การขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ Cat Lai นครโฮจิมินห์ (VNA)

เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตของตลอดทั้งปีที่ร้อยละ 7 ตามแผนการที่ได้ตั้งไว้ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024  เวียดนามต้องบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 7.5  การเติบโตในเชิงบวกในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ไว้บวกกับความคิดเห็นในเชิงบวกของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตในช่วงเดือนสุดท้ายของปีถือเป็นปัจจัยในเชิงบวกที่สร้างแรงผลักดันให้แก่การเติบโตในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024

มีโอกาสมากมายเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อแก้ไขอย่างเข้มแข็งเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการในการแก้ไขผลเสียหายจากพายุยางิ ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจ-สังคมในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว และยังคงบรรลุผลงานที่สำคัญๆ ซึ่งได้รับการชื่นชมเป็นอย่างสูงจากองค์กรระหว่างประเทศและสถานประกอบการ เศรษฐกิจมีการเติบโตเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยจุดเด่นมากมาย โดยเฉพาะการผลิตภาคอุตสาหกรรม การส่งออกและการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือ FDI ซึ่งในนั้น มูลค่าเพิ่มของภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.34 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกสินค้าบรรลุกว่า 2 แสน 9 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาคการค้า การท่องเที่ยวและการขนส่งธำรงการเติบโตเป็นอย่างดีซึ่งมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างชาติ โดยจนถึงวันที่ 30 กันยายน เงินทุน FDI ในเวียดนามอยู่ที่ 2 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ควบคู่กันนั้น การเติบโต GDP ในไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะบรรลุร้อยละ 7.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อได้ ความสมดุลสำคัญ ๆ ได้รับการค้ำประกัน สถานการณ์ทางการเงินและงบประมาณได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สถานประกอบการมีแนวโน้มพัฒนาอย่างเข้มแข็งต่อไป นวัตกรรมเติบโตอย่างเข้มแข็ง  สวัสดิการสังคมและด้านต่างๆ เช่น วัฒนธรรม สังคม การศึกษาและสาธารณสุขบรรลุผลงานที่น่ายินดี นาง ฟี้ถิเฟืองงา อธิบดีกรมสถิติอุตสาหกรรมและการก่อสร้างของทบวงสถิติประเมินว่า

“พายุไต้ฝุ่นยางิส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นหลายแห่งในภาคเหนือ รวมถึงท้องถิ่นบางแห่งซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม เช่น ไฮฟองและกว๋างนิงห์ แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการได้เป็นฝ่ายรุกในการเตรียมแผนการเพื่อปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การผลิตที่ยากลำบากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาผ่านการปรับปรุงระบบการผลิตอีกครั้งเพื่อค้ำประกันว่า คำสั่งซื้อที่ได้ลงนามกับหุ้นส่วนต่างๆจะได้รับการผลิตตามเวลาที่ตกลงกันไว้”

การแปรรูปปลาทูน่าแช่แข็งเพื่อส่งออกที่โรงงานของบริษัท Binh Dinh Seafood (VNA)

ด้วยผลสำเร็จของการเติบโตในเชิงบวกของเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา นาย เจิ่นก๊วกเฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนได้เผยว่า

“ด้วยผลงานที่ได้บรรลุในไตรมาส 3 และในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงวางแผนและการลงทุนยังคงรายงานต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ธำรงเป้าหมายการเติบโตของตลอดทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 7 และถ้าหากมีเงื่อนไขที่เอื้ออำนวย ก็สามารถพยายามบรรลุเป้าหมายสูงกว่าร้อยละ 7 ได้”

องค์กรเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศเป็นจำนวนมากยังได้แสดงความคิดเห็นในแง่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม และมีการคาดการณ์ในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโต โดยองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือ Fitch Ratings ของสหรัฐคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของเวียดนามคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 6-7  ในระยะกลาง เนื่องจากกระแสเงินทุน FDI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารโลกหรือ WB ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามเป็นบวก ส่วนฝ่ายวิจัยตลาดและเศรษฐกิจโลกของธนาคารยูโอบี ประเทศสิงคโปร์คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2024  จะสูงถึงร้อยละ 6.4

นาย เจิ่นก๊วกเฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน (VGP)

พยายามเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้

ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณการเติบโตในเชิงบวกมากมาย แต่เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ต้องมีความพยายามของสังคม การประสานงานที่กลมกลืมระหว่างกระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่น การเป็นฝ่ายรุกและความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการ ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมของรัฐบาลกับท้องถิ่นต่างๆประจำเดือนกันยายน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอว่า

“ต้องเน้นชี้นำให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการเติบโต นโยบายการคลัง นโยบายการเงิน และนโยบายอื่นๆ ต้องประสานงานอย่างกลมกลืน มีประสิทธิภาพและทันท่วงที โดยเฉพาะนโยบายการเงินต้องปฏิบัติในเชิงรุก เป็นบวกและทันเวลา นโยบายการคลังต้องขยายออกไปโดยเน้นถึงเป้าหมายต่างๆต้องเน้นถึงพลังขับเคลื่อนการเติบโตแบบดั้งเดิม 3 ด้าน ได้แก่ การลงทุน การบริโภคและการส่งออก และพลังขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ยารักษาโรค หรือวัตถุดิบสำหรับการผลิต การประกอบธุรกิจและอุปโภคบริโภคของประชาชน ต้องระดมพลังทุกแหล่งให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการเติบโต ส่งเสริมการลงทุนภาครัฐเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการผลิตและประกอบธุรกิจ สร้างงานทำให้แก่ประชาชน ยกระดับชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจของประชาชนให้ดีขึ้น เสร็จสิ้นการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัวที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยเนื่องจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะ การแก้ไขผลเสียหายจากพายุและน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในเวลาที่ผ่านมา”

เวียดนามมีเวลาเหลืออีก 3 เดือนก่อนสิ้นสุดปีนี้เพื่อปฏิบัติเป้าหมายที่ได้วางไว้  ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เวียดนามสามารถธำรงการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องบวกกับการที่ รัฐบาลเวียดนามได้มีการชี้นำและมีนโยบายอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจและสังคมหลังพายุไต้ฝุ่นยางิ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สะดวกเพื่อให้เวียดนามเชื่อมั่นต่อการเติบโตในเชิงบวกของปี 2024.