การแข่งขันโค้งสุดท้าย ศึกเลือกตั้งประธานานาธิบดีสหรัฐ
(VOVworld)- การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี2012กำลังเข้าโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งคือวันที่6พฤศจิกายน ซึ่งจากสองแนวทางที่ว่า รักษาความได้เปรียบด้านคะแนนนิยมเหนือคู่แข่งเพื่อชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองและพลิกผันสถานการณ์เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกนั้น การโต้วาที ณ เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการแข่งขันระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2012 คือ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนายมิตต์ รอมนีย์
(VOVworld)- การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปี2012กำลังเข้าโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งคือวันที่6พฤศจิกายน ซึ่งจากสองแนวทางที่ว่า รักษาความได้เปรียบด้านคะแนนนิยมเหนือคู่แข่งเพื่อชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองและพลิกผันสถานการณ์เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกนั้น การโต้วาทีที่มีขึ้นในค่ำวันที่3ตุลาคมตามเวลาสหรัฐ ณ เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปทั่วสหรัฐและทั่วโลกถือเป็นโค้งสุดท้ายของการแข่งขันระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2012 คือ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัวแทนพรรคเดโมแครตและนายมิตต์ รอมนีย์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน
|
| การโต้วาที ณ เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการแข่งขันระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา 2012 -AP |
ต้องยืนยันว่า การขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์พร้อมกันครั้งนี้จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อคะแนนนิยมของแต่ละฝ่ายในศึกชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาวและก็เป็นการเปิดฉากการดีเบทอีก2ครั้งของคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและอีกครั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี คาดว่ามีชาวอเมริกันประมาณ60ล้านคนจับตาการโต้วาทีรอบแรกนี้ ดังนั้นในเวลาที่ผ่านมาคู่แข่งทั้งสองคนต่างก็พยายามเตรียมตัวฝึกซ้อมทั้งในเชิงรุกและเชิงรับในทุกประเด็นที่จะนำมาถกเถียงกันบนเวที
สำหรับผู้ลงสมัครของพรรครีพับลิกันนาย มิตต์ รอมนีย์ นั้น ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐก็ได้เห็นถึงความพยายามและการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในศึกแย่งชิงคะแนนเสียงที่มีความหมายชี้ขาดครั้งนี้ โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่รัฐแมสซาชูเซตส์ นายรอมนีย์ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ซ้อมดีเบทกับสส.สภาล่าง รอป ปอร์ตมาน ที่สวมบทเป็นนายโอบามาเพื่อโต้อภิปรายเกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐให้ความสนใจ ส่วนตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในทีมหาเสียงเลือกตั้งนั้น อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์อายุ65ปีคนนี้ได้ทำการซ้อมขึ้นเวทีหลายครั้งตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน โดยเน้นในประเด็นคือการเติบโตอย่างล่าช้าของเศรษฐกิจและอัตราการขยายตัวจีดีพีสหรัฐในไตรมาสที่สองของปีนี้ที่มีเพียงร้อยละ1.3ตามข้อมูลจากกระทรวงการค้าสหรัฐนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสหรัฐต้องเลือกผู้นำทำเนียบขาวที่มีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีกว่าถึงจะช่วยให้สหรัฐกลับเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอย่างรวดเร็วได้ นอกจากนี้นายรอมนีย์ยังตำหนินโยบายของทางการบารักโอบามาเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณเพื่อการป้องกันประเทศเกือบ5แสนล้านเหรียญสหรัฐในรอบ10ปีข้างหน้า โดยเห็นว่าเป็นการลดความเข้มแข็งของกองทัพสหรัฐ และส่งผลเสียต่อความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทางฝ่ายของนายรอมนีย์ได้ตั้งความหวังว่าการโต้ตอบในการอภิปรายครั้งต่างๆจะช่วยพลิกผันความเสียเปรียบด้านคะแนนนิยมในปัจจุบันได้เพื่อเข้ารอบสุดท้ายในวันที่6พฤศจิกายนนี้
|
| การประชันวิสัยทัศน์ครั้งหน้าก็มิใช่เป็นเรื่องง่ายสำหรับคู่แข่งทั้งสองคน -AP |
ส่วนทางฝ่ายประธานาธิบดีโอบามาก็ได้มีการเตรียมตัวอย่างเต็มที่ให้แก่การแข่งขันที่นับวันทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถึงแม้จะไม่มีการเปิดเผยรูปแบบและกำหนดการฝึกซ้อมแต่นายโอบามาก็ได้มีการปรึกษาหารือเกี่ยวกับหัวข้อต่างกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทีมงานหาเสียงเลือกตั้งของตน โดยวุฒิสมาชิก จอห์น แครี ซึ่งรับบทเป็นคู่แข่งคือนายมิตต์รอมนีย์ได้เดินทางไปร่วมการซ้อมดีเบทกับนายโอบามาที่เมืองเฮนเดอร์สัน รัฐเนวาดา ส่วนเมื่อวันที่ 30กันยายนที่ผ่านมา ในการกล่าวปราศรัยต่อกลุ่มผู้สนับสนุน ณ นคร ลาสเวกัส ประธานาธิบดี บารักโอบามาได้ชี้ชัดว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองฝ่ายต้องร่วมอภิปรายอย่างจริงจังเกี่ยวกับมาตรการต่างๆเพื่อธำรงอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน รวมทั้งย้ำว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของชาวอเมริกันมิใช่เรื่องง่ายเพราะพวกเขาไม่เพียงแต่ต้องเลือกผู้นำประเทศและพรรครัฐบาลที่จะเป็นเดโมแครตหรือรีพับลิกันเท่านั้นหากจะต้องเลือกอนาคตของประเทศอีกด้วย
|
| คาดว่ามีชาวอเมริกันประมาณ60ล้านคนจับตาการโต้วาทีรอบแรกนี้-AP |
ตามผลการสำรวจทั่วประเทศล่าสุดปรากฎว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีบารักโอบามากำลังนำนายรอมนีย์ประมาณร้อยละ5และตัวเลขนี้ยังสูงขึ้นอีกในรัฐที่ไม่ได้เป็นฐานเสียงของพรรคใดพรรคหนึ่งเพราะผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ในขณะเดียวกันอัตราผู้สนับสนุนนายรอมนีย์ตามมลรัฐที่สำคัญถือว่าค่อนข้างต่ำ ซึ่งเป็นผลจากความเห็นเกี่ยวกับคนอเมริกันในเทปลับอื้อฉาวที่ถูกเผยแพร่ออกไป ที่เขาบอกว่า คนอเมริกันกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศต้องพึ่งพารัฐบาลและไม่ยอมรับผิดชอบชีวิตตนเอง แต่ถึงอย่างไรก็ดีจากความพยายามปรับภาพลักษณ์ของตนเพื่อมุ่งพลิกสถานการณ์ในวันที่6พฤศจิกายนนี้ นายรอมนีย์ก็สามารถประสบความสำเร็จที่สำคัญต่างๆและเขาได้ยืนยันว่า ในเวลากว่า1เดือนก่อนถึงการเลือกตั้งจะปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ให้ดีกว่านี้รวมทั้งหวังว่าการขึ้นเวทีดีเบทตัวต่อตัวครั้งนี้จะช่วยเปลี่ยนแปลงท่าทีของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอเมริกัน แต่ถึงกระนั้นการประชันวิสัยทัศน์ครั้งหน้าก็มิใช่เป็นเรื่องง่ายสำหรับคู่แข่งทั้งสองคน./.