอื่นๆมากขึ้น

โครงการช่วยเหลือที่ได้รับการขยายเวลาออกไปอีก๔เดือนจะช่วยให้รัฐบาลกรีซและบรรดาเจ้าหนี้วางขั้นตอนที่เหมาะสมให้แก่การปฏิรูปซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย ความท้าทายใหญ่ต่อรัฐบาลกรีซในปัจจุบันคือต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือและปฏิบัติมาตรการรัดเข็มขัดต่อไป แต่ยังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น นี่จึงเป็นอุปสรรคใหญ่ในเบื้องต้นที่นายกรัฐมนตรีกรีซคนใหม่ต้องเผชิญเท่านั้น./.