การเยือนเอเซียเพื่อยืนยันผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ

(VOVworld)- สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รีได้เริ่มการเยือน3ประเทศเอเซียได้แก่จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแต่จากสาส์นที่บ่งบอกให้เห็นก่อนการเยือนนี้ก็แสดงให้เห็นว่าทางการของประธานาธิบดีบารักโอบามายังคงเน้นความสนใจต่อนโยบายมุ่งสู่เอเซีย

(VOVworld)- สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รีได้เริ่มการเยือน3ประเทศเอเซียได้แก่จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแต่จากสาส์นที่บ่งบอกให้เห็นก่อนการเยือนนี้ก็แสดงให้เห็นว่าทางการของประธานาธิบดีบารักโอบามายังคงเน้นความสนใจต่อนโยบายมุ่งสู่เอเซีย

การเยือนเอเซียเพื่อยืนยันผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐ - ảnh 1
สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รีได้เริ่มการเยือน3ประเทศเอเซียได้แก่จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ(photo internet)

การเยือนเอเซียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รีถือเป็นการแปรแถลงการณ์ที่ประกาศพร้อมกับรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียขณะกำลังอยู่เยือนวอชิงตันเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาให้เป็นรูปธรรมโดยย้ำว่าจะธำรงนโยบายปรับความสมดูลของสหรัฐในเอเซียเหมือนที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนก่อนคือนางฮิลลารี่ คลินตัน เคยทำแถมยังให้ความสนใจมากกว่า ตามแผนการ ภายหลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลุ่มจี8ที่มีขึ้น ณ กรุงลอนดอน ในระหว่างวันที่10-11เมษายนนี้ รัฐมนตรีจอห์น แคร์รีจะเดินทางไปเยือน จีน สาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นเพื่อยืนยันคำมั่นของสหรัฐเกี่ยวกับการขยายและผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจความมั่นคงและผลประโยชน์ยุทธศาสตร์ต่างๆของสหรัฐในเอเซียแปซีฟิก ซึ่งในแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐวิกตอเรีย นูแลนด์ ประเด็นสำคัญของการหารือครั้งต่างๆในโอกาสนี้ของรัฐมนตรีจอห์น แคร์รี จะคลอบคลุมทั้งปัญหาทวิภาคี พหุภาคีและภูมิภาค ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการทดลองนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้น  แต่นี่ก็มิใช่เรื่องที่น่าแปลกเพราะการเยือน3ประเทศเอเซียของนายจอห์น แคร์รีตรงกับช่วงที่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีกำลังจะไปถึงจุดสูงสุดจากการที่เปียงยางได้ข่มขู่ว่าจะโจมตีวอชิงตันและกรุงโซล ส่วนฝ่ายสหรัฐได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยไปยังสาธารณรัฐเกาหลีเพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบ และก่อนเริ่มการเยือน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐก็ได้ยืนยันอีกครั้งว่าสหรัฐเตรียมพร้อมเพื่อที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องตนเองและพันธมิตรหากเห็นว่าจำเป็น

ต่อท่าทีดังกล่าวเมื่อวันที่5เมษายน ทางฝ่ายญี่ปุ่นก็ได้แสดงทีท่าตอบรับเมื่อประกาศรายงานนโยบายด้านการต่างประเทศประจำปีหรือหนังสือปกเขียวทางการทูตได้ย้ำถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐในการธำรงเสถียรภาพของภูมิภาคเอเซีย-แปซีฟิกในขณะที่บรรยากาศแห่งความมั่นคงในภูมิภาคนี้นับวันเลวร้ายลงเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการทหารเพิ่มขึ้นและความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงระหว่างประเทศต่างๆในปัญหาอธิปไตยเขตน่านน้ำ รายงานก็ได้ระบุว่าญี่ปุ่นจะแสวงหาความร่วมมือกับประเทศต่างๆรวมทั้งสหรัฐเพื่อเรียกร้องให้เปียงยางปฏิบัติตามมติต่างๆของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและข้อตกลงที่ได้บรรลุในการเจรจา6ฝ่าย ทั้งนี้แม้ว่าการเยือนเอเซียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะได้รับการตอบรับที่ดีแต่ก็มิได้หมายความว่าการปฏิบัตินโยบายมุ่งสู่เอเซียของสหรัฐจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากยังถูกถือว่าเป็นกระบวนการที่เต็มไปด้วยอุปสรรคเพราะโครงการปรับลดงบประมาณของสหรัฐได้ทำให้นายจอห์น แคร์รีตั้งคำถามต่อความสำเร็จของเป้าหมายต่างๆในนโยบายทางการทูตดังกล่าวส่วนรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ จักค์ ฮาเกล ก็อยากทบทวนยุทธศาสตร์ให้มีความสอดคล้องกับปัญหางบประมาณในปัจจุบัน

อีก2เดือนให้หลังต่อจากการเยือน3ประเทศเอเซียในครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะกลับมาภูมิภาคเอเซียอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะมีขึ้น ณ ประเทศบรูไนในเดือนมิถุนายนพร้อมทั้งจะถือโอกาสนี้เยือนบางประเทศอาเซียนด้วย ซึ่งทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในนโยบายด้านการต่างประเทศของทางการประธานาธิบดีโอบามาไม่เคยละเลยความสนใจต่อ เอเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่คล่องตัวที่สุดในปัจจุบัน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด