ขยายการจำหน่ายสินค้าในชนบทและเขตทุรกันดาร
การรณรงค์“ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม”ไม่เพียงแต่ได้มีส่วนร่วมในการนำสินค้าเวียดนามไปจำหน่ายในจังหวัด นคร และเขตทุรกันดารเท่านั้นหากยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกของผู้บริโภคเกี่ยวกับสินค้าเวียดนาม อำนวยความสะดวกให้แก่การผลิตภายในประเทศและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสถานประกอบการเวียดนาม
ปี๒๐๑๑ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้จัดการนำสินค้าไปจำหน่ายในชนบทเกือบ๑๖๐ครั้งโดยมีสถานประกอบการกว่า๑๖๐๐แห่งเข้าร่วม รายได้บรรลุกว่า๕หมื่น๗พันล้านด่ง ตามซูปเปอร์มาเก็ตและศูนย์การค้าต่างๆสินค้าที่ผลิตภายใน ประเทศมีอัตราสูง สินค้าเกือบร้อยละ๙๕ในระบบซูปเปอร์มาเก็ตไซ่ง่อนได้รับการผลิตภายในประเทศ ผู้บริโรคนับวันนิยมใช้สินค้าเวียดนามมากขึ้น สถานประกอบการก็วางยุทธศาสตร์พัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดชนบท นิคมอุตสาหกรรมและเขตทุรกันดารในเชิงรุก
รายงานของคณะกรรมการรณรงค์ที่เสนอในการประชุมสรุปผล๒ปฏิบัติโครงการดังกล่าว ณ กรุงฮานอย เมื่อเร็วๆนี้ระบุว่า ผู้บริโภคร้อยละ๕๙กล่าวว่า จะให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนามผู้บริโภคร้อยละ๓๘เตือนคนในครอบครัวและเพื่อนมิตรให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม ผู้บริโภคร้อยละ๓๖เผยว่า เมื่อก่อนนี้พวกเขามีความเคยชินซื้อสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศแต่ปัจจุบันได้งดซื้อหรือซื้อน้อยลงเพื่อซื้อสินค้าเวียดนาม สิ่งที่น่าสนใจคือไม่เพียง แต่ในนครใหญ่ๆเท่านั้นหากในเขตชนบทซึ่งเมื่อก่อนนี้เป็นสถานที่ที่จำหน่ายสินค้าต่างประเทศ สินค้าเถื่อน สินค้าขาดคุณภาพแต่ปัจจุบันจากนโยบายกระตุ้นของรัฐบาลโดยผ่านโครงการนำสินค้าเวียดนามไปจำหน่ายในชนบท สถานประกอบการหลายแห่งขายสินค้าได้มากๆ สินค้าที่ผู้บริโภคเวียดนามนิยมใช้เมื่อเทียบกับปีก่อนๆคือ สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องหนังรองเท้า อาหาร ผักผลไม้ เครื่องใช้ในครัวเรือน วัสดุก่อสร้างและ เครื่องตกแต่งภายใน นางNguyễn Thị Hồng Tín หัวหน้าคณะกรรมการดูแลตลาดภายในประเทศกลุ่มบริษัทสิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามเผยว่า ปี๒๐๑๑ทางกลุ่มบริษัทได้นำสินค้าไปจำหน่ายในชนบทกว่า๖๐ครั้ง “บรรดาสถานประกอบการตระหนักได้ว่า ตลาดภายใน ประเทศเป็นตลาดที่มีศักยภาพโดยมีประชากรกว่า๘๐ล้านคนดังนั้นมีสถานประกอบการหลายแห่งได้มียุทธศาสตร์พัฒนาตลาดภายใน ประเทศ เช่น Viêt Tiến Phong PhúและNhà Bè เป็นต้น ผลกำไรจากตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้นพอสมควร” อย่างไรก็ดีกระบวนการปฏิบัติการรณรงค์นี้ยังประสบอุปสรรค ระบบจำหน่ายสินค้ายังไม่สมบูรณ์แบบ งานนิทรรศการแค่เพียงแนะนำสินค้าหรือขายส่งขายปลีกเท่านั้นและยังไม่สร้างเครื่องหมายการค้า นางĐinh Thị Mỹ Loan เลขาธิการสมาคมขายปลีกเวียดนามได้กล่าว ถ้าอยากให้ผู้บริโภคให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนามผู้จำหน่ายสินค้าต้องมีความค่องตัวในการประชาสัมพันธ์ ให้ความ สำคัญต่อการบริการ ดูแลลูกค้า โดยเฉพาะ การบริการหลังการขายสินค้า “พ่อค้าแม่ค้ามีความประสงค์ที่จะขายสินค้าเวียดนาม สถานประกอบการก็มีความประสงค์ที่จำหน่ายสินค้าและผู้บริโภคก็มีความประสงค์ที่จะซื้อสินค้าเวียดนามแต่ยังไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคเช่นพ่อค้าแม่ค้าอยากขายสินค้าเวียดนามแต่ไม่มีเพราะสถานประกอบการกำลังเน้นส่งออกนอกจากนี้พวกเขายังต้องรับซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากอีกทั้งไม่สามารถคืนหรือเปลี่ยนสินค้าได้”
นางHồ Thị Kim Thoa รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามกล่าวว่า เพื่อให้การรณรงค์ได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพต้องมีมาตรการแบบเบ็ดเสร็จ สถานประกอบการต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาต่ำกว่าราคาที่นำเข้าจากต่างประเทศตอบสนองความต้องการของลูกค้า ส่วนชาวเวียดนามทุกคนต้องตระหนักว่า การให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ“นอกจากการเชื่อมโยงระหว่างนักผลิต ผู้จำหน่ายและผู้บริโภคแล้วในปี๒๐๑๒พวกเราจะต้องเชื่อมโยงกับท้องถิ่นต่างๆและให้ความสนใจถึงโครงสร้างพื้นฐานการค้าอีกด้วยเพราะปัจจุบันสินค้าได้รับการจำหน่ายในชนบท เขตทุรกันดารตามตลาดนัดต่างๆ เมื่อไม่มีตลาดนัดแล้วก็ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าต่อไปได้”
ในปี๒๐๑๒ เพื่อผลักดันการปฏิบัติการรณรงค์ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์จะอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตพร้อมทั้งจัดนิทรรศการเพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความได้เปรียบของสินค้าเวียดนามเมื่อเทียบกับสินค้าที่นำเข้า และส่งเสริมสถานประกอบการผลักดันความร่วมมือในการจัดสรรข้อมูล ต่อต้านการขายทุ่มตลาด แข่งขันอย่างสุจริตและ ออกใบรับรองคุณภาพสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้สินค้าเวียดนาม./.