การปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม
Huyen VOV5 -  
ในปี 2012 พร้อมกับการปฏิรูปสถานประกอบการภาครัฐและธนาคาร
รัฐบาลเวียดนามยังตั้งเป้าไว้ว่า
จะทำการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในตลาดการเงินเพื่อระดมเงินทุนให้แก่การพัฒนา
คณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐเวียดนามได้เลือกปี 2012 เป็นปีที่จะทำการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์และได้ยื่นแผนการปฏิรูปดังกล่าวให้แก่รัฐบาล โดยเน้น 4 ปัญหาที่สำคัญคือ การปฏิรูปตัวกลางทางการเงิน ตลาดสินค้า อุปสงค์ด้านการลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ การฟื้นฟูตลาดหลักทรัพย์ละเศรษฐกิจของประเทศถือเป็นเรื่องที่จำเป็น ตลาดหลักทรัพย์ของวน.ได้เปิดทำการมาถึง 11 ปีแล้วและสามารถระดมเงินทุนได้ประมาณ 4 แสนพันล้านด่ง ซึ่งมีส่วนช่วยให้สถานประกอบการหลายแห่งสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในหลายปีมานี้ ตลาดหลักทรัพย์เวียดนามเริ่มอยู่ในภาวะที่ไม่สมดุล โดยการซื้อขายและความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ลดลง รวมทั้งราคาของหุ้นหลักๆก็พลอยตกลงไปด้วย เฉพาะในปี 2011 VN – Index ได้ลดลงร้อยละ 25 และสภาพคล่องลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับปี 2010 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาภายในของตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ในช่วงปี 2000 เวียดนามมีบริษัทหลักทรัพย์ 6 แห่งและมีหุ้นติดประกาศสองหุ้นเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์อีกหลายแห่งเพื่อแสวงหากำไรจากตลาดหลักทรัพย์ เพราะว่า หลังจากที่ได้รับใบอนุญาติ ราคาหุ้นได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ดังนั้นจนถึงขณะนี้ ในเวียดนามมีบริษัทหลักทรัพย์รวม 105 แห่ง และมีผู้เปิดบัญชีซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์เหล่านี้ 1 ล้าน 2 แสนบัญชีโดยบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์บางแห่งมีขนาดเล็กและมีความสามารถทางการเงินไม่มากนัก ซึ่งไม่สามารถตอบสนองการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความเสี่ยงมาก ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการคัดเลือกเพื่อให้เหลือบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพเพียง 20-30 แห่งเท่านั้น นาย Nguyen Thanh Ky เลขาธิการสมาคมธุรกิจหลักทรัพย์เวียดนามเผยว่า “อาจกล่าวได้ว่า ในเวลาที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนามมีความอ่อนแอเป็นอย่างมาก โดยมีปัญหาหลายอย่างในการตั้งมาตรฐานการรายงานข้อมูลข่าวสาร จนทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ไม่ทันการณ์และไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน จนทำให้บริษัทและนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้”
ควบคู่กันนั้น การติดประกาศของสถานประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ในเวลาที่ผ่านมายังไม่มีประสิทธิภาพตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการติดประกาศหุ้นจำนวนมากแต่คุณภาพของบริษัทเหล่านี้ยังไม่สูงนัก โดยเฉพาะข้อจำกัดในการบริหารและความโปร่งใส ในช่วงปี 2010 -2011 มีบริษัทที่ติดประกาศซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งต้องล้มละเลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยบริษัทบางแห่งต้องขอยกเลิกการติดประกาศเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ราคาหุ้นตกอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่า ในต่างประเทศ มากตรการแก้ไขดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายแต่สำหรับในเวียดนาม นี่คือวิธีการที่ได้รับการยอมรับเพื่อให้บริษัทเหล่านี้ปกป้องเงินทุน นาย Do Bao Ngoc ผู้เชี่ยวชาญบริษัทหลักทรัพย์ Habubank เผยว่า “ในทางเป็นจริง ราคาหุ้นที่ติดประกาศของบริษัทหลายแห่งลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่ำกว่าราคาที่เป็นจริงของสถานประกอบการ ดังนั้นการติดประกาศในช่วงนี้ถือเป็นปัญหาที่ยากลำบากของสถานประกอบการที่กำลังประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ”
ในสภาวะการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งรัฐได้ร่างโครงการปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 เดือนเมษายนนี้ โดยจะแบ่งเป็นสองระยะ คือช่วงปี 2012-2013และช่วงปี 2013-2015 นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการจะเพิ่มการตรวจตราและสั่งให้หน่วยงานตรวจสอบการเงินรายงานเกี่ยวกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ขาดประสิทธิภาพ อธิบายเกี่ยวกับสาเหตุและวางมาตรการแก้ไข เพื่อมุ่งสู่การปฏิรูปตลาดหลักทรัพย์โดยผ่านการขายหนี้เสีย ชลอหนี้หรือลดขอบเขตการประกอบธุรกิจ เป็นต้น รวมทั้งจำเป็นต้องมีมาตรการแก้ไขทั้งในด้านเศรษฐกิจและราชการเพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์มีส่วนร่วมต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2012 ./.
Huyen VOV5