การสนทนายุทธศาสตร์ครั้งที่3 การเติมพลังใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์สหรัฐ-อินเดีย
Hong Van-VOV5 -  
(VOVworld)- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียได้มีความเห็นพ้องกันว่าจะกระชับความร่วทมือในด้านที่มีความสำคัญต่างๆเพื่อแปรเนื้อหาของแถลงการณ์ที่ประธานาธิบดีบารักโอบามาได้ยืนยันเมื่อเดือนมกราคมนี้ว่า อินเดียคือหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐในเอเซียแปซีฟิกให้เป็นรูปธรรม
(VOVworld)- ในการสนทนายุทธศาสตร์ครั้งที่3ระหว่างสหรัฐกับอินเดียที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 13มิถุนายน ณ ประเทศสหรัฐ นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย โสมานาฮาลี มัลไลอาห์ กฤษณา ได้มีความเห็นพ้องกันว่าจะกระชับความร่วมมือในด้านที่มีความสำคัญต่างๆเพื่อแปรเนื้อหาของแถลงการณ์ที่ประธานาธิบดีบารักโอบามาได้ยืนยันเมื่อเดือนมกราคมนี้ว่า อินเดียคือหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐในเอเซียแปซีฟิกให้เป็นรูปธรรม
รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
ในการสนทนาครั้งนี้ ฝ่ายสหรัฐได้แสดงความพอใจต่อข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างบริษัทอุปกรณ์ด้านนิวเคลียร์ Westinghouse ของสหรัฐและกลุ่มบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของอินเดียเกี่ยวกับการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในอินเดีย โดยถือเป็นก้าวเดินที่สำคัญในความพยายามผลักดันความร่วมมือและปฏิบัติสนธิสัญญาความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์พลเรือนปี2008ระหว่างสองประเทศ ในด้านเศรษฐกิจนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า การเเลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุนทวิภาคีสหรัฐ-อินเดียปีนี้อาจจะสูงกว่า1แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ40นับตั้งแต่ปี2009 ซึ่งนับเป็นผลสำเร็จที่น่ายินดีที่สองประเทศควรพยายามรักษาและพัฒนาต่อไป นอกจากนี้วอชิงตันยังหวังว่าทางการนิวเดลลีจะปรับลดกำแพงภาษีทางการค้าและการลงทุนในด้านต่างๆเช่น การค้าปลีก ส่วนความร่วมมือการค้าในด้านการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐและอินเดียนั้นก็ได้บรรลุมูลค่ากว่า8พันล้านเหรียญสหรัฐในรอบ5ปีที่ผ่านมาซึ่งก็เป็นพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่อีกประการในความสัมพันธ์ทวิภาคี
ทางฝ่ายอินเดียนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศของอินเดีย โสมานาฮาลี มัลไลอาห์ กฤษณา ก็ได้ย้ำถึงผลในทางบวกของการสนทนานี้ว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถมีความเห็นพ้องกันในการร่างปัจจัยยุทธศาสตร์ต่างๆนั่นคือ สัมพันธไมตรี ความเชื่อมั่นและไว้วางใจกันในความสัมพันธ์หุ้นส่วน โดยการสนทนานี้เป็นโอกาสเดียวเพื่อหารือถึงความร่วมมือในทุกด้าน สร้างโอกาสแห่งความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ในความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศ ซึ่งอินเดียมีแผนที่จะลงทุน1ล้านล้านเหรียญสหรัฐเพื่อก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานภายใน5ปีข้างหน้าและสิ่งนี้จะเปิดโอกาสการดำเนินธุรกิจในหลากหลายรูปแบบให้แก่บริษัทของสหรัฐ
อาจกล่าวได้ว่า ผลการสนทนานี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงขอบเขตที่กว้างขวางในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและอินเดียรวมทั้งยังสามารถแปรความปรารถนาของวอชิงตันให้เป็นรูปธรรมตามที่รัฐมนตรีต่างประเทศฮิลลารี คลินตัน เคยยืนยันก่อนเข้าร่วมการสนทนานี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและอินเดียจะกลายเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่สำคัญในศตวรรษที่21และหวังว่านิวเดลลีพร้อมที่จะให้ความร่วมมือเพื่อให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสองฝ่ายมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ซึ่งนาย Robert Blake ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐดูแลภูมิภาคเอเซียใต้และเอเซียกลางได้เห็นว่าการที่สหรัฐได้ทุ่มเทให้แก่ความสัมพันธ์นี้ก็เพราะเชื่อมั่นว่า อินเดียจะพัฒนาเป็นประเทศมหาอำนาจในอนาคต ในขณะเดียวกันตามความเห็นของนักวิเคราะห์ ความคืบหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและอินเดียมาจากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างเล็งเห็นผลประโยชน์ที่มหาศาลที่จะได้รับเมื่อส่งเสริมความร่วมมือกัน สำหรับฝ่ายสหรัฐ เมื่อกระชับความร่วมมือกับอินเดียก็จะเอื้อให้แก่การปกป้องเส้นทางขนส่งน้ำมันทางทะเลจากตะวันออกกลางไปยังญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี รวมทั้งสามารถเข้าถึงตลาดที่มีประชากร1.2พันล้านคน และบทบาทของอินเดียก็สามารถสร้างความสมดุลต่อตลาดจีนและตลาดด้านเทคโนโลยีทางทหาร ในขณะที่อินเดียต้องการบทบาทของสหรัฐเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเทคโนโลยีพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์และอวกาศ รวมทั้งยังเป็นตลาดชั้นนำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เภสัชภัณฑ์ สิ่งทอและอะไหล่รถยนต์
ทั้งนี้สามารถยืนยันได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียจะอบอุ่นยิ่งขึ้นและผลของการสนทนาครั้งที่3 ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการทูตทวิภาคีในรอบ1เดือนที่ผ่านมานั้นจะมีส่วนร่วมสำคัญต่อการเพิ่มพลังใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียในอนาคต./.
Hong Van-VOV5