ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับติมอร์ เลสเต

(VOVworld) –  ตามคำเชิญของท่านเหงวียนเติ้นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม วันที่๔เดือนนี้ท่านเคย์ ราลา ชานานา กุสมา  นายกรัฐมนตรีติมอร์ เลสเตได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๒วันซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่๒นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี๒๐๐๕ เพื่อมีส่วนร่วมกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนามให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและแสวงหาการสนับสนุนจากเวียดนามเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การอาเซียน

(VOVworld) –  ตามคำเชิญของท่านเหงวียนเติ้นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม วันที่๔เดือนนี้ท่านเคย์ ราลา ชานานา กุสมา  นายกรัฐมนตรีติมอร์ เลสเตได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา๒วันซึ่งเป็นการเยือนเวียดนามครั้งที่๒นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี๒๐๐๕ เพื่อมีส่วนร่วมกระชับสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนามให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นและแสวงหาการสนับสนุนจากเวียดนามเพื่อเข้าเป็นสมาชิกองค์การอาเซียน
ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับติมอร์ เลสเต - ảnh 1
นายกฯเวียดนามและติมอร์ เลสเตแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 
การเยือนของท่านเคย์ ราลา ชานานา กุสมา มีขึ้นในขณะที่สถานการณ์ความมั่นคง การเมือง และสังคมของติมอร์ เลสเตกำลังมีเสถียรภาพต่อไปโดยเมื่อปี๒๐๑๒ ติมอร์ เลสเตได้จัดการเลือกตั้ง๒ครั้งสำคัญคือ การเลือตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาเพื่อจัดตั้ง รัฐบาลชุดใหม่วาระ๕ปีช่วงปี๒๐๑๒ถึงปี๒๐๑๗ซึ่งบรรดาผู้สังเกตุการณ์ได้ประเมินว่า ดำเนินไปอย่างสันติและมีประชาธิปไตยและท่านเคย์ ราลา ชานานา กุสมา ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสม๓พรรคและรั้งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและความมั่นคง รัฐบาลชุดใหม่ได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการและวางเป้าหมายที่เน้นการพัฒนาแหล่งบุคลากร โครงสร้างพื้นฐานและขยายความสัมพันธ์ต่างประเทศ   รัฐบาลติมอร์ เลสเตกำลังเน้นผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาความยากจนอย่างรวดเร็ว ปรับปรุงด้านสาธารณสุขและการศึกษาให้ดีขึ้น รักษาความมั่นคงและปฏิบัติการปรองดองชาติ แผนงบประมาณแผ่นดินปฏิบัติ๓เสาหลักในแผนพัฒนายุทธศาสตร์ช่วงปี๒๐๑๑ถึงปี๒๐๓๐ต่อไปนั่นคือ เงินทุนเพื่อพัฒนาสังคมและโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาเศรษฐกิจ            ในด้านเศรษฐกิจ ในเวลาที่ผ่านมา ติมอร์ เลสเตได้มีการพัฒนาพอสมควรโดยเมื่อปี๒๐๑๒ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ๑๐ เท่ากับปี๒๐๑๑ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่กว่า๗๐๐เหรียญสหรัฐและกำลังพยายามกลายเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางภายในปี๒๐๑๕ ปัจจุบันติมอร์ เลสเตกำลังหารือกับอินโดนีเซียและออสเตรเลียเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตสามเหลี่ยมพัฒนา การเปิดประเทศ ส่งเสริมนักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่ากว่า๑พันล้านเหรียญสหรัฐ  ในนโยบายต่างประเทศ ติมอร์ เลสเตให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่ๆและประเทศเพื่อนบ้านและรณรงค์เพื่อขอการสนับสนุนเข้าเป็นสมาชิกองค์การอาเซียน นับตั้งแต่ยื่นหนังสือขอเข้าเป็นสมาชิกองค์การอาเซียน เมื่อเดือนมีนาคมปี๒๐๑๑ ติมอร์ เลสเตได้ขยายความสัมพันธ์กับอาเซียนอย่างเข้มแข็งและรวดเร็ว บรรดาผู้นำของติมอร์ เลสเตมีกำหนดการณ์ที่จะเดินทางไปเยือนประเทศสมาชิกอาเซียนในปี๒๐๑๓และปัจจุบันกำลังเยือนอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และเวียดนาม เกี่ยวกับการทูตพหุภาคี ติมอร์ เลสเตได้เข้าร่วมกิจกรรมของสหประชาชาติอย่างเข้มแข็งซึ่งโดดเด่นที่สุดคือ การต้อนรับท่านบันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติเมื่อเดือนสิงหาคมปี๒๐๑๒ จัดการสัมมนาเกี่ยวกับโครงการพัฒนาหลังปี๒๐๑๕ในหัวข้อ“พัฒนาเพื่อทุกประเทศ ยุติการพิพาท  สร้างสรรค์ประเทศและแก้ปัญหาความยากจน” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาและเข้าร่วมฟอรั่ม“การสนทนาแชงกรีล่า” อย่างแข็งขัน            ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับติมอร์ เลสเตได้มีการพัฒนาเป็นที่น่ายินดีซึ่งโดดเด่นคือ การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี โฮเซ รามอส ฮอร์ตา เมื่อเดือนเมษายนปี๒๐๑๐โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี และจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเวียดนาม– ติมอร์ เลสเต  ติมอร์ เลสเตได้เปิดสถานทูต ณ กรุงฮานอย เมื่อเดือนเมษายนปี๒๐๑๒และแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำเวียดนามเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๒๐๑๒  มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเมื่อปี๒๐๑๒อยู่ที่เกือบ๓๕ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น๓เท่าเมื่อเทียบกับปี๒๐๑๑ที่๑๓ล้านเหรียญสหรัฐ ใน๖เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่เกือบ๒๐ล้านเหรียญสหรัฐโดยเวียดนามได้เปรียบดุลการค้า โดยเฉพาะ ข้าวและสัตว์น้ำ ปัจจุบัน บริษัทโทรคมนาคมของกองทัพเวียดนามหรือเวียตเทลกำลังลงทุนโครงการให้บริการโทรคมนาคม คิดเป็นมูลค่าเกือบ๑๕ล้านเหรียญสหรัฐ  ทั้งสองประเทศมีศักภาพและจุดแข็งมากมาย โดยเฉพาะในด้านการเกษตร ปิโตรเลี่ยม สัตว์น้ำและการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อผลักดันความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์          
ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับติมอร์ เลสเต - ảnh 2
นายกฯเหงวียนเติ้นหยุงและเคย์ ราลา ชานานา กุสเมา เป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงร่วมมือ
วัตถุประสงค์ของการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรี เคย์ ราลา ชานานา กุสเมาครั้งนี้คือเพื่อยืนยันว่า ให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีและความร่วมมือในหลายด้านกับเวียดนาม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ ปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน สำหรับเวียดนาม การเยือนนี้เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามขยายความร่วมมือกับติมอร์ เลสเตที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยังไม่เป็นสมาชิกของอาเซียน แสวงหาและผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ และแลกเปลี่ยนความเห็นต่อปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน./.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด