การยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธ:ก้าวเดินที่จำเป็นเพื่อปรับความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐให้เป็นปกติ
Hồng Vân-VOV5 -  
(VOVworld) – สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อเวียดนามหลังจากดำเนินการมาหลายสิบปี เป็นคำประกาศของนาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจากับประธานประเทศเวียดนาม เจิ่นด่ายกวาง ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม
(VOVworld) – สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตร ด้านอาวุธต่อเวียดนามหลังจากดำเนินการมาหลายสิบปี เป็นคำประกาศของนาย บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจากับประธานประเทศ เวียดนาม เจิ่นด่ายกวาง ณ กรุงฮานอยเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม
นาย บารัค โอบาม่า และประธานรัฐสภาเวียดนาม เหงียนถิกิมเงิน เยือนเขตอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ (AP)
|
คำสั่งคว่ำบาตรด้านอาวุธต่อเวียดนามของสหรัฐมีผลบังคับใช้มาหลายสิบปี โดยห้ามบริษัทและกลุ่มบริษัทด้านอาวุธของสหรัฐขายยุทธปกรณ์ให้เวียดนาม ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญสุดท้ายในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 สหรัฐได้ประกาศยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรด้านอาวุธส่วนหนึ่งให้เวียดนาม เพื่อช่วยให้เวียดนามเพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัยในการเดินเรือ หลังจากนั้น ก็มีส.ส และเจ้าหน้าที่สหรัฐรณรงค์และสนับสนุนการยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามอย่างสมบูรณ์
ก้าวเดินที่จำเป็นเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์
การที่สหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทั้งสองประเทศได้ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ มีส่วนร่วมปรับความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ยืนยันว่า การตัดสินใจของสหรัฐได้ลบร่องรอยของสงครามเย็นที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นถึงการผลักดันคำมั่นของสหรัฐเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติ รวมทั้งความสัมพันธ์ด้านกลาโหมกับเวียดนามและภูมิภาคในระยะยาว ทั้งนี้การตัดสินใจของสหรัฐอาศัยกระบวนการความร่วมมือที่ยาวนานของความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศ และสหรัฐไม่อยากให้คำสั่งคว่ำบาตรเป็นปัจจัยสร้างความแตกแยกในความสัมพันธ์ทวิภาคี ขณะเดียวกัน ประธานประเทศเวียดนาม เจิ่นด่ายกวาง ได้ชื่นชมการตัดสินใจของสหรัฐในการยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนาม ว่าเป็นการพิสูจน์ให้เห็นทั้งสองประเทศได้ปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติโดยสมบูรณ์แล้ว
นาย บารัค โอบาม่า และประธานประเทศเวียดนาม เจิ่นด่ายกวาง ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม
|
ท่าทีในเชิงบวกจากประชามติ
บรรดา ส.ส สหรัฐได้เผยว่าสนับสนุนประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า ยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนาม ซึ่งในคำประกาศ นาย Bob Corker ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์แห่งวุฒิสภาสหรัฐได้เผยว่า รัฐสภาจะประชุมกับทางการเพื่อค้ำประกันการเปลี่ยนแปลงในขอบเขตใหญ่ของนโยบายในปัจจุบัน ส่วนนาย Ned Foote นายกสมาคมทหารผ่านศึกสหรัฐที่เข้าร่วมสงครามเวียดนามในนิวยอร์คได้ชื่นชมรัฐบาลสหรัฐยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามที่มีผลบังคับใช้นับสิบทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งนี้สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรด้านอาวุธให้เยอรมนีและญี่ปุ่นเป็นเวลานานแล้ว ดังนั้น ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ปฏิบัติเช่นนี้กับเวียดนาม ในขณะเดียวกัน นาย Bernerd Edekman รองผู้อำนวยการดูแลโครงการทหารผ่านศึกเวียดนามของรัฐบาลสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า สงครามเป็นเรื่องในอดีตและสหรัฐได้พยายามสร้างสรรค์สะพานเชื่อมใหม่กับประชาชนเวียดนาม
พลโท ฝ่ามซวนเถะ อดีตผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ได้กล่าวว่า นี่คือเหตุการณ์สำคัญในความสัมพันธ์ด้านการทูตระหว่างสองประเทศ กำแพงสุดท้ายหลังสงครามถูกยกเลิก ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เข้าสู่ระยะใหม่ และในระยะยาวจะสามารถเปิดกรอบความร่วมมือใหม่ เช่นอุตสหากรรมกลาโหม การวิจัยและผลิตอาวุธ นาย เจิ่นเวียดท้าย รองหัวหน้าสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ของกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเห็นว่า การยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามยังจะสร้างโอกาสให้สถานประกอบการสหรัฐร่วมมือกับเวียดนามซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ
ประชาชนเวียดนามแสดงความยินดีต่อการเยือนของนาย บารัค โอบาม่า (EPA)
|
ทางด้านประชามติโลกก็แสดงความสนใจเป็นพิเศษถึงการตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ณ กรุงปักกิ่ง นาง ฮั่ว ชุน หยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แสดงความยินดีที่เวียดนามพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือให้เป็นปกติกับทุกประเทศรวมทั้งสหรัฐ พร้อมทั้งแสดงความเห็นว่า คำสั่งคว่ำบาตรด้านอาวุธคือผลของสงครามเย็นที่ไม่ควรคงไว้ต่อไป ในขณะเดียวกัน สื่อในภูมิภาคและโลกก็ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามอย่างสมบูรณ์ โดยหนังสือพิมธ์ The New York Times ได้ระบุว่า การยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธคือข้อคิดริเริ่มที่สำคัญที่สุดที่ทั้งสองประเทศได้ประกาศในการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนาย บารัค โอบาม่า ส่วนหนังสือพิมพ์ The Japan Times ได้รายงานว่า คำประกาศของนาย บารัค โอบาม่า ได้เปิดทางสานต่อความร่วมมือที่ลึกซึ้งมากขึ้นระหว่างสองประเทศ ส่วนหนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้รายงานว่า การตัดสินใจนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่น่ายินดีและความร่วมมือแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศในด้านความมั่นคง ตลอดจนการลงทุนเศรษฐกิจภายหลัง 4 ทศวรรษนับตั้งแต่สงครามเวียดนามยุติลง ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพี ได้ระบุว่า ท่าทีใหม่นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ได้บรรลุความคืบหน้าในด้านการค้าและวัฒนธรรมในช่วงที่ผ่านมา สำนักข่าวเอเอ็นเอสเอของอิตาลีได้ประเมินว่า การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า ประกาศยกเลิกคำสั่งขายอาวุธให้เวียดนามคือเหตุการณ์ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ โดยการยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรต่อคิวบา การเยือนเวียดนามและการเยือนเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นความพยายามที่น่ายกย่องของนาย บารัค โอบาม่า เพื่อปิดฉากอดีตของสงครามเย็น
หลังจากปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติมาเป็นเวลา 20 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนาม-สหรัฐได้พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งข้อตกลงที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุในกรอบการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า รวมทั้งการยกเลิกคำสั่งห้ามขายอาวุธให้เวียดนามจะสร้างพลังขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐพัฒนาไปถูกทิศทาง จริงจัง มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น.
Hồng Vân-VOV5