( VOVworld )-การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปหรืออียูจะมีขึ้นในวันที่ ๗ และ ๘ เดือนนี้ ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม  โดยเน้นหารือปัญหางบประมาณขององค์การระยะปี ๒๐๑๔ – ๒๐๒๐ ซึ่งเป็นประเด็นที่ที่ประชุมนัดก่อนๆหยิบยกมาถกเถียงกันอย่างรุนแรง  และในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของสหภาพยุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของงบประมาณ ๑ ล้านล้านยูโร

ฟรังซัวร์ ออลลอนด์ของฝรั่งเศสได้เตือนว่า แม้ฝรั่งเศสอยากได้ข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณก็ตาม แต่ยากที่จะมีความเห็นพ้องกันอย่างทันที   ในขณะเดียวกัน นางอังเจลา เมอร์เกล นายกฯเยอรมนีก็ยอมรับว่า ตนได้เตรียมใจไว้แล้วสำหรับการเจรจาที่คาดว่าจะไม่ราบรื่น  ส่วนนาย มาร์ติน ซูล์ซ ประธานสภายุโรปหรืออีพีได้วิเคราะห์สถานการณ์ของกลุ่มอียูที่ตีพิมพ์ได้ลงในนสพ.ฉบับหนึ่งของเยอรมนีว่า อียูอาจจะได้รับความเสี่ยงในอนาคต อีกทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอียูผ่านความเห็นชอบงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมเนื่องจากวิกฤตทางการเงิน

ในร่างงบประมาณระยะยาวของสหภาพยุโรปที่นายเฮอร์มาน วาน รอมปุย ประธานสหภาพยุโรปประกาศกลางเดือนพฤศจิกายนปี ๒๐๑๒ ที่ผ่านมา งบประมาณขององค์กรนี้ระยะปี ๒๐๑๔ – ๒๐๒๐ จะถูกปรับลด ๘ หมื่นล้านยูโร ซึ่งน้อยกว่างบประมาณที่ถูกเสนอให้ปรับลด ๔ หมื่นล้านยูโรโดยประเทศที่สมทบงบประมาณหลักรวมทั้งอังกฤษและเยอรมนีเสนอ  ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเพราะประเทศเหล่านี้ไม่อยากสมทบเงินมากในช่วงเวลารัดเข็มขัดปัจจุบัน  ซึ่งอังกฤษได้เรียกร้องให้ปรับลดงบประมาณมากที่สุด อีกทั้งไม่พอใจต่องบประมาณประจำปีที่อียูจัดให้แก่ประเทศตนเพราะเห็นว่า มันน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเงินสมทบของตน ซึ่งทัศนะคติดังกล่าวยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ส่วนนายกฯอิตาลี่ มารีโอ มอนติมีความคิดเห็นว่า การสมทบเงินเข้างบประมาณของสหภาพยุโรปต้องเหมาะกับสถานภาพทางการเงินของแต่ละประเทศ เนื่องจาก

อิตาลี่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตทางการเงิน  สำหรับฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปก็ได้เตือนว่าจะคว่ำบาตรหากอัตราเงินสมทบเข้างบประมาณถูกปรับลดจำนวนมาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้ประเทศสมาชิกต้องเริ่มต้นการเจรจางบประมาณจากจุดสตาร์ตใหม่

หากการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปไม่สามารถผ่านความเห็นชอบงบประมาณได้ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมจะส่งผลกระทบในทางลบต่อแรงงานในแต่ละประเทศสมาชิกโดยเศรษฐกิจจะถดถอย อัตราคนว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์และความแตกต่างด้านการเงินระหว่างประเทศสมาชิกก็จะทำให้เกิดช่องว่างมากขึ้นจนยากที่จะเชื่อมโยงเข้าใกล้กันได้  ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงปัญหาที่ยุโรปมีความสามารถทางการเงินไม่เพียงพอเพื่อยับยั้งผลกระทบจากวิกฤตภายในกลุ่ม

สหภาพยุโรปเคยประสบความล้มเหลวในการตกลงงบประมาณกว่า ๑ ล้านล้านยูโรในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และในการประชุมสุดยอดในเร็วๆนี้ที่จะหารือเพื่อนำไปสู่การตกลงกันในปัญหางบประมาณที่ยืดเยื้อมาหลายเดือนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของ ๒๗ ประเทศสมาชิกก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ./.