การเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียิปต์

(VOVWORLD) - วันที่ 6 กันยายน นาย อับเดล ฟัตตาห์อล ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ได้เริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดีอียิปต์นับตั้งแต่ทั้ง 2 ประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1963 และเป็นนิมิตรหมายที่สำคัญของนความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคี มีส่วนช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานในด้านต่างๆให้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง
การเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียิปต์ - ảnh 1

ประธานประเทศเวียดนามต้อนรับประธานาธิบดีอียิปต์

อียิปต์เป็นหนึ่งในประเทศอาหรับแรกๆที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามโดยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1963 ทั้ง 2 ประเทศได้สนับสนุนกันในภารกิจการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชและการพัฒนาประเทศ อียิปต์เป็นประเทศแรกในภูมิภาคแอฟริกาเหนือที่รับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามอย่างสมบูรณ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี2013

การเยือนที่ประชามติรอคอย

การเยือนเวียดนามของนาย อับเดล ฟัตตาห์อัล ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ได้รับความสนใจจากบรรดานักวิชาการ สถานประกอบการและประชาชนอียิปต์และถูกคาดหวังว่า  จะช่วยเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคี เอกอัครราชทูต Moheb M. El Samra นักการทูตอาวุโสของอียิปต์ประจำคณะกรรมการสามัคคีเอเชีย-แอฟริกา-อียิปต์ได้เผยว่า“ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียิปต์คือความสัมพันธ์อันดีงาม ขบวนการปลดปล่อยประชาชาติเวียดนามภายใต้การนำของประธานโฮจิมินห์ได้ส่งเสริมและมีบทบาทสำคัญต่อขบวนการปลดปล่อยประชาชาติต่างๆในแอฟริกา รวมถึงอียิปต์ พวกเรามีความประสงค์ว่า จะมีการจัดการพบปะสังสรรค์ระหว่างคณะกรรมการมิตรภาพเอเชีย-แอฟริกากับเวียดนามและระหว่างเวียดนามกับอียิปต์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความสามัคคีระหว่างเอเชียกับแอฟริกาและประชาชนทั้ง 2 ประเทศ”

นาย Ahmed Abdol Tarabeik นักวิจัยเกี่ยวกับเอเชียจากศูนย์วิจัย Al Ahram ได้เผยว่า การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอียิปต์แสดงให้เห็นว่า อียิปต์กำลังปฏิบัตินโยบายมุ่งสู่ทิศตะวันออก พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อบทบาทและสถานะของเวียดนามในภูมิภาคอาเซียนและโลก ตลอดจนความประสงค์ที่จะกระชับความร่วมมือกับเวียดนาม “อียิปต์มีบทบาทและอิทธิพลในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนเวียดนามมีบทบาทและอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง อียิปต์ให้ความสนใจต่อความสำเร็จในภารกิจการพัฒนาประเทศของเวียดนาม การรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในการเดินเรือ ผมเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือทวิภาคีจะบรรลุความคืบหน้าโดยเฉพาะหลังการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์อัล ซิซี โดยทั้งสองประเทศจะเป็นประตูเพื่อช่วยให้สินค้าของอีกฝ่ายสามารถเจาะตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะไม่เพียงแต่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศเท่านั้น หากยังเอื้อประโยชน์ต่อภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย”

ในเวลาที่ผ่านมา เวียดนามและอียิปต์ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว อียิปต์คือหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับสองของเวียดนามในทวีปแอฟริกา โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2016 อยู่ที่316 ล้านดอลลาร์สหรัฐและยังมีศักยภาพความร่วมมืออีกมากมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทน ดังนั้น สถานประกอบการและนักธุรกิจอียิปต์จึงตั้งความหวังว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนาย อับเดล ฟัตตาห์อัล ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์จะเปิดโอกาสความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างสองประเทศ ดร. Amgad A. El Kady จากกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์อียิปต์ได้เผยว่า“ผมหวังว่า การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีอียิปต์จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้า โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์พัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน”

เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอียิปต์

จากสถานะทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปแอฟริกา ทำให้อียิปต์นับวันมีบทบาทสำคัญและเป็นประเทศที่น่าไว้วางใจในภูมิภาคและโลก ในด้านการต่างประเทศ อียิปต์กำลังส่งเสริมนโยบายมุ่งสู่ตะวันออกและขยายความสัมพันธ์กับประเทศเอเชีย รวมถึงเวียดนาม  การเยือนประเทศเวียดนามของนาย อับเดล ฟัตตาห์เอล ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์เป็นนิมิตรหมายที่สำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญและความประสงค์ที่จะผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามและเป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงมาตรการกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน อีกทั้งแสวงหาโอกาสความร่วมมือในด้านต่างๆที่ทั้งสองประเทศมีจุดเข็ง เช่น การเกษตร วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว  ผลการเยือนเวียดนามครั้งนี้จะมีส่วนช่วยผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีให้พัฒนาเข้าสู่ระยะใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด