การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 – บทเรียนเกี่ยวกับการรวมพลังที่เข้มแข็งของประชาชนภายใต้การนำที่ปรีชาสามารถของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
Nguyên Nhung - Lại Hoa -  
(VOVWORLD) - การปฏิวัติเดือนสิงหาคมและการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในฤดูใบไม้ร่วงปี 1945 ได้สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อที่ยิ่งใหญ่และเปลี่ยนแปลงอนาคตของประชาชาติเวียดนาม ชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมได้ยืนยันถึงบทบาทที่สำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในการวางแนวทางที่ถูกต้องเพื่อปลดปล่อยประชาชาติ ระดมพลังที่เข้มแข็งและความสามัคคีชนในชาติ มีวิธีการต่อสู้ที่สร้างพลังที่เข้มแข็งและส่งเสริมให้ประชาชนทั่วประเทศทำการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่จนได้รับชัยชนะ ซึ่งบทเรียนเหล่านี้ยังคงทรงคุณค่าและกำลังได้รับการประยุกต์ใช้ในภารกิจการสร้างสรรค์ พิทักษ์รักษาและพัฒนาประเทศในปัจจุบัน
ชาวฮานอยประท้วงและเข้ายึดตึก Kham Sai Bac Ky หรืออาคารบริหารภาคเหนือ เลขที่ 12 ถนนโงเกวี่ยน กรุงฮานอย ในวันลุกขึ้นสู้ 19 สิงหาคมปี1945 (baodansinh.vn) |
ภายในเวลาแค่ 10 วัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ชี้นำประชาชนทั่วประเทศปลดแอกของการตกเป็นทาสที่ยาวนานเกือบ100ปีและทำลายระบอบศักดินาที่สืบทอดมานับพันปีเพื่อช่วงชิงเอกราชประชาชาติและสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งเป็นรัฐแรกของชนชั้นกรรมกรและชาวนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงนั้น พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รับการก่อตั้งและพัฒนาได้เพียง 15 ปีด้วยสมาชิกพรรค 5,000คน ได้เผยแพร่จุดประกายอุดมการณ์แห่งเอกราชและเสรีภาพให้แก่ประชาชน 20 ล้านคน เพื่อรวมพลังที่เข้มแข็งของชนทั้งชาติในการลุกขึ้นสู้เพื่อยึดอำนาจการปกครอง โดยกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติที่มีพันธมิตรของกรรมกร เกษตรกร และปัญญาชนเป็นแกนหลัก ได้รวบรวมประชาชนทำการต่อสู้เพื่อตอบสนองความต้องการ ความปรารถนาและผลประโยชน์ของประชาชนจนนำไปสู่ความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ศ.ดร. หว่าง ชี้ บ๋าว จากสภาทฤษฎีส่วนกลางได้ประเมินว่า“การปฎิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ การส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความรักชาติคือปัจจัยที่สำคัญในการสร้างพลังที่เข้มแข็งชนทั้งชาติ ชัยชนะของการปฎิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ได้นำไปสู่การจัดตั้งรัฐของประชาชนอย่างสมบูรณ์ภายหลังถูกกดขี่ขูดรีดมายาวนานตลอด 100ปีและอยู่ภายใต้ระบอบศักดินาที่ล้าหลังมานับพันปี”
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 ได้ถอดบทเรียนอันล้ำค่าต่างๆโดยเฉพาะบทเรียนเกี่ยวกับการถือประชาชนเป็นรากฐาน การสร้างสรรค์และส่งเสริมกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในทุกกิจกรรมของประชาชาติ บทเรียนเกี่ยวกับการชี้นำที่ปรีชาสามารถและถูกต้องของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ในการใช้โอกาสต่างๆอย่างทันการณ์ สำหรับบทบาทการชี้นำของพรรคฯสะท้อนให้เห็นจากความรับผิดชอบในระดับสูง ความคล่องตัว เป็นฝ่ายรุกและความคิดสร้างสรรค์ขององค์กรพรรคสาขาท้องถิ่น ของสมาชิกพรรคที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดี ซึ่งช่วยค้ำประกันการชี้นำที่เป็นเอกภาพของพรรคฯในการตัดสินใจปัญหาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นาย หวู กวาง วิง อดีตรองบรรณาธิการใหญ่นิตยสารประวัติศาสตร์ของพรรคสังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า“การที่พรรคฯได้ชี้นำการใช้โอกาสต่างๆในการปฏิวัติเดือนสิงหาคมแสดงให้เห็นว่า พรรคได้เป็นฝ่ายรุกในใช้โอกาสต่างๆอย่างทันการณ์เพื่อชี้นำให้ประชาชนทำการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ในทั่วประเทศ โดยบทเรียนที่สำคัญคือต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเข้าใจแนวทางของพรรคอย่างถ่องแท้เพื่อประยุกต์ใช้ในการชี้นำให้ประชาชนทำการต่อสู้ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในท้องถิ่น อีกทั้งต้องติดตามสถานการณ์ภายในประเทศและโลกเพื่อใช้โอกาสการปฏิวัติที่นำไปสู่ชัยชนะ”
เมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ณ จัตุรัส บาดิ่งห์ในกรุงฮานอย ประธานโฮจิมินห์ในนามของรัฐบาลเฉพาะกาลได้อ่านปฏิญญาเอกราชก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม (hanoimoi.com.vn) |
อีกบทเรียนที่ล้ำค่าของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 คือพรรคฯได้วางแนวทางปลดปล่อยประชาชาติที่ถูกต้อง ระดมความสามัคคีชนในชาติในแนวร่วมเวียดมินห์ คัดเลือกและผสมผสานรูปแบบการประชาสัมพันธ์ การชี้นำและวิธีการต่อสู้ที่เหมาะสมเพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็ง พัฒนากองกำลังปฏิวัติ ส่งเสริมขบวนการต่างๆ ตลอดจนพยากรณ์และใช้โอกาสต่างๆอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รองศ. ดร. โง ดัง จี จากคณะประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้เผยว่า บทเรียนเกี่ยวกับการนำของพรรคฯในการปฏิวัติเดือนสิงหาคมควรได้รับการส่งเสริม“การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม การปฏิวัติเดือนสิงหาคม สงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่ยิ่งใหญ่และมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นผลของสติปัญญาและความมุ่งมั่นตั้งใจของพรรคต่อประชาชนและประชาชาติ ซึ่งเพื่อสานต่อผลสำเร็จดังกล่าว พรรคฯต้องไม่ประมาท ต้องมีมาตรการและวิธีการฝึกฝนหล่อหลอมสมาชิกพรรคฯและปรับปรุงองค์กรพรรคฯให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 แสดงให้เห็นถึงความปรีชาสามารถ แนวทางการชี้นำ การใช้โอกาสการปฏิวัติและพลังการต่อสู้ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในช่วงเวลาที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นบทเรียนที่ยังคงทรงคุณค่าในการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคฯ ตอบสนองความต้องการในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศในปัจจุบัน.
Nguyên Nhung - Lại Hoa