การยืนยันถึงส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อสันติภาพและการพัฒนา

(VOVWORLD) -ในระหว่างวันที่ 16-23 มกราคมปี 2024 นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง จะเข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 54 ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF  เมืองดาวอสประเทศสวิเซอร์แลนด์ เยือนประเทศฮังการีและโรมาเนียอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นการยืนยันถึงส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพของเวียดนามต่อสันติภาพ การพัฒนาและปัญหาระดับโลกที่ทุกประเทศต่างให้ความสนใจ
การยืนยันถึงส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามต่อสันติภาพและการพัฒนา - ảnh 1(คณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ)

การประชุม WEF Davos ครั้งที่ 54 จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม ภายใต้หัวข้อ “Rebuilding Trust” หรือการฟื้นคืนความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นการประชุม WEF Davos ที่มีขอบเขตใหญ่ที่สุดหลังวิกฤตโควิด -19

โอกาสเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประเทศและดึงดูดแหล่งพลังต่างๆ

การประชุมครั้งนี้มีการเข้าร่วมของผู้นำระดับสูงของประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศเกือบ 100 คน รวมทั้งผู้บริหารของเครือบริษัทและสถานประกอบการระดับโลกประมาณ 3,000 คน ซึ่งนาง เหงียนมิงห์หั่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ประเมินว่า

“นี่คือการประชุมระดับโลกเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับศักยภาพของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มใหม่ๆ และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาของโลก ผลักดันการเชื่อมโยงและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและในทุกด้านระหว่างประเทศต่างๆ และระหว่างสถานประกอบการ พร้อมทั้งระดมพลังทุกแหล่งของโลก โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัว แก้ไขความท้าทายต่างๆ ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังต้องรับมืออุปสรรค ความเสี่ยงและความไร้เสถียรภาพในปัจจุบัน”

ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมฯ ถือว่ามีความหมายสำคัญในหลายด้าน นาง เหงียนมิงห์หั่ง ได้เผยว่า นี่คือโอกาสให้เวียดนามเข้าถึงแนวโน้มการพัฒนาของโลกเพื่อระดมแหล่งพลังต่างๆ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศ

“ในหลายปีมานี้ เวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมรวมทั้งในการควบคุมโควิด -19  ซึ่งสร้างภาพลักษณ์ด้านการต่างประเทศที่เอื้อให้แก่การพัฒนา นี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้เวียดนามแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับผลสำเร็จที่เราได้บรรลุ การกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ รวมทั้งนโยบายและแนวทางการต่างประเทศของเวียดนาม เพื่อส่งสารเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่คล่องตัว เปลี่ยนแปลงใหม่ เป็นจุดนัดพบที่น่าดึงดูดของกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อแปรความสะดวกเหล่านั้นให้กลายเป็นความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านเศรษฐกิจและโครงการลงทุนต่างๆ เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้พัฒนาประเทศได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน”

ส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบต่อสันติภาพและการพัฒนา

คาดว่า ในระหว่างวันที่ 16-17 มกราคมนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะเข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลายต่างๆ ณ เมืองดาวอส เช่น กล่าวปราศรัยในการประชุมที่สำคัญๆ รวมทั้งการประชุมเกี่ยวกับเวียดนามและเป็นประธานในการเสวนากับผู้บริหารเครือข่ายบริษัทชั้นนำ การที่เวียดนามเป็น 1 ใน 9 หุ้นส่วนที่ WEF เสนอให้ประสานงานจัดการสนทนาเชิงยุทธศาสตร์แห่งชาติกับ WEF และการที่นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็น 1 ในผู้นำ 8 ท่านที่มีการสนทนาทวิภาคีกับ WEF ได้แสดงให้เห็นถึงความสนใจ การรับรองและการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากของ WEF และเครือบริษัทชั้นนำต่างๆ ต่อสถานะ บทบาทบนเวทีโลก ผลสำเร็จและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาของเวียดนาม

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะเสนอมาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันความสามัคคีระหว่างประเทศ ฟื้นฟูความไว้วางใจ ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐบาลกับสถานประกอบการและหุ้นส่วนเพื่อแปรความท้าทายให้เป็นโอกาส พร้อมทั้ง จะย้ำถึงส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบของเวียดนามในการแก้ไขความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะในด้านที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม เช่น ความมั่นคงด้านอาหาร การเกษตรอัจฉริยะ การปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปรับเปลี่ยนพลังงานที่เป็นธรรม เป็นต้น พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเวียดนามในการดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะในด้านที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง การปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น นาง เหงียนมิงห์หั่ง แสดงความคิดเห็นว่า

“การเข้าร่วม การแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆ ของนายกรัฐมนตรี เวียดนาม เกี่ยวกับสถานการณ์ ทัศนะและความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาในขอบเขตทั่วโลก รวมทั้งการเสนอมาตรการแก้ไขเพื่อส่งเสริมการขยายตัวและแก้ไขความท้าทายต่างๆ ก็เป็นการยืนยันอีกครั้งต่อส่วนร่วมที่มีความรับผิดชอบและมีประสิทธิภาพของเวียดนามต่อสันติภาพ การพัฒนาและปัญหาที่ทุกประเทศต่างให้ความสนใจ เพื่อช่วยยกระดับสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก โดยเฉพาะต่อชมรมสถานประกอบการทั่วโลก”

การประชุม WEF ครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้เวียดนามหารือและขยายความร่วมมือกับสวิตเซอร์แลนด์ กับหุ้นส่วนและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด