การพบปะระดับสูงยากที่จะแก้ไขปัญหายูเครนอย่างสันติ

(VOVworld) – วันที่ 26 สิงหาคม ที่กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส ได้มีการพบปะระดับสูงระหว่างยูเครน รัสเซียและสหภาพยุโรปหรืออียูเพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงานและการปะทะในภาคตะวันออกของยูเครน แต่ก่อนการประชุมครั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงยืนกรานจุดยืนของตนในการลดความตึงเครียดในประเทศยูเครน จนผู้สังเกตุการณ์หลายคนบอกว่า การประชุมครั้งนี้ยากที่จะบรรลุความคืบหน้า
(VOVworld) – วันที่ 26 สิงหาคม ที่กรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส ได้มีการพบปะระดับสูงระหว่างยูเครน รัสเซียและสหภาพยุโรปหรืออียูเพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงานและการปะทะในภาคตะวันออกของยูเครน แต่ก่อนการประชุมครั้งนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงยืนกรานจุดยืนของตนในการลดความตึงเครียดในประเทศยูเครน จนผู้สังเกตุการณ์หลายคนบอกว่า การประชุมครั้งนี้ยากที่จะบรรลุความคืบหน้า
การพบปะระดับสูงยากที่จะแก้ไขปัญหายูเครนอย่างสันติ - ảnh 1
กองทัพรัสเซียอยู่ในบริเวณชายแดนติดกับยูเครน (Photo Reuters)

การพบปะระดับสูงระหว่างรัสเซีย ยูเครนและอียูมีขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับยูเครนกำลังตึงเครียดเป็นอย่างมาก ซึ่งยูเครนได้กล่าวหาว่า รัสเซียเปิดยุทธนาการใหม่ในภาคตะวันออกของยูเครน ส่วนรัสเซียก็ประกาศว่า จะส่งขบวนรถขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังภาคตะวันออกของยูเครนต่อไปโดยไม่สนใจต่อการประท้วงของยูเครน
จุดยืนที่สวนทางกัน
ในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เออาร์ดีของเยอรมนีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นาง แองเจล่าแมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเผยว่า ตนไม่ได้หวังมากเกี่ยวกับผลการประชุมครั้งนี้แต่การปะทะในยูเครนจะแก้ไขได้ด้วยมาตรการทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งทั้งอียูและเยอรมนีต่างมีความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา ตลอดจนปฏิเสธอีกครั้งเกี่ยวกับการใช้มาตรการทางทหารเพื่อแก้ไขปัญหาและยืนยันว่า อียูต้องการหาวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรัสเซียและมีความปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย นางแมร์เคิลยังเผยว่า สถานการณ์ในยูเครนปัจจุบันเปราะบางมาก ดังนั้นเยอรมนีจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหา
ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสโลรองต์ ฟาบิอุส ประกาศว่า ยูเครนต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งรัสเซียและอียูแม้เรื่องนี้ไม่ง่ายแต่ฝรั่งเศสจะผลักดันการแก้ไขวิกฤตและลดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน
นาง แคทเธอริน แอซตัน ตัวแทนระดับสูงดูแลนโยบายความมั่นคงและการต่างประเทศของสหภาพยุโรปก็ประเมินว่า การพบปะครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีเพื่อแก้ไขวิกฤตในยูเครนและยูเครนต้องเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีงามกับบรรดาประเทศยุโรปและรัสเซีย
แต่ท่าทีของสหรัฐกลับสวนทางต่อความพยายามของฝ่ายยุโรปโดยนางแมรี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ยืนยันว่า สหรัฐจะกดดันรัสเซียต่อไปหลังจากที่มีข่าวจากองค์การสนธิสันญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตเกี่ยวกับการเข้าแทรกแซงด้านทหารและอาวุธของรัสเซียต่อกิจกรรมทางทหารในดินแดนยูเครน แต่ก่อนหน้านั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของนาโตไปแล้ว
ที่ประเทศยูเครน นายโอเลคซานเดอร์ เตอร์ไชนอฟ ประธานรัฐสภายูเครนได้ประกาศทางสถานีโทรทัศน์ว่า ไม่สามารถแก้ไขวิกฤตในภาคตะวันออกของประเทศผ่านมาตรการทางทูตเพียงอย่างเดียวได้

การพบปะระดับสูงยากที่จะแก้ไขปัญหายูเครนอย่างสันติ - ảnh 2
ขบวนรถขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ของรัสเซีย (Photo Reuters)

เพิ่มพฤติกรรมที่ก่อความขัดแย้งกัน
ก่อนการพบปะระดับสูงนี้ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย นาย เซอร์เกลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ระบุอย่างชัดเจนว่า รัสเซียพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนที่มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับการได้อยู่อาศัยในรัฐที่ทุกชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ภาษาและศาสนาได้รับการเคารพ และมอสโคว์จะส่งขบวนรถขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ขบวนที่สองไปยังยูเครน ถึงแม้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกรุงเคียฟ
ในขณะเดียวกัน โฆษกคณะกรรมการความมั่นคงกลาโหมยูเครนอันดรี ลีเชนโกได้กล่าวหารัสเซียว่าขนส่งรถถังและรถหุ้มเกราะ 10 คันเพื่อสนับสนุนกองกำลังเรียกร้องการเป็นสหพันธรัฐในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งยูเครนเผยว่า รัสเซียมีความปรารถนาที่จะเปิดแนวรบใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ของเมืองโดเนสก์และเพื่อยืนหยัดจุดยืนที่ว่า ไม่สามารถแก้ไขความไม่สงบในภาคตะวันออกด้วยมาตรการทางการทูตเพียงอย่างเดียวได้ นายเปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนเผยว่า ยูเครนจะใช้งบประมาณเกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อจัดหาเครื่องบินรบ เฮลิคอฟเตอร์และเรือรบใหม่ในช่วงปี 2015 – 2017 ซึ่งวงเงินดังกล่าวเป็นวงเงินก้อนแรกเพื่อพัฒนากองทัพ ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ในพิธีรำลึกครบรอบ 23 ปีการแยกตัวออกจากสหภาพโซเวียดเดิม ยูเครนได้จัดขบวนพาเหรดครั้งยิ่งใหญ่ที่กรุงเคียฟโดยมีทหาร 1,500 นายพร้อมกับยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆเข้าร่วม
การที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตของยูเครนยังคงมีความขัดแย้งกันและเพิ่มพฤติกรรมที่ก่อระแวงระหว่างกันได้ทำให้วิกฤตการณ์ในยูเครนยากที่จะหามาตรการแก้ไขอย่างสันติได้ ซึ่งก็หมายความว่า การพบปะระดับสูงครั้งนี้ยากที่จะบรรลุความคืบหน้า./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด