(VOVworld) – วันที่ 28 กรกฎาคม 2014 ได้ครบรอบ 19 ปีเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกขององค์การอาเซียนซึ่งสถานการณ์ที่เป็นจริงใน 19 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า การตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนคือแนวทางที่ถูกต้อง ทันการณ์และมีความหมายสำคัญทั้งด้านประวัติศาสตร์และยุทธศาสตร์ต่อเวียดนาม

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมปี 1995 ที่กรุง บันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไน ธงชาติเวียดนามได้โบกสะบัดพร้อมกับธงชาติของ 6 ประเทศสมาชิกอาเซียนเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของภูมิภาคที่เวียดนามได้กลายเป็นสมาชิกที่ 7 ของอาเซียนและได้กลายเป็นนิมิตหมายทองบนเส้นทางแห่งการผสมผสานเข้ากับภูมิภาคและโลกของเวียดนาม
ประโยชน์ทางยุทธศาสตร์กับอาเซียน
19 ปีไม่ใช่ช่วงเวลาอันยาวนานแต่ในช่วงเวลานั้นเวียดนามได้บรรลุผลงานหลายประการ มีส่วนร่วมเสริมสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพและความมั่นคงที่สะดวดให้แก่การพัฒนา ขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีผ่านความสัมพันธ์หลายรูปแบบหลายฝ่ายในอาเซียน เข้าร่วมอย่างมีประสิทธิภาพในกระบวนการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาคผ่านการปฏิบัติข้อตกลงการค้าและการลงทุนต่างๆของอาเซียน อำนวยความสะดวกให้แก่การค้าในภูมิภาค เชื่อมโยงการคมนาคมทางบก เครือข่ายไฟฟ้า แก๊ส ความร่วมมือด้านการเกษตร ป่าไม้ การประมง การคมนาคมขนส่ง วัฒนธรรม การสื่อสาร การศึกษา การพัฒนาสังคม การแก้ปัญหาความยากจน การป้องกันและต่อต้านอาชญากรรมและโรคระบาด ท่าน ฝ่ามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า“เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อปี 1995 ซึ่งก็เป็นช่วงเวลากำหนดแนวทางสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน เวียดนามได้ค้ำประกันการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบของประเทศต่อเป้าหมายที่อาเซียนได้วางไว้อย่างเต็มที่ หวนมองกลับไปตั้งแต่ช่วงเวลานั้นจนถึงปัจจุบัน พวกเราได้เข้าร่วมการสร้างสรรค์กลไกในระดับภูมิภาคอย่างเข้มแข็ง”
สิ่งที่สำคัญไม่น้อยคือเวียดนามได้สร้างสรรค์ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านที่ดี ร่วมมือและช่วยเหลือจุนเจือกันบนเจตนารมณ์แห่งความเคารพ มีความเสมอภาค เพื่อผลประโยชน์ร่วม ไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัน ในฐานะเป็นสมาชิกของอาเซียนได้ช่วยให้สถานะของเวียดนามได้รับการขยายและผลักดันความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนนอกอาเซียน โดยเฉพาะประเทศใหญ่ๆ ตลอดจนเข้าร่วมกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศและภูมิภาคที่กว้างขวางยิ่งขึ้น เช่นอาเซียน+3 การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอส ฟอรั่มความร่วมมือเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปก กระบวนการร่วมมือเอเชีย-ยุโรปหรืออาเซม องค์การการค้าโลกเพื่อมีส่วนร่วมยกระดับบทบาทและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก
ส่งเสริมบทบาทที่เข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบในอาเซียน
เวียดนามตระหนักเสมอว่า อาเซียนที่มีความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิด มีความสามัคคีและมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ มีบทบาทและสถานะสำคัญบนเวทีโลกเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานและยาวนานของเวียดนาม ดังนั้นในตลอด 19 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับสมาชิกอื่นๆ เวียดนามได้ร่วมกับอาเซียนฟันฝ่าแก้ไขความแตกต่างและปัญหาที่คั่งค้างจากประวัติศาสตร์เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกด้านบนเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและความสามัคคี
ในระยะแห่งการพัฒนาใหม่ของอาเซียน เวียดนามได้ธำรงแนวทางร่วมมือกับอาเซียนบนเจตนารมณ์แห่งการเป็นฝ่ายรุก เข้าร่วมอย่างเข้มแข้งและมีความรับผิดชอบ เช่นเป็นฝ่ายรุกในการเสนอข้อคิดริเริ่มเพื่อขยายความร่วมมือและผลักดันความเชื่อมโยงอาเซียน ร่วมแรงร่วมใจกับอาเซียนแก้ไขปัญหาอุปสรรคและความท้าทายต่างๆเพื่อธำรงการคงอยู่และคุณค่าของอาเซียนในสถานการณ์ใหม่ ท่าน ฝ่ามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า“เวียดนามตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าหากภูมิภาคนี้พัฒนาอย่างสันติ พวกเราก็จะได้รับผลประโยชน์ ดังนั้นพวกเราต้องกำหนดผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์พร้อมกับการพัฒนาประชาคมอาเซียนและถือว่านี่คือผลประโยชน์สำคัญ เมื่ออาเซียนกลายเป็นประชาคม นอกจากบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและพัฒนา พวกเรายังสามารถใช้โอกาสจากจุดแข็งของเศรษฐกิจต่างๆในอาเซียนเพื่อช่วยกันพัฒนา”
ก่อนอื่น เวียดนามกำลังเน้นทุกความพยายามและแหล่งพลังเพื่อมีส่วนร่วมแปรเป้าหมายของประชาคมอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อยกระดับสถานะและบทบาทของเวียดนามบนเวทีโลก ให้ความสำคัญต่อภาพลักษณ์ของเวียดนามที่เปลี่ยนแปลงใหม่และคล่องตัว มีแนวทางต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง ร่วมมือและพัฒนา ท่าน เหงียนเตี๊ยนมิง หัวหน้ากรมอาเซียนสังกัดกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำว่า“ต้องทำเช่นไรเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ประสานจุดยืนร่วมของอาเซียนในปัญหาภูมิภาคและธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเป็นปัญหาสำคัญและท้าทาย เวียดนามจะร่วมกับอาเซียนผลักดันกระบวนการเชื่อมโยง สร้างสรรค์ประชาคม ปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งบุคลากรและระเบียบการ ภายในประเทศ เวียดนามจะผลักดันการประสานงานระหว่างกระทรวงและหน่วยงานเกี่ยวกับการผลักดันในอาเซียนเพื่อเข้าร่วมอาเซียนอย่างพร้อมเพรียง”
ภายหลัง 19 ปีของการผสมผสานเข้ากับภูมิภาค เวียดนามได้มีส่วนร่วมต่อการคงอยู่ การพัฒนาของอาเซียนและได้บรรลุผลงานในเบื้องต้น ในเวลาข้างหน้า อาเซียนยังมีโอกาสมากมายเพื่อพัฒนา แต่ก็มีความท้าทายไม่น้อยซึ่งทำให้เวียดนามและประเทศสมาชิกอื่นๆของอาเซียนต้องผลักดันความร่วมมือและเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ร่วมกันมีข้อคิดริเริ่มใหม่ๆและมีมาตรการเพื่อปฏิบัติข้อคิดริเริ่มที่เสนอเพื่อแปรข้อคิดริเริ่มของ “วิสัยทัศน์ 2020” กลายเป็นความจริง สร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนอย่างสำเร็จและกลายเป็นปัจจัยหลักของประชาคมเอเชีย./.