การลงคะแนนไว้วางใจ-บรรทัดฐานการประเมินทักษะความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานของสมาชิกรัฐบาล

(VOVWORLD) - ตามระเบียบวาระการประชุมครั้งที่ 6 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ในระหว่างวันที่ 24 – 25 ตุลาคม ได้มีการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญที่สภาแห่งชาติเลือก หรือ อนุมัติ ซึ่งเป็นกิจกรรมการตรวจสอบที่สำคัญเป็นพิเศษ แสดงให้เห็นถึงการรับทราบและการประเมินของสภาแห่งชาติต่อความพยายามและผลงานที่ผู้ที่ถูกลงคะแนนไว้วางใจได้บรรลุตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบัน
การลงคะแนนไว้วางใจ-บรรทัดฐานการประเมินทักษะความสามารถและประสิทธิภาพการทำงานของสมาชิกรัฐบาล - ảnh 1ภาพการลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญที่สภาแห่งชาติเลือก หรือ อนุมัติ 

นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่สภาแห่งชาติทำการลงคะแนนไว้วางใจและเป็นการลงคะแนนไว้วางใจเพียงครั้งเดียวในวาระของสภาแห่งชาติสมัยที่ 14 โดยในการประชุมครั้งนี้ มีการลงคะแนนไว้วางใจผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่สภาแห่งชาติเลือก หรือ อนุมัติรวม 50 ตำแหน่ง เช่น นายกรัฐมนตรี ประธานสภาแห่งชาติ รองประธานประเทศ สมาชิกรัฐบาลและสมาชิกคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติ เป็นต้น ยกเว้นตำแหน่งประธานประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่เพิ่งมีการโหวตเลือกผู้ที่ดำรงตำแหน่งในการประชุมครั้งนี้

ผลักดันประสิทธิภาพการตรวจสอบของสภาแห่งชาติเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐ

การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งที่สภาแห่งชาติเลือกหรืออนุมัติในการประชุมครั้งที่ 6 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชามติ ซึ่งบนพื้นฐานของการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบด้วยตนเอง ผู้แทนสภาแห่งชาติแต่ละคนจะประเมินและลงคะแนนไว้วางใจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อค้ำประกันความมีประชาธิปไตย มีภาวะวิสัยและยุติธรรม นายลิวบิ่งเหยือง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดเบ๊นแจได้เผยว่า การลงคะแนนไว้วางใจจะช่วยขยายประสิทธิภาพงานด้านการตรวจสอบเพื่อค้ำประกันให้สภาแห่งชาติและสภาประชาชนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบสูงเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐ“การลงคะแนนไว้วางใจในช่วงนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการประเมินกึ่งวาระ ถ้าหากไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ลุล่วงไปด้วยดีหรือปฏิบัติเป็นอย่างดี ก็ถือเป็นโอกาสเพื่อตักเตือน หรือทำการโยกย้าย ส่วนผู้บริหารที่ถูกลงคะแนนจะตระหนักได้ว่า จะต้องพยายามทำงานให้มากกว่าเจ้าหน้าที่พนักงานทั่วไป เช่น การแสดงความคิดเห็น การปฏิบัติงาน แนวความคิดและปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างหน่วยงานและบุคลากร”

ยกระดับความรับผิดชอบของผู้ที่ถูกลงคะแนนไว้วางใจ

การลงคะแนนไว้วางใจของผู้แทนสภาแห่งชาติเมื่อปี 2013 และปี 2014 แสดงให้เห็นว่า การลงคะแนนไว้วางใจเป็นกิจกรรมที่มีนประโยชน์ต่อการยกระดับความรับผิดชอบและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของผู้ที่ถูกลงคะแนน จุดใหม่ในการลงคะแนนไว้วางใจครั้งนี้คือผู้ที่ถูกลงคะแนนต้องรายงานผลการวิจารณ์ตนเองเกี่ยวกับความเสื่อมถอยด้านแนวความคิดทางการเมือง คุณธรรม การดำเนินชีวิต การปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานของตนให้กระทัดรัด นาย เหงวียนหงอกเฟือง ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดกว๋างบิ่งได้เผยว่า“สัดส่วนคะแนนไว้วางใจสะท้อนระดับการประเมินทักษะความสามารถ คุณสมบัติ คุณธรรม และการได้รับความนับถือของผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเป็นบรรทัดฐานการประเมินความสามารถ คุณสมบัติ คุณธรรมและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่ถูกลงคะแนน อีกทั้งเป็นพื้นฐานเพื่อวางแผนอบรมและเตรียมพร้อมงานด้านบุคลากรและช่วยให้ผู้ที่ถูกลงคะแนนเห็นถึงข้อบกพร่องต่างๆเพื่อพยายามแก้ไขต่อไป”

การลงคะแนนไว้วางใจของผู้แทนสภาแห่งชาติซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศจะสะท้อนความคิดเห็นและความปรารถนาของประชาชนเกี่ยวกับประสิทธิภาพกิจกรรมต่างๆของผู้ที่ถูกลงคะแนน ซึ่งจะทำให้เห็นความก้าวหน้าหรือ ข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข นาย ฝ่ามวันหว่า ผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดก่าเมาได้ย้ำว่า การรับฟังความคิดเห็นของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อลงคะแนนไว้วางใจต่อผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆที่สภาแห่งชาติ รัฐบาลและประชาชนได้มอบหมายให้“พวกเราได้รับและศึกษารายงานของผู้ที่ถูกลงคะแนนไว้วางใจ อีกอย่างหนึ่งที่พวกเราให้ความสนใจคือการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่ถูกลงคะแนนในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่สภาแห่งชาติและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้ความสนใจและการปฏิบัติคำมั่นที่ให้ไว้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและสภาแห่งชาติตั้งแต่ต้นวาระจนถึงปัจจุบัน พวกเรายังได้รับฟังการรายงานข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ถูกลงคะแนนเพื่อนำไปพิจารณาและลงคะแนนไว้วางใจอย่างมีภาวะวิสัยและยุติธรรม”

การลงคะแนนไว้วางใจคือการที่สภาแห่งชาติและสภาประชาชนปฏิบัติสิทธิการตรวจสอบและประเมินความไว้วางใจต่อผู้ที่ดำรงตำแหน่งที่สภาแห่งชาติเลือกหรือ อนุมัติเพื่อเป็นพื้นฐานให้แก่การประเมินคุณภาพเจ้าหน้าที่ เป็นการชี้แจงเพื่อช่วยให้ผู้ที่ถูกลงคะแนนมองเห็นถึงข้อบกพร่องเพื่อมีมาตรการแก้ไข พยายามหล่อหลอมฝึกฝนตนเองเพื่อยกระดับทักษะความสามารถและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการรับใช้ประชาชนและสร้างสรรค์ประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด