(VOVWORLD) - ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2022 การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังคงเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจ โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนบรรลุเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเวียดนามได้เปรียบดุลการค้า 5.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากขั้นตอนระเบียบราชการที่สะดวกแล้ว ผลงานนี้ก็มาจากความพยายามของสถานประกอบการในการฟื้นฟูการผลิตและประกอบธุรกิจ รวมถึงการฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในช่วงปลายปี ถึงแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แต่สถานประกอบการส่งออกก็กำลังพยายามเร่งบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
 นาย หวูดึ๊กยาง ประธานสมาพันธ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนาม (qdnd.vn) |
ในการประเมินเกี่ยวกับผลการนำเข้าและส่งออกในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปี 2022 กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมระบุว่า มูลค่าการส่งออกได้มีการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง ซึ่งตลาดสำคัญๆ เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ล้วนมีการเติบโตเป็นเลขสองหลัก ช่วยให้สินค้าของเวียดนามได้เข้าร่วมในห่วงโซ่คุณค่ามากขึ้น
การเป็นฝ่ายรุกจากสถานประกอบการ
สามารถกล่าวได้ว่า สถานประกอบการเวียดนามได้ใช้โอกาสจากตลาดอย่างมีประสิทธิภาพหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้รับการควบคุมในเบื้องต้นเพราะความต้องการสินค้าจำเป็นในตลาดโลกนับวันเพิ่มสูงขึ้น การที่เวียดนามยังคงได้เปรียบดุลการค้าเป็นผลงานที่น่ายินดีของกิจกรรมการค้าต่างประเทศของเวียดนามเมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลก ในด้านสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป หน่วยงานนี้ได้เปรียบดุลการค้ากว่า 1 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่บางประเทศยังคงใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวด ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบและการบริโภคผลิตภัณฑ์ นาย หวูดึ๊กยาง ประธานสมาพันธ์สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามเผยว่า
“ในปลายปีนี้ จากความท้าทายของตลาดและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น สถานประกอบการด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามได้ตั้งเป้าไว้ว่า ในปีนี้ต้องรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาของสถานประกอบการเพื่อรักษาการจ้างงาน ตลาดและลูกค้า นี่คือเป้าหมายอันดับหนึ่ง ประการที่สองคือสถานประกอบการ ต้องควบคุมต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะเรื่องนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของสถานประกอบการ และเป้าหมายที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องพยายามรักษาผลกำไรให้อยู่ในระดับที่สามารถจ่ายค่าจ้างและโบนัสของพนักงาน ซึ่งจะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมาย ของอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามในปี 2023”
สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมส่งออกที่สำคัญของเวียดนาม นาง ฟานถิแทงซวน รองประธานและเลขาธิการสมาพันธ์เครื่องหนัง รองเท้าและกระเป๋าเวียดนามกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA อย่างมีประสิทธิภาพ นี่เป็นเงื่อนไขที่ดีสำหรับช่วงปลายปี สถานประกอบการในอุตสาหกรรมฯสามารถฟันฝ่าอุปสรรค และธำรงการเติบโตของการส่งออกได้
“เราพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการส่งออกประมาณ 2 หมื่น 3 ถึง2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสามารถแข่งขันในอนาคตอันใกล้นี้ได้ จำเป็นต้องเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ เราต้องการวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงจากประเทศอื่นๆ ด้วยความได้เปรียบของข้อตกลง FTA เราต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการนำเข้าจากตลาดเหล่านี้ โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรปซึ่งมีวัตถุดิบที่มีมูลค่าสูงสำหรับใช้ในการผลิตรองเท้าที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งสามารถนำเข้าเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในสภาวการณ์ปัจจุบัน เมื่อเราทุกคนต้องมุ่งสู่การผลิตที่ยั่งยืนและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตลาดเหล่านี้เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี”
 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เจิ่นก๊วกแค้ง (baochinhphu.vn) |
สนับสนุนข้อมูลและส่งเสริมการส่งออก
ในสภาวการณ์ที่การค้าโลกต้องมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างระบบสำนักงานตัวแทนการค้าต่างประเทศของเวียดนามกับกระทรวง สำนักงาน ท้องถิ่น สมาคมอุตสาหกรรมและสถานประกอบการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เจิ่นก๊วกแค้ง กล่าวว่า กระทรวงฯจะเน้นสนับสนุนสถานประกอบการในด้านข้อมูลการตลาด การส่งเสริมการส่งออกและการใช้ประโยชน์จากคำมั่นในข้อตกลงการค้าเสรีที่ได้ลงนาม
“สินค้าที่มีมูลค่าการซื้อขายสูง เช่น สินค้าเกษตร สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้าล้วนเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของเวียดนาม ปัจจุบัน สินค้าเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด ในขณะที่ความต้องการของบางตลาดลดลง หน้าที่ของเราคือพยายามใช้ประโยชน์จากตลาดทั้งหมดอย่างเต็มที่ อีกทั้ง แก้ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานให้แก่สถานประกอบการ ถ้าหากเราสามารถทำได้ ก็มีโอกาสที่เราจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของการส่งออกได้ในช่วงปลายปีได้”
กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจะยังคงอำนวยความสะดวกในด้านระเบียบราชการให้แก่สถานประกอบการต่อไป เช่น ขั้นตอนการขอคืนภาษี ขั้นตอนการอนุมัติการนำเข้าและส่งออก และการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (C/O) อีกทั้ง ช่วยเหลือสถานประกอบการในการแสวงหาแหล่งจัดสรรวัตถุดิบทดแทนด้วยราคาที่ย่อมเยาเพื่อค้ำประกันว่า วัตถุดิบและเชื้อเพลิงจะเพียงพอสำหรับการผลิตและการบริโภค
ถ้าหากสามารถธำรงอัตราการเติบโตเหมือนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกของเวียดนามในปี 2022 อาจสูงกว่า 7 แสน 4 หมื่นหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงดุลการชำระเงิน เพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้แก่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจของปีนี้.