กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี เวียดนาม-ยูเครน

(VOVworld)-วันที่ 15พฤศจิกายน ท่าน มิโคลา อาซารอฟ นายกฯยูเครนได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองประเทศได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการเยือนเวียดนามครั้งนี้ก็เป็นการธำรงเสริมสร้างเพื่อนำความสัมพันธ์ร่วมมือนั้นเข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น
(VOVworld)- ตามคำเชิญของท่านเหงวียนเตินหยุงนายกฯเวียดนาม วันที่ 15พฤศจิกายน ท่าน มิโคลา อาซารอฟ นายกฯยูเครนได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยเฉพาะปี2011ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเมื่อทั้งสองประเทศได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการเยือนเวียดนามครั้งนี้ก็เป็นการธำรงเสริมสร้างเพื่อนำความสัมพันธ์ร่วมมือนั้นเข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น
กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี เวียดนาม-ยูเครน - ảnh 1
นายกฯเวียดนามเยือนยูเครนเมื่อเดือนตุลาคมปี2011-VGP

โดยสานต่อความสัมพันธ์อันดีงามที่มีมาตั้งแต่สมัยโซเวียด สัมพันธไมตรีระหว่างเวียดนามกับยูเครนในยุคหลังก็ยังคงได้รับการธำรงและพัฒนาในทุกด้านอย่างต่อเนื่องแม้จะต้องผ่านความผันผวนแห่งประวัติศาสตร์ครั้งต่างๆก็ตาม ประชาชนทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้านและมีศักยภาพที่สามารถสนับสนุนกันได้ในการพัฒนาประเทศและบนพื้นฐานความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานนั้น เวียดนามและยูเครนกำลังพยายามปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อกระชับความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีเพื่อใช้ประโยชน์ศักยภาพของแต่ละฝ่ายอย่างเต็มที่  โดยในเวลาที่ผ่านมาผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก ได้ทำให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศลดลงแต่จากตัวเลขการค้าปี2011ที่บรรลุ300ล้านเหรียญสหรัฐก็ได้บ่งบอกแนวโน้มการขยายตัวเล็กน้อยคือคิดเป็นร้อยละ17เมื่อเทียบกับปี2010 ส่วนมูลค่าการค้าในช่วง9เดือนแรกปี2012บรรลุ175ล้านเหรียญสหรัฐ ยูเครนยังได้มอบเอกสิทธิ์ทางการค้าแก่เวียดนามในด้านการส่งออกสัตว์น้ำยังยูเครน จากการเล็งเห็นถึงถึงศักยภาพความร่วมมือที่ยังมีสูงมาก ผู้นำทั้งสองประเทศได้มุ่งเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านการปฏิบัติมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่างๆ ซึ่งในการเยือนยูเครนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี2011 นายกฯเหงวียนเตินหยุงและนายกฯมิโคลา อาซารอฟ ได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนร่วมมือที่สมบูรณ์และตกลงกันว่าจะเริ่มดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีทวิภาคี ตลอดจนได้ลงนามในข้อตกลงร่วมมือหลายฉบับเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กิจกรรมการค้าและการลงทุน นายกฯเหงวียนเตินหยุงย้ำว่าเพื่อกระตุ้นการค้า การผลิตเกษตรและสัตว์น้ำระหว่างสองประเทศคณะกรรมการร่วมระหว่างรัฐบาลสองประเทศต้องเร่งจัดทำพิธีสารระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการตรวจโรคพืชและสัตว์และยกระดับเป็นข้อตกลงเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆในปัจจุบัน อำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าเกษตรและสัตว์น้ำเจาะตลาดของแต่ละฝ่าย ต่อจากการค้า เราจะส่งเสริมให้สถานประกอบการของทั้งสองประเทศลงทุนพัฒนาการผลิตและแปรรุปสินค้าเกษตรและสัตว์น้ำในเวียดนามอาทิเช่นปลาที่ไม่มีเกรด

ปัจจุบัน ยูเครนมี4โครงการลงทุนในเวียดนามรวมยอดเงินทุน24ล้านเหรียญสหรัฐในขณะเดียวกันเวียดนามก็มี4โครงการลงทุนในยูเครนเช่นกันด้วยยอดเงินทุน2.6ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในการเยือนเวียดนามเมื่อเดือนมีนาคมปี2011ของประธานาธิบดียูเครน เครือบริษัทโทรคมนาคมแห่งกองทัพหรือ เวียดเทลและสำนักงานบริหารโครงการแห่งชาติยูเครนได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการปฏิบัติโครงการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูงมูลค่า600ล้านเหรียญสหรัฐในยูเครน   สำหรับความร่วมมือในด้านอื่นๆระหว่างสองประเทศก็มีพัฒนาการที่เข้มแข็ง โดยจนถึงขณะนี้สามารถลงนามข้อตกลงร่วมมือในหลายด้านกว่า20ฉบับไม่ว่าจะเป็นข้อตกลงทางเศรษฐกิจ การค้า การขนส่งทางทะเล การเดินอากาศ วัฒนธรรมและการเลี่ยงเก็บภาษีซ้ำซ้อน เป็นต้น ในด้านการศึกษา ทั้งสองประเทศต่างสนับสนุนทุนการศึกษาซึ่งกันและกันคิดเป็นประมาณ30ทุนต่อปีและปัจจุบันมีนักศึกษาเวียดนามประมาณ1400คนกำลังศึกษาในยูเครน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น รวมทั้งชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในยูเครนต่างเป็นสะพานเชื่อมเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์เวียดนามยูเครนมีความใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ดร. ดิงเติ๊นฮึง รองเลขาธิการสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ยูเครนกรุงฮานอยเผยว่ายูเครนคือบ้านเกิดแห่งที่สองของผม โดยตลอดเวลาวัยเยาว์ผมได้อาศัยและศึกษา ณ ประเทศนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศและมิตรไมตรีของชาวยูเครน เมื่อกลับเวียดนามผมก็พยายามประสานงานและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆรวมทั้งนำความรู้ความสามารถที่ศึกษาในยูเครนมาประยุกต์ใช้ในเวียดนามโดยเฉพาะด้านที่เวียดนามต้องการ ซึ่งก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในกรอบความสัมพันธ์พหุภาคี เวียดนามและยูเครนได้ร่วมมือ สนับสนุนกันอย่างแน่นแฟ้นในเวทีและองค์การระหว่างประเทศรวมทั้งสหประชาชาติ โดยเฉพาะเวียบดนามได้สนับสนุนให้ยูเครนเป็นผู้สังเกตุการณ์ของประชาคมประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนอีกสมัย การขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก ตลอดจนทั้งสองประเทศได้ให้การรับรองระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดของกันและกัน  บนพื้นฐานความสัมพันธ์มิตรภาพที่ดีงามนั้น บวกกับแนวทางและมาตราการผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆโดยเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ความมั่นคงและการป้องกันประเทศที่นายกฯทั้งสองประเทศจะร่วมหารือในโอกาสนายกฯยูเครนเดินทางมาการเยือนเวียดนามครั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามและยูเครนจะได้รับการยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่อย่างแน่นอน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด