การควบคุมการใช้อำนาจเป็นขั้นตอนการปฏิบัติมติต่างๆเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรค

(VOVWORLD) -เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามได้ลงนามประกาศใช้ข้อกำหนดที่ 205 – QĐ/TW เกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้อำนาจในงานด้านบุคลากรและการต่อต้านการใช้ระบบเส้นสายใช้เงินซื้อตำแหน่ง   ซึ่งมติดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนการปฏิบัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12และมติต่างๆของคณะกรรมการกลางพรรคและกรมการเมืองเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรค

การควบคุมการใช้อำนาจเป็นขั้นตอนการปฏิบัติมติต่างๆเกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรค - ảnh 1การประชุมครั้งที่ 4 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 12 

ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศของเวียดนามได้กำหนดหน้าที่ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม กลาโหม ความมั่นคงและการต่างประเทศที่สำคัญและหนักหน่วง ซึ่งทำให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องปรุบปรุง เพิ่มเติมและพัฒนาหลักนโยบายและแนวทางอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการยกระดับทักษะในการนำพลังการต่อสู้และการเป็นพรรคกุมอำนาจ ส่วนรัฐก็เสร็จสิ้นการจัดทำกลไกและกฎหมายตามแนวทางแห่งการสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพและอำนาจการบังคับใช้ให้แก่การดำเนินงานของนิติรัฐสังคมนิยมและระบบการเมือง ส่วนบรรดาเจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรค โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารต้องมีคุณสมบัติความสามารถ คุณธรรม สติปัญญาและชื่อเสียงเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดี  การใช้อำนาจและการควบคุมการใช้อำนาจอย่างถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการใช้อำนาจเกินขอบเขตในงานด้านบุคลากรเท่านั้นหากยังค้ำประกันประสิทธิภาพในการนำของพรรคในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก

การควบคุมการใช้อำนาจรัฐมีบทบาทที่สำคัญและเป็นปัจจัยชี้ขาด

  จากความต้องการและหน้าที่ในสภาวการณ์ใหม่ การที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประกาศใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุมการใช้อำนาจในงานด้านบุคลากรและการต่อต้านการใช้ระบบเส้นสายเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถของพรรค สร้างสรรค์พรรคให้มีความโปร่งใสและเข้มแข็ง  การควบคุมการใช้อำนาจเป็นสิ่งที่พรรครัฐบาลและรัฐที่ปกครองด้วยอำนาจกฎหมายของทุกประเทศต้องปฏิบัติ  แม้จะมีจุดยืนที่แตกต่างกันเกี่ยวกับมาตรการและวิธีการปฏิบัติแต่การควบคุมการใช้อำนาจรัฐมีบทบาทที่สำคัญและเป็นสิ่งที่ย่อมปฏิบัติในทุกประเทศ ในทางเป็นจริง ปัญหาการใช้อำนาจเกินขอบเขตเป็นทั้งภัยคุกคามและเกิดขึ้นในทุกประเทศและระบบการเมือง  ดังนั้น ทุกประเทศต่างก็อยากพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพและยั่งยืนควบคู่กับการควบคุมการใช้อำนาจและค้ำประกันการบังคับใช้กฎหมาย อาทิเช่น ที่สหรัฐ หน้าที่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงตั้งแต่การป้องกันและตรวจสอบ  รัฐบาลมีบทบาทที่สำคัญในการเสนอ จัดทำและแนะนำการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งก็เหมือนกับเวียดนามหรือในระบบการเมืองของอังกฤษ การตรวจสอบควบคุมการใช้อำนาจเป็นวิธีที่ดีเพื่อค้ำประกันมาตรฐานของสังคมที่มีประชาธิปไตย  ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า การตรวจสอบควบคุมการใช้อำนาจ การป้องกันและการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น การป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายและความเสื่อมถอยในการดำเนินชีวิตของเจ้าหน้าที่บางคนเป็นปัญหาที่ประเทศต่างๆ รวมทั้ง เวียดนามให้ความสนใจเป็นพิเศษและเน้นจัดทำกลไกการปฏิบัติ

  การเพิ่มทักษะความสามารถในการนำและพลังการต่อสู้ของพรรค

  สิ่งที่ชัดเจนคือ การประกาศใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุมการใช้อำนาจในงานด้านบุคลากรและการต่อต้านการใช้ระบบเส้นสายการใชเงินซื้อตำแหน่งเป็นสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐเวียดนามได้ปฏิบัติเหมือนประเทศอื่นๆได้ทำอยู่ โดยเฉพาะตามเงื่อนไขของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การเมือง สังคมและสถานการณ์ที่เป็นจริงของเวียดนาม   เส้นทางการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพ   เอกราชของประชาชาติต้องผนึกแน่กับสังคมนิยมนั้นเป็นการเลือกเฟ้นของประวัติศาสตร์ ประธานโฮจิมินห์และประชาชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ที่ก้าวหน้า สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของยุคสมัยและตอบสนองความปรารถนาของประชาชน  บนเส้นทางนี้ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่มีผลประโยชน์อื่นใดนอกเหนือจากผลประโยชน์ของประชาชาติและประชาชน ซึ่งบทบาทการนำของพรรคต่อรัฐและสังคมถูกระบุในมาตราที่ 4 ของรัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับบทบาทของการเป็นพรรคการเมืองที่กุมอำนาจและหลักปฏิบัติสากล

เพื่อตอบสนองความต้องการของยุคแห่งการปฏิวัติใหม่  พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องพยายามยกระดับทักษะในการชี้นำและพลังการต่อสู้อย่างต่อเนื่องและการประกาศใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุมตรวจสอบการใช้อำนาจในงานด้านบุคลากรตามแนวทางเพิ่มความสมบูรณ์และแปรเนื้อหามติของคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมือง คณะเลขาธิการพรรคให้เป็นรูปธรรมในภาคปฏิบัติเพื่อสร้างสรรค์พรรคให้มีความโปร่งใสและเข้มแข็ง เพิ่มทักษะความสามาถในการนำและพลังการต่อสู้ของพรรค ก็เป็นกิจกรรมที่จำเป็นตามปกติเพื่อตอบสนองความต้องการในสถานการณ์ที่เป็นจริงของเวียดนามในระยะใหม่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด