การตั้งกระทู้ถามคือความรับผิดชอบของผู้แทนสภาแห่งชาติต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง (quochoi.vn)

การตั้งและตอบกระทู้ถามในสภาแห่งชาติได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศ โดยจะได้มีการถ่ายทอดสดทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งในเวลาที่ผ่านมา การตั้งและตอบกระทู้ถามในการประชุมสภาแห่งชาติได้ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคม ส่งผลในเชิงบกเพื่อผลักดันให้สำนักงานภาครัฐยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน

การตั้งและตอบกระทู้ถามตรงเป้าหมาย

การตั้งและตอบกระทู้ถามในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งนี้ได้รับการเตรียมพร้อมล่วงหน้าอย่างรอบคอบ โดยคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้เลือกกลุ่มประเด็นที่ตั้งและตอบกระทู้ถามเพื่อให้รัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ มีเวลาตรวจสอบ ประเมินและรายงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ต้องตอบกระทู้ถาม ส่วนผู้แทนสภาแห่งชาติก็มีเวลาศึกษาและตั้งกระทู้ถามตามประเด็นหลักๆ ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องการถาม นาง เหงียนถิหงอกซวน ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดบิ่งเยือง ประเมินว่า

“ฉันเห็นพ้องเรื่องที่หลังการประชุม คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติเลือกข้อเสนอบางข้อที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเพื่อติดตามต่อไป เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในความเป็นจริง จากนั้น สภาแห่งชาติจะพิจารณาและยื่นเสนอให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องยกระดับคุณภาพในการดำเนินงาน โดยเฉพาะในภารกิจการตรวจสอบเพื่อตอบสนองความปรารถนาที่ชอบธรรมของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง”

เนื้อหาที่สำคัญๆ ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรอคอยในการตั้งและตอบกระทู้ถามครั้งนี้

ในการตั้งและตอบกระทู้ถามครั้งนี้ของสภาแห่งชาติ กลุ่มประเด็นที่ได้เลือกทั้ง 4 กลุ่มต่างเป็นประเด็นที่ครอบคลุม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในเวลาที่จะถึง พร้อมทั้งมีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นาง เจิ่นถิหญิห่า ผู้แทนสภาแห่งชาติกรุงฮานอย รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการที่ดูแลความปรารถนาของประชาชนสภาแห่งชาติแสดงความคิดเห็นว่า ในการประชุมครั้งก่อนๆ สภาแห่งชาติได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการตั้งและตอบกระทู้ถาม ซึ่งตอบสนองความปรารถนาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยยกระดับจิตใจแห่งการ “ตั้งกระทู้ถามอีกครั้ง” เกี่ยวกับการปฏิบัติคำมั่นของสมาชิกรัฐบาล อันเป็นเนื้อหาที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า หน่วยงานที่ได้รับการตั้งกระทู้ถามจะมีพลังขับเคลื่อนและวิธีการดำเนินงานใหม่ๆ เพื่อแก้ไขอุปสรรค กระตุ้นการพัฒนาของหน่วยงานและช่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลดความกังวลบนเจตนารมณ์เพื่อผลประโยชน์ของประชาชาติ

ส่วนนาย ลิวบ๊าหมาก ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดหลางเซินได้แสดงความสนใจถึงนโยบายเฉพาะเพื่อดึงดูดการลงทุนให้แก่กิจกรรมด้านวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว โดยเสนอว่า

“รัฐบาลควรมีกลไกและนโยบายเฉพาะสำหรับศิลปินและนักแสดงที่มีเกณฑ์อายุทางด้านอาชีพน้อยกว่าเกณฑ์อายุเกษียณราชการทั่วไป เพื่อดึงดูดผู้ที่ทำงานในด้านศิลปะ เพื่อมีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพในรายการแสดงศิลปะต่างๆ และปฏิบัติหน้าที่ทางการเมือง ตอบสนองความต้องการที่นับวันสูงขึ้นของประชาชนในด้านวัฒนธรรม”

สำหรับงานด้านวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงนโยบายเฉพาะและการดึงดูดเงินลงทุนให้แก่การจัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยว ใช้วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรม รองศ.ดร. บุ่ยหว่ายเซิน สมาชิกคณะกรรมาธิการวัฒนธรรมและการศึกษาสภาแห่งชาติแสดงความคิดเห็นว่า

“ในระยะปัจจุบัน การพัฒนาวัฒนธรรมนุษย์เวียดนามมีโอกาสมากมายแต่ก็ประสบความท้าทายต่างๆ ต้องหาทางใช้โอกาสนี้ฟันฝ่าความท้าทายและแก้ไขอุปสรรคพัฒนาวัฒนธรรม ช่วยให้วัฒนธรรมเป็นพื้นฐานทางจิตใจของสังคม เป็นเป้าหมายและพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม พร้อมทั้งปลูกฝังความคาดหวังพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองและผาสุก ซึ่งเป็นหนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญในเวลาที่จะถึง”

การตั้งกระทู้ถามคือวิธีการตรวจสอบที่มีความสำคัญมากสะท้อนความรับผิดชอบของสภาแห่งชาติและผู้แทนสภาแห่งชาติต่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมทั้งกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างความกระจ่างแจ้งในปัญหาต่างๆ ที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เสนอมาตรการแก้ไขอุปสรรคต่างๆให้ทันการณ์ สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่น่ายินดีและปฏิบัติเป้าหมายต่างๆ ในปี 2024 และในวาระ 2021-2026อย่างสำเร็จลุล่วง.