(VOVworld) – ในการประชุมครั้งที่ 9 รัฐสภาสมัยที่ 13 ร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติจะได้รับการหารือและแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรก ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยและสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชน การขยายรูปแบบประชาธิปไตยทางตรง และเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญปี 2013 เพื่อพัฒนาให้ระบบกฎหมายเวียดนามมีความสมบูรณ์

การหยั่งเสียงประชามติเป็นวิธีการให้ประชาชนแสดงความมุ่งมั่นและสิทธิโดยตรงต่อปัญหาสำคัญของประเทศในช่วงที่สำคัญต่างๆ การจัดทำร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของสมาคมทนายความเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันในปัญหาต่างๆ เช่น การร้องขอให้รัฐสภาตัดสินใจเกี่ยวกับการหยั่งเสียงประชามติ ขอบเขตการหยั่งเสียงประชามติ สำนักงานและองค์การที่ดูแลการหยั่งเสียงประชามติ ผลการหยั่งเสียงประชามติและการแก้ไขการร้องเรียนเกี่ยวกับผลการหยั่งเสียงประชามติเพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นบรรทัดฐานสำคัญในการปฏิบัติประชาธิปไตยโดยตรงของประชาชนและเป็นวิธีการที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างสูงสุดของระบบประชาธิปไตย

ร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติได้ระบุถึงหลักการ 3 ข้อคือให้ความสำคัญต่อสิทธิของประชาชน การพัฒนากลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและความเป็นเอกฉันท์ในสังคม การให้ความสำคัญต่อสิทธิของประชาชนหมายถึงความปรารถนาของประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดและมีสิทธิ์ตัดสินใจในปัญหาสำคัญต่างๆของประเทศ แต่เมื่อให้ความสำคัญต่อสิทธิอำนาจของประชาชนแล้วก็ต้องให้ความสนใจต่อการพัฒนาความเป็นเอกฉันท์ในสังคมด้วย นายเหงียนวันฟา ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดนามดิง รองประธานแนวร่วมปิตุภูมิส่วนกลางเวียดนาม สมาชิกของคณะกรรมการร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติเผยว่า “ตามข้อกำหนดของรัฐ เมื่อเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องโดยตรงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทางการปกครองท้องถิ่นต้องรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะทำการแก้ไข ร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติคือการหยั่งเสียงประชามติทั่วประเทศ ไม่ใช่ท้องถิ่นใดท้องถิ่นหนึ่ง พวกเรามีความประสงค์ว่าจะจัดทำร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยและสิทธิเป็นเจ้าของของประชาชน”

ในหลายปีที่ผ่านมา แนวทาง “ประชาชนทราบ ประชาชนหารือ ประชาชนทำและประชาชนตรวจสอบ” นับวันได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างขวางในชีวิตสังคม ดังนั้น การร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติจึงมีส่วนร่วมอย่างจริงจังต่อการสะท้อนและพัฒนาแนวความคิดและเกียรติประวัติอันดีงามดังกล่าว นายเหงียนวันเกวี่ยน นายกสมาคมทนายความเวียดนามกล่าวว่า  “ถ้าหากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ นี่จะเป็นการปฏิบัติแนวความคิดของประธานโฮจิมินห์ คือ ให้ความสำคัญต่อประชาชน ถือประชาชนเป็นรากฐานและพัฒนาสิทธิเป็นเจ้าของของประชาชนในการสร้างสรรค์และตัดสินใจปัญหาสำคัญๆของประเทศ”

ระเบียบการเกี่ยวกับการหยั่งเสียงประชามติถูกระบุในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของเวียดนามตั้งแต่ปี 1946 แต่เนื่องจากเหตุผลต่างๆ จึงยังไม่ได้รับการปฏิบัติ ดังนั้นการที่รัฐสภาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นครั้งแรกจะเป็นนิมิตหมายสำคัญและเป็นก้าวพัฒนาของกฎหมายเวียดนาม เนื้อหาของร่างกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติสอดคล้องกับมติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีส่วนร่วมค้ำประกันลักษณะความเป็นเอกภาพและมีความสมบูรณ์ของระบบกฎหมาย ในด้านทฤษฎี การหยั่งเสียงประชามติมีความได้เปรียบมากกว่ารูปแบบประชาธิปไตยที่เป็นตัวแทนแต่ในการปฏิบัติอาจเกิดความซับซ้อน ดังนั้นควรมีการปฏิบัติพร้อมกับการสรูปและถอดประสบการณ์ เช่น ปัญหาอะไรจะต้องได้รับการหยั่งเสียงประชามติ รูปแบบการหยั่งเสียงประชามติ ถ้าไม่ได้รับเสียงสนับสนุนข้างมาก ต้องแก้ไขอย่างไรนั้นมีความจำเป็นมาก นางบุ่ยถิอาน ผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยเผยว่า“ดิฉันคิดว่า กฎหมายการหยั่งเสียงประชามติมีบทบาทสำคัญเพราะมาจากรัฐธรรมนูญปี 2013 คือรัฐเป็นของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ถ้าหากพวกเราปฏิบัติการหยั่งเสียงประชามติได้ดี เราจะใช้ประโยชน์ด้านสติปัญญาและความเป็นเอกฉันท์อย่างสูงของประชาชน”

ปัจจุบันนี้ มี167 ประเทศจากจำนวน 214 ประเทศหรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของประเทศและดินแดนทั่วโลกที่มีกฎหมายหรือข้อกำหนดด้านนิตินัยเกี่ยวกับการหยั่งเสียงประชามติ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามนับวันยิ่งผสมผสามเข้ากับกระแสเศรษฐกิจและการเมืองของภูมิภาคและโลก การอนุมัติกฎหมายการหยั่งเสียงประชามติถือเป็นความจำเป็น ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนแต่ละคนมีประชาธิปไตยและเข้าร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญๆของประเทศโดยตรง./.