ก้าวเดินที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงของวอชิงตัน
็Hong Van/VOV5 -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 17 เมษายน วอชิงตันได้ประกาศยุติการระงับบรรพที่ 3 ของกฎหมาย Helms-Burton โดยชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบาและสถานประกอบการสหรัฐสามารถยื่นฟ้องบริษัทต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในประเทศคิวบา ถ้าหากเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกโอนมาเป็นของรัฐในการปฏิวัติปี 1959 ในคิวบา ซึ่งเป็นก้าวเดินของสหรัฐที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงในการกดดันคิวบาเกี่ยวกับปัญหาเวเนซุเอลา และอาจนำไปสู่การพิพาทใหม่ระหว่างสหรัฐกับอียู พร้อมทั้งทำให้บริษัทหลายแห่งของสหรัฐ แคนาดาและยุโรปถูกฟ้องร้อง
(Photo:Vietnamplus) |
การตัดสินใจของวอชิงตันทำให้ศาลมีสิทธิ์พิจารณาคดีความต่อบริษัทต่างชาติที่กำลังประกอบธุรกิจกับคิวบา ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ขู่ว่า จะฟื้นฟูกฎหมาย Helms-Burton ที่ประกาศใช้เมื่อปี 1996 ที่อนุญาตให้ชาวอเมริกันสามารถยื่นฟ้องบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านโรงแรม โรงงานผลิตบุหรี่ โรงงานผลิตไวน์และทรัพย์สินอื่นๆที่ถูกโอนมาเป็นของรัฐคิวบาเมื่อปี 1959 อีกทั้งอนุญาตให้ชาวคิวบาที่ได้กลายเป็นพลเมืองสหรัฐสามารถฟ้องร้อง ถ้าหากทรัพย์สินของพวกเขาถูกยึดเช่นกัน แต่ในตลอด 23 ปีที่ผ่านมา กฎหมายฉบับนี้ได้มีการชลอการบังคับใช้เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่า จะสร้างความวุ่นวายให้แก่ระบบศาลของสหรัฐ ตลอดจนก่อให้เกิดการพิพาทด้านการค้ากับพันธมิตร
แรงกดดันต่อนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศของคิวบา
การตัดสินใจฟื้นฟูบรรพที่ 3 ของกฎหมาย Helms-Burton ของทางการประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ มีขึ้นในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจของคิวบากำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ขณะนี้ คิวบากำลังหาทางขยายการเติบโตให้แก่เศรษฐกิจและการส่งออกเพื่อบรรลุการขยายตัวที่เข้มแข็งมากขึ้นในปี 2019 หลังจากบรรลุอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจร้อยละ 1.2 เมื่อปี 2018 คิวบาพร้อมประยุกต์ใช้และพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจสังคมเพื่อบรรลุความคืบหน้า ผลักดันการปรับปรุงบรรยากาศการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ จนถึงปัจจุบัน มีโครงการลงทุนต่างประเทศกว่า 500 โครงการในคิวบา รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในกรอบงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศฮาวานา FIHAV 2018 คิวบาได้ประกาศรายชื่อ 170 โครงการใหม่ที่ต้องการเงินลงทุนจากต่างประเทศประจำปี 2018 ที่เน้นในด้านปศุสัตว์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเบา เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ การทำเหมืองแร่และการท่องเที่ยว
หลังจากรัฐบาลสหรัฐฟื้นฟูบรรพที่ 3 ของกฎหมาย Helms-Burton รัฐบาลคิวบาได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นรับมือกับปฏิบัติการที่เป็นอริที่ยืดเยื้อของสหรัฐและกฎหมาย Helms-Burton ที่สหรัฐประกาศใช้ไม่มีผลในประเทศนี้
พันธมิตรของสหรัฐคัดค้านอย่างเข้มแข็ง
การฟื้นฟูบรรพที่ 3 ของกฎหมาย Helms-Burton ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของคิวบาเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่อแคนาดาและยุโรปอีกด้วย เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งที่ประกอบธุรกิจในคิวบา รวมทั้งบริษัทสหรัฐ ดังนั้น ตั้งแต่ช่วงที่สหรัฐยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ สหภาพยุโรปหรืออียูได้ขู่ว่า จะยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลกหรือ WTO ส่วนเอกอัครราชทูตอียูประจำคิวบา Alberto Navarro ได้ตำหนิว่า การใช้คำสั่งคว่ำบาตรของสหรัฐคือสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและผิดศีลธรรม ในกรอบการเยือนคิวบาเมื่อปี 2018 ข้าหลวงใหญ่ดูแลนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรปหรืออียู Federica Mogherini ได้ให้คำมั่นว่า จะผลักดันบทบาทเป็นแกนหลักของอียูในการเปิดเศรษฐกิจคิวบา แนวทางของอียูคือยังคงเป็นเพื่อนมิตรและมีความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนและน่าเชื่อถือกับคิวบา ดังนั้นในคำประกาศเมื่อวันที่ 17 เมษายน ข้าหลวงใหญ่ของอียู Federica Mogherini ได้ยืนยันว่า จะขัดขวางการบังคับใช้และรับรองคำวินิจฉัยของต่างประเทศที่อาศัยกฎหมาย Helms-Burton ของสหรัฐ
ส่วนประเทศอื่นๆ เช่นแคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษและประเทศที่ลงทุนเป็นจำนวนมากในคิวบาก็คัดค้านท่าทีใหม่นี้ของวอชิงตันที่จงใจแทรกแซงความสัมพันธ์ด้านธุรกิจระหว่างคิวบากับอีกประเทศที่มีอธิปไตยและบังคับให้ต้องอยู่ภายใต้อำนาจศาลของสหรัฐ ส่วนสเปนซึ่งเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของคิวบาได้ประกาศว่า พร้อมให้การช่วยเหลือสถานประกอบการ และผู้นำของสเปนได้ติดต่อกับทางการยุโรปและทุกพรรคการเมืองภายในประเทศเพื่อแสดงความสามัคคี พร้อมยืนยันว่าจะไม่ละทิ้งความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับคิวบาแน่นอน
ประธานาธิบดีสหรัฐหลายรุ่นต่างๆได้ระงับการบังคับใช้มาตราหลักในกฎหมาย Helms-Burton เพื่อหลีกเลี่ยงการพิพาทด้านการค้า แต่การที่ทางการประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดไฟเขียวให้แก่การฟ้องร้องบริษัทต่างชาติที่กำลังประกอบธุรกิจในคิวบาคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหญ่ของทางการสหรัฐต่อคิวบาในรอบ 20 ปี อีกทั้งก็กลายเป็นดาบสองคม เพราะถึงแม้จะส่งผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนของคิวบา แต่แน่นอนว่าจะกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับพันธมิตร.
็Hong Van/VOV5