สถานการณ์โลกและภูมิภาคมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายต่อประเทศเวียดนาม ดังนั้น 3 หน้าที่สำคัญของการทูตเวียดนามในปัจจุบันคือรักษาบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพ ปกป้องเอกราช อธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดนของประเทศและปกป้องระบอบการเมือง และเพื่อปฏิบัติหน้าที่หลักเหล่านี้  ในปี 2016 การทูตเวียดนามต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในปี 2015 กิจกรรมการทูตของเวียดนามได้มีขึ้นในทุกระดับอย่างคึกคักและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ ผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในหลายด้านอย่างกว้างลึก ซึ่งมีส่วนร่วมยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีภูมิภาคและโลก  โดยจุดเด่นด้านการทูตของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในปีที่ผ่านมาคือ การเยือนประเทศสหรัฐ จีนและญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของท่านเหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ในขณะเดียวกัน เวียดนามก็ให้การต้อนรับผู้นำประเทศมหาอำนาจที่เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ ปี 2015 ยังเป็นปีแห่งความสำเร็จของเศรษฐกิจการต่างประเทศเวียดนาม โดยเวียดนามได้ลงนามหรือเสร็จสิ้นการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีรวม 15 ฉบับ ซึ่งมี 2 ฉบับที่สำคัญที่สุดคือ ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป ส่วนการทูตในด้านวัฒนธรรมก็ได้มีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนามเพื่อให้มิตรประเทศมีความเข้าใจประเทศและคนเวียดนามมากขึ้น

ปี 2016 เป็นปีแรกที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเริ่มเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติอย่างจริงจังและข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีที่เวียดนามได้ลงนามจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ดังนั้นต้องทำอย่างไรให้เวียดนามได้รับประโยชน์มากที่สุดในกระดานยุทธศาสตร์ของภูมิภาคและโลกเป็นเรื่องที่บรรดาเจ้าหน้าที่หน่วยงานการทูตต้องติดตามดำเนินการ นายฝามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศย้ำว่า “พวกเราต้องปฏิบัตินโยบายขยายและผลักดันความสัมพันธ์ทางการเมืองเพื่อเป็นพื้นฐานผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ดึงดูดเงินโอดีเอและเรียกร้องให้ประเทศต่างๆขยายการส่งออกเพื่อเปิดโอกาสให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม ควบคู่กันนั้น หน่วยงานการทูตยังสนับสนุนสถานประกอบการขยายความร่วมมือกับหุ้นส่วน แนะนำให้สถานประกอบการและประชาชนมุ่งใจสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกประเทศสมาชิกในปีนี้”

อาจกล่าวได้ว่า พวกเรากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่มีสันติภาพแต่ยังมีสันติสุข ดังนั้นสันติภาพและความร่วมมือยังเป็นแนวโน้มหลักแต่ปัจจัยที่จะก่อความไม่สงบและความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะในภูมิภาคนับวันปรากฎให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะสถานการณ์ในทะเลตะวันออกซึ่งมีความซับซ้อนเป็นอย่างยิ่งพร้อมภัยคุกคามเกี่ยวกับความมั่นคงและอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะของประเทศนับวันรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น การทูตเวียดนามจะเป็นกองกำลังเดินหน้าในการต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยต่อไปโดยเฉพาะการทูตประชาชนถือเป็นปัจจัยสำคัญ  นายหวูซวนห่ง  ประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามได้เผยว่า  “ ในสภาวการณ์ใหม่ เพื่อปฏิบัติหน้าที่การปกป้องประเทศและต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะเวียดนาม เราต้องปฏิบัติการณรงค์เรียกเสียงสนับสนุนจากเพื่อนมิตรชาวต่างชาติต่อไปโดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ใหม่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ในทะเลตะวันออกแต่ละครั้ง เราต่างได้รับการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากองค์กรและบุคคลต่างชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมสร้างแรงกดดันระหว่างประเทศ เราต้องถือประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก เอกราช เสรีภาพและบูรณะภาพแห่งดินแดนคือสิ่งที่มีความหมายชี้ขาดต่อชะตากรรมของประเทศ”

20 ปีหลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน พร้อมกับ 9 ประเทศสมาชิกอื่นๆ เวียดนามได้ลงนามในปฏิญญาประกาศการก่อตั้งประชาคมอาเซียนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปี 2015 นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนอาเซียน 600 ล้านคน ซึ่งตั้งใจเคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่ออนาคตที่สดใส สำหรับเวียดนาม อาเซียนมีบทบาทสำคัญอันดับแรกในนโยบายการต่างประเทศ เวียดนามแสดงเจตนาดีและมีความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมมากขึ้นในอาเซียน เพื่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง นายหวูซวนห่ง ประธานสหพันธ์องค์การมิตรภาพเวียดนามยืนยันว่า“การทูตจะมีส่วนร่วมสำคัญต่อการเข้าร่วม การสร้างสรรค์ การพัฒนาและการเดินพร้อมกันของเวียดนามกับประชาคมอาเซียน ซึ่งไม่เพียงแต่ร่วมมือกับองค์กรของประชาชนเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของประชาคม ต่อสู้กับความคิดและแผนการของฝ่ายที่เป็นอริที่มุ่งสร้างความแตกแยกในประชาคมอาเซียนเท่านั้น หากยังทำการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจัดตั้งประชาคมให้ประชาชนในทุกประเทศสมาชิก รวมทั้งผู้ประกอบการมีความเข้าใจเพื่อก้าวไปสู่ประชาคมฯอย่างเต็มที่”
ปี 2016 การทูตเวียดนามจะปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 ต่อไป เพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างรอบด้าน ซึ่งไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมสร้างบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนาประเทศเท่านั้น หากยังเป็นการยืนยันภาพลักษณ์ของประเทศเวียดนามที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัญหาต่างๆของโลกอีกด้วย.