ฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย– ยุโรปหรืออาเซมได้รับการจัดตั้งเมื่อปี๑๙๙๖ตามความคิดริเริ่มของสิงคโปร์และฝรั่งเศสและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากองค์การอาเซียนซึ่งเป็นฟอรั่มสนทนาอย่างไม่เป็นทางการระหว่างบรรดาผู้นำรัฐบาลประเทศสมาชิกอาเซม ผู้นำสหภาพยุโรปหรืออียูและคณะเลขาธิการอาเซียน ปัจจุบัน อาเซมมีสมาชิก๕๓ประเทศ มีประชกรคิดเป็นร้อยละ๖๓ของประชกรโลก จีดีพีคิดเป็นร้อยละ๕๗และมูลค่าการค้าคิดเป็นร้อยละ๖๘ของมูลค่าการค้าของโลกและการขยายตัวและเจริญเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของอาเซมกำลังสร้างพลังที่เข้มแข็งให้แก่ฟอรั่มที่ใหญ่เป็นอันดับ๒ของโลกนี้รองจากสมัชชาใหญ่สหประชาชาติและเป็นกลไกร่วมมือระหว่างภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในปัจุบัน

การกระชับความร่วมมือและการสนทนาเพื่อแสวงหามาตรการเพื่อรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รับมือกับความท้าทายทั่วโลกเป็นเนื้อหาสำคัญของการประชุมอาเซมครั้งนี้ในหัวข้อ“หุ้นส่วนที่มีความรับผิดชอบเพื่อการขยายตัวและความมั่นคงที่ยั่งยืน”โดยเน้นอภิปรายเนื้อหาสำคัญ๔ประการคือ ปัญหาเศรษฐกิจ– การเงิน และการเชื่อมโยงเอเชีย– ยุโรป ปัญหาต่างๆทั่วโลก ปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ให้ความสนใจร่วมกันและกำหนดแนวทางในอนาคตของอาเซมประชาชนนับร้อยล้านคนในทั้งสองทวีปหลุดพ้นจากความยากจน หลายประเทศบรรลุรายได้ระดับปานกลาง บางประเทศกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแต่ในทางกลับกันโลกก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาน้ำทะเลหนุน ทรัพยากรธรรมชาติที่ใกล้หมดไป ความมั่นคงด้านพลังงาน อาหาร และแหล่งน้ำถูกคุกคาม ด้วยเหุตนี้ การร่วมมือกันเพื่อเพื่อฟันฝ่าความท้าทาย และขยายตัวอย่างยั่งยืนเป็นเป้าหมายที่อาเซมกำลังมุ่งสู่ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ท่านหวูวันนิงรองนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันในการประชุมที่อยู่ในกรอบความร่วมมืออาเซมที่จัดขึ้น ที่เวียดนามเมื่อเร็วๆนี้ “ในสภาวการณ์แห่งโลกาภิวัตน์ การผสมผสานอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นและการพึ่งพากันนับวันยิ่งสูง ไม่มีประเทศและรัฐบาลใดที่สามารถมีปฏิบัติการเพียงลำพังแต่ฝ่ายเดียวเพื่อรับมือกับความท้าทาย จากที่เป็นหนึ่งในฟอรั่มระหว่างภูมิภาคที่สำคัญและมีศักยภาพสูงทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาเซมมีความสามารถเพียงพอและมีความรับผิดชอบเพื่อมีส่วนร่วมนำสองทวีปกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก”

ใน๑๘ปีที่เข้าร่วมอาเซม เวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มแข็ง คล่องตัวและมีความรับผิดชอบอยู่เสมอและจากการเป็นหนึ่งในประเทศที่จัดตั้งอาเซม เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่สำคัญๆให้แก่ฟอรั่มนี้ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้เสนอหลายความคิดริเริ่มเพื่อขยายความร่วมมืออาเซมในด้านวัฒนธรรม การศึกษา สาธารณสุข การคมนาคมขนส่ง ความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะเวียดนามเป็นประเทศนำหน้าในอาเซมในการผลักดันการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายของสหประชาชาติอย่างแข็งขัน  การเข้าร่วมความร่วมมือในอาเซมยังได้ช่วยให้เวียดนามเรียนรู้ประสบการณ์ ได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือจากประเทศสมาชิกอาเซมในการปรับปรุงรูปแบบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อนุรักษ์และใช้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งสิ่งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามตั้งแต่บัดนี้ถึงปี๒๐๒๐ คือพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืนโดยเชื่อมโยงกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ท่านเจิ่นห่งห่ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า “สำหรับเวียดนาม เศรษฐกิจยังประสบความยากลำบาก อุปสรรคสำคัญในปัจจุบันคือปัญหาเทคโนโลยีและเงินลงทุน ด้วยเหตุนี้ ในกระบวนการพัฒนา เวียดนามต้องกำหนดขั้นตอนและด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการวางแผนการลงทุนตามแนวทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีสีเขียว พลังงานที่สะอาดเพื่อนำมาซึ่งประสิทธิภาพให้แก่หลายเป้าหมาย”

เข้าร่วมการประชุมอาเซมครั้งนี้ ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงนายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นหนึ่งใน๓ผู้นำท่านแรกๆที่กล่าวปราศรัยในการประชุมครบองค์เกี่ยวกับปัญหาทั่วโลกและมีส่วนร่วมในข้อเสนอและความคิดสร้างสรรค์ที่กำลังเป็นความสนใจของแทบทุกประเทศในโลกต่อไป และก็เป็น๑ใน๓ผู้นำเอเชียที่ได้รับคำเชิญพบปะและสนทนากับนักธุรกิจชั้นนำจากเอเชียและยุโรปในกรอบฟอรั่มนักธุรกิจเอเชีย– ยุโรปครั้งที่๑๔ นอกรอบการประชุม ท่านเหงวียนเติ๊นหยุงยังมีการพบปะหารือทวิภาคีกับผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆซึ่งจะมีส่วนร่วมกระชับความไว้วางใจทางการเมือง และผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆต่อบรรดาหุ้นส่วนที่สำคัญในทั้งสองทวีป./.