กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น
Thu Hoa-VOV5 -  
(VOVWORLD) -วันที่10ตุลาคม นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมภริยาได้เสร็จสิ้นการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการและการเข้าร่วมการประชุมระดับสูงความร่วมมือแม่โขง-ญี่ปุ่นครั้งที่10ในระหว่างวันที่8-10ตุลาคม การเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีส่วนร่วมนำความสัมพันธ์ร่วมมือยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาอย่างกว้างลึกในทุกด้านและมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ (Photo: chinhphu.vn) |
เวียดนามและญี่ปุ่นได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่21กันยายนปี1973 ในตลอด45ปีที่ผ่านมา เวียดนามและญี่ปุ่นได้กลายเป็นหุ้นส่วนระหว่างกันในหลายด้านที่นับวันมีความสำคัญมากขึ้นโดยเฉพาะ หลังจากที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชียเมื่อเดือนมีนาคมปี2014 ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีพัฒนาอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและมีประสิทธิภาพ
ความสัมพันธ์ในทุกด้านและจริงจัง
สำหรับด้านการเมือง ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังอยู่ในระยะที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ผู้นำทั้งสองประเทศได้ธำรงการเยือนและการพบปะต่างๆในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะ ในปี2017 นี่เป็นครั้งแรกที่มีการเยือนระดับสูง5ครั้งภายใน1ปี ซึ่งรวมถึงนิมิตหมายครั้งประวัติศาสตร์คือการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเวียดนามของสมเด็จพระจักรพรรดิและพระจักรพรรดินีญี่ปุ่น การเยือนเวียดนาม2ครั้งของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะและการเยือนเวียดนามของประธานสภาล่างญี่ปุ่นครั้งแรกในรอบ15ปี ปี2017ก็เป็นนิมิตหมายใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยทั้งสองประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเวียดนาม-ญี่ปุ่นในกรอบการเยือนญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกเมื่อเดือนมิถุนายนปี2017
ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นยังคงเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจชั้นนำของเวียดนามและเป็นประเทศสมาชิกแรกของกลุ่มจี7ที่รับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามเมื่อเดือนตุลาคมปี2011 จนถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นได้กลายเป็นหุ้นส่วนอันดับสองด้านการลงทุนเอฟดีไอ อันดับ 3 ด้านการท่องเที่ยวและอันดับ 4 ด้านการค้าของเวียดนาม มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศในปี2017อยู่ที่กว่า3หมื่น3พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังญี่ปุ่นบรรลุเกือบ1หมื่น7พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศใน3เดือนแรกของปี2018อยู่ที่8.7พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ16เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จนถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ญี่ปุ่นมีโครงการลงทุนเอฟดีไอในเวียดนาม 3,865โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนอยู่ที่กว่า55ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับ2จากจำนวนทั้งหมด116ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่สนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอให้แก่เวียดนามากที่สุดคือคิดเป็นร้อยละ 30 ของโอดีเอทั้งหมดที่เวียดนามได้รับ โครงการของญี่ปุ่นหลายโครงการได้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของเวียดนาม
ความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคง วัฒนธรรม การศึกษา การฝึกอบรม การท่องเที่ยวและการพบปะระดับประชาชนได้รับการเสริมสร้างและขยาย ในปี2017 จำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาเยือนเวียดนามอยู่ที่ 8แสนคน ส่วนนักท่องเที่ยวเวียดนามที่ไปเยือนญี่ปุ่นอยู่ที่ 3แสนคน นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นประเทศที่มีจำนวนนักศึกษาที่ศึกษาในประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด จนถึงต้นปี2018 จำนวนนักศึกษาเวียดนามที่ศึกษาในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 7หมื่น 5พันคน ส่วนความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆของทั้งสองประเทศก็ได้รับการผลักดันอย่างต่อเนื่อง
ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามและญี่ปุ่นได้ส่งเสริมความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก เช่น สหประชาชาติ การประชุมอาเซียน+ เอเปกและอาเซม โดยเฉพาะ ทั้งสองประเทศได้ร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของปีเอเปก2017 การประชุมผู้นำเอเปกครั้งที่25 ณ นครดานังและผลักดันการเจรจาและการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก
กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในกรอบการเยือนญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้มีการเจรจากับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น พบปะกับผู้นำรัฐสภาญี่ปุ่นและประธานสหภาพส.ส.มิตรภาพญี่ปุ่น-เวียดนาม ตัวแทนสมาคมสถานประกอบการและนักลงทุนชั้นนำของญี่ปุ่น ในการเจรจาเมื่อวันที่8ตุลาคม นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมืองผ่านการธำรงการเยือนและการพบปะระดับสูง ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ กลาโหมและความมั่นคงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ ในด้านการฝึกอบรมแหล่งบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดทำนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างยั่งยืนในเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังเสนอให้ญี่ปุ่นพิจารณาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีที่อยู่อาศัยสำหรับนักศึกษาเวียดนามที่กำลังศึกษาในประเทศญี่ปุ่นและอำนวยความสะดวกให้แก่การออกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม ส่วนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซอาเบะได้ยืนยันว่า รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเวียดนามผ่านการผลักดันโครงการโอดีเอและการลงทุนของผู้ประกอบการญี่ปุ่น ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความช่วยเหลือเวียดนามในการสร้างสรรค์รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ การปรับปรุงระเบียบราชการ การเพิ่มผลผลิตของแรงงาน มีส่วนร่วมปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในเวียดนาม
จากผลงานต่างๆ การเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกได้สร้างนิมิตหมายใหม่เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างสองประเทศในทุกด้านและจริงจังมากขึ้น.
Thu Hoa-VOV5