ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก ฟังรายงานเกี่ยวกับการคุ้มครองพลเมืองเวียดนามในยูเครน

ตามข้อมูลสถิติ มีชาวเวียดนามในยูเครนประมาณเกือบ 7 พันคน โดยในหลายวันที่ผ่านมา เวียดนามได้จัดเที่ยวบิน 4 เที่ยวเพื่อรับพลเมืองเวียดนาม 1,100 คนกลับประเทศ ซึ่งมีสองเที่ยวที่ทางภาครัฐออกค่าเดินทางทั้งหมดและอีกสองเที่ยวที่ได้รับการสนับสนุนจากสถานประกอบการ

ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการช่วยเหลือพลเมือง
นับตั้งแต่ที่สถานการณ์ในยูเครนมีแนวโน้มซับซ้อนมากขึ้น ผู้นำเวียดนามได้กำหนดให้เรื่องการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน ผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของชาวเวียดนามและสถานประกอบการเวียดนามในยูเครนต้องได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการช่วยเหลือพลเมืองเวียดนามในยูเครนเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก ได้ย้ำว่า “เป้าหมายของเราคือไม่ปล่อยให้ชาวเวียดนามที่อาศัยในเขตการปะทะเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ดังนั้น การปกป้องช่วยเหลือพลเมืองเวียดนามต้องได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ควบคู่กันนั้นก็ต้องไม่ปล่อยให้พลเมืองเวียดนามประสบปัญหาขาดอาหารหรือเผชิญภัยหนาวในขณะที่อพยพกลับประเทศ นี่คือจิตใจแห่งความมีมนุษยธรรมและเป็นหน้าที่ที่เร่งด่วนในปัจจุบัน”
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามได้จัดกลุ่มปฏิบัติงานพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ยูเครน นำโดยนาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกรัฐมนตรีได้มีประกาศด่วนเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือพลเมืองและสถานประกอบการเวียดนามและปัญหาที่ต้องให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ชี้นำเรื่องการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยสูงสุดในด้านชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พลเมืองและสถานประกอบการเวียดนามในยูเครนและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งวางแผนการอพยพพลเมืองและเจ้าหน้าที่ในสำนักงานตัวแทนของเวียดนามในยูเครนถ้าหากจำเป็นและให้การช่วยเหลือด้านที่พัก อาหารและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ
ภายใต้การปฏิบัติตามการชี้นำจากรัฐและรัฐบาล ในหลายวันที่ผ่านมา เที่ยวบินต่างๆที่พาพลเมืองเวียดนามกลับประเทศได้ลงจอดที่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่ายในกรุงฮานอยอย่างซึ่งเที่ยวบินทุกเที่ยวได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากกระทรวง หน่วยงานและสำนักงานตัวแทนที่เกี่ยวข้องของเวียดนาม รวมถึง สถานประกอบการและองค์กรสมาคมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศยูเครนที่ดำเนินการอย่างรอบคอบและทันการณ์ ซึ่งเต็มไปด้วยจิตใจแห่งความช่วยเหลือจุนเจือกันระหว่างชาวเวียดนามด้วยกัน

นาย เหงียนหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำโปแลนด์และลิทัวเนียไปรับพลเมืองเวียดนามที่อพยพจากยูเครนไปยังโปแลนด์ (สถานทูตเวียดนามประจำโบแลนด์)

ควบคู่กับการรับพลเมืองกลับประเทศ ถึงบ่ายวันที่ 12 มีนาคม สำนักงานตัวแทนของเวียดนามได้ให้การช่วยเหลือพลเมืองเวียดนามกว่า 4,500 คนอพยพจากยูเครนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตัวแทนต่างๆได้ประสานงานกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่น องค์กรและสมาคมชาวเวียดนามในประเทศเหล่านี้ให้รับ จัดการเรื่องยานพาหนะ ที่พักและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ รวมถึงเรื่องเอกสารเพื่อสามารถให้ชาวเวียดนามได้กลับประเทศโดยเร็วที่สุด นาย เหงียนหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำโปแลนด์และลิทัวเนียเผยว่า “พลเมืองเวียดนามหลายคนอพยพจากยูเครนไปยังโปแลนด์แต่มีเอกสารไม่ครบตามข้อกำหนดของโปแลนด์ เช่น วีซ่าและเอกสารประจำตัว ซึ่งทางสถานทูตฯได้หารือกับสำนักงานทหารชายแดนโปแลนด์เพื่อให้การช่วยเหลือพลเมืองเวียดนามเพื่อให้สามารถเดินทางกลับเวียดนามได้”

ส่งเสริมความสามัคคีชนในชาติ
การชี้นำอย่างรวดเร็ว เด็ดขาดและทันการณ์ของผู้นำเวียดนามบวกกับการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกของเอกอัครราชทูตเวียดนามในประเทศที่มีการจัดเที่ยวบินกลับเวียดนามได้สร้างความมั่นใจให้แก่พลเมืองเวียดนามในขณะที่อพยพออกจากเขตปะทะ นาง ลิวถิหาว หนึ่งในผู้อพยพจากยูเครนที่กลับมาถึงเวียดนามแล้วได้กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจมากๆ ขอขอบคุณรัฐที่ช่วยเหลือให้ชาวเวียดนามได้กลับประเทศอย่างปลอดภัย  เราขอขอบคุณชุมรมชาวเวียดนามในโรมาเนียและมอลโดวาที่ให้การช่วยเหลือพวกเราในช่วงที่ลำบากนี้ ฉันไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่สามารถกลับประเทศได้ด้วยการช่วยเหลือของสถานทูตและชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศต่างๆ”

เจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามประจำโปแลนด์สนับสนุนพลเมืองเวียดนามขึ้นเครื่องบิน (VNA)

ส่วนนาง เหงียนถิแอ๊น จากจังหวัดเหงะอานกล่าวว่า “ฉันดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐให้กลับประเทศ โดยเฉพาะชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งในด้านที่พัก อาหารและการเดินทาง ชาวเวียดนามไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ให้การช่วยเหลือจุนเจือกันและสถานทูตทุกแห่งให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่”

ในเวลาที่จะถึง จะมีเที่ยวบินที่พาพลเมืองเวียดนามจากยูเครนกลับประเทศอีกหลายเที่ยว ควบคู่กันนั้น การสนับสนุนด้านยานพาหนะ ที่พักชั่วคราวและสิ่งของที่จำเป็นต่างๆก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่ต่อไป ซึ่งจากการชี้นำอย่างทันการณ์ของผู้บริหารเวียดนาม การช่วยเหลือของภาครัฐ สถานประกอบการ องค์กรและสมาคมต่างๆ งานด้านการช่วยเหลือพลเมืองกำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความมีมนุษยธรรม และความเป็นพี่น้องร่วมชาติโดยชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติเวียดนามได้.