การจัดทำร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นให้มีความสมบูรณ์
(VOVWorld)-เพื่อปฏิบัติโครงการร่างกฎหมายและกฤษฎีกาของรัฐสภาปี๒๐๑๖ หน่วยงานตรวจตราของรัฐบาลกำลังรวบรวมความคิดเห็นของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับเนื้อหาร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ การแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งนี้ของพรรคและรัฐเวียดนามเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่โปร่งใสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(VOVWorld)-เพื่อปฏิบัติโครงการร่างกฎหมายและกฤษฎีกาของรัฐสภาปี๒๐๑๖ หน่วยงานตรวจตราของรัฐบาลกำลังรวบรวมความคิดเห็นของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับเนื้อหาร่างกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ การแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งนี้ของพรรคและรัฐเวียดนามเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่โปร่งใสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
นาย ดิงวันมิง รองหัวหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์ตรวจตรา (Photo: baolangson)
|
กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่๑มิถุนายนปี๒๐๐๖ ซึ่งได้สร้างกลไกการป้องกัน การปราบปรามและการค้นพบกรณีทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างสมบูรณ์และกว้างลึก มีส่วนร่วมสร้างกลไกการบริหารภาครัฐและสังคมเพื่อไม่ให้เกิดกรณีทุจริตคอร์รัปชั่น แต่อย่างไรก็ดี ภายหลัง๑๐ปีที่ปฏิบัติ บางเนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวก็ไม่สอดคล้องกับความต้องการของงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังพัฒนาและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นจึงเป็นแนวทางใหญ่ของพรรคและรัฐ
การแก้ไขกฎหมายการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
จากความตั้งใจผลักดันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เวียดนามได้ผลักดันการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยประกาศใช้เอกสารกฎหมายและนโยบายเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยอย่างสมบูรณ์ให้แก่การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสามารถควบคุมการทุจริตคอร์รัปชั่นในบางด้าน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารของรัฐ ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รัฐบาลเวียดนามได้จัดทำร่างเนื้อหาใหม่บางส่วนของกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นฉบับแก้ไขเพื่อยื่นให้รัฐสภาพิจารณาอนุมัติ โดยเน้นถึงการยกระดับคุณภาพการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะ การนำกฎหมายให้เข้าสู่ชีวิตเพื่อตอบสนองสถานการณ์ที่เป็นจริง นาย ดิงวันมิง รองหัวหน้าสถาบันวิทยาศาสตร์ตรวจตราได้เผยว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นปัญหาที่ยากและซับซ้อน เป็นหน้าที่ที่เร่งด่วนและยาวนาน โดยต้องยืนหยัดการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องตามกฎหมายและมีการเข้าร่วมของทั้งระบบการเมืองและสังคม “เมื่อก่อนนี้ พวกเรามีกฤษฎีกาเกี่ยวกับการต่อต้านการคอร์รัปชั่นและปัจจุบันพวกเรามีกฎหมายการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่มีความสมบูรณ์กว่า โดยเฉพาะ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ปัจจุบัน มีหลายปัญหาที่เร่งด่วน แต่ในมติของพรรคและยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น พวกเราก็ได้กำหนดว่า การป้องกันเป็นมาตรการขั้นพื้นฐานและยาวนาน”
การประชุมเกี่ยวกับการประเมินการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัป์ชั่นปี๒๐๑๖ (Photo: vietnamplus.vn)
|
ขยายขอบเขตการแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การแก้ไขกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นได้รับความสนใจจากประชามติ ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนครั้งล่าสุดที่จัดโดยหน่วยงานตรวจตราของรัฐบาลได้แสดงให้เห็นว่า มีประชาชนกว่าร้อยละ๘๗เห็นว่า ต้องเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ละเมิดกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการป้องกัน กฎหมายดังกล่าวต้องมีกลไกค้ำประกันการปฏิบัติ การตรวจสอบกระบวนการปฏิบัติและมีความคิดเห็นว่า ต้องพิจารณาและเน้นถึงมาตรการป้องกันเพื่อสร้างพื้นฐานทางนิตินัยที่สำคัญเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นให้สอดคล้องกับอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น
ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า หนึ่งในเนื้อหาที่ต้องได้รับการปรับปรุงคือ ต้องกำหนดความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่บริหารของสำนักงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นาย เหงวียนต๊วนแอง รองหัวหน้าสำนักงานกฎหมาย ตรวจตราของรัฐบาลได้เผยว่า “ในกระบวนการแก้ไขกฎหมายผ่านผลการสำรวจ ต้องกำหนดความรับผิดชอบของผู้บริหารอย่างชัดเจน ตลอดจนการลงโทษทางวินัยหรือในรูปแบบที่ไม่ใช่ทางอาญา เมื่อก่อน เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าว ต้องปฏิบัติตามเอกสารฉบับต่างๆ ดังนั้น ในด้านการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องกำหนดวิธีการลงโทษอย่างชัดเจน”
ในสถานการณ์ที่เป็นจริง งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหน้าที่ที่เร่งด่วนและยาวนาน ซึ่งการปฏิบัติงานด้านนี้ ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ซึ่งในนั้น การเสร็จสิ้นการปรับปรุงกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญ โดยต้องมีข้อกำหนดที่ชัดเจนและง่ายต่อการปฏิบัติจึงจะสามารถสร้างกลไกและเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น.