(VOVworld) – ในกรอบของกิจกรรมการทูตที่สำคัญของเวียดนามตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน การเยือนสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๒๑ถึงวันที่๒๔เดือนนี้ และการเยือนพม่าอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๒๔ถึงวันที่๒๖เดือนนี้ของท่านเหงวียนซิงหุ่งประธานรัฐสภาก็เพื่อขยายกิจกรรมด้านการต่างประเทศของเวียดนาม โดยเฉพาะ การทูตรัฐสภาของรัฐสภาเวียดนามซึ่งได้มีส่วนร่วมขยายความเข้าใจ ความไว้วางใจ ผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสองประเทศนี้พร้อมทั้งวางระเบียบความร่วมมือระหว่างรัฐสภาเวียดนามกับองค์การรัฐสภาในเวลาที่จะถึงตามแนวทางที่ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง

ท่านเหงวียนซิงหุ่งประธานรัฐสภาเวียดนาม(Photo: TTX)

สำหรับสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งเป็นประเทศแรกในการเยือนเอเชียตะวันออกครั้งนี้ของประธานรัฐสภาเหงวียนซิงหุ่ง ได้ดำเนินไปในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม ทั้งสองฝ่ายได้ทำการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงอยู่เสมอและธำรงระเบียบการสนทนาเพื่อสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจกัน โดยเฉพาะ ปี๒๐๑๒ ทั้งสองฝ่ายได้จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกครบรอบ๒๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในแต่ละประเทศซึ่งมีส่วนร่วมแปรความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ให้เป็นรูปธรรมซึ่งนายเจิ่นจ่องตว่าน เอกอัคคราชทูตเวียดนามประจำสาธารณรัฐเกาหลีได้ยืนยันว่า“ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสาธารณรัฐเกาหลีนับแต่อดีตไม่เคยพัฒนาอย่างดีงามดังปัจจุบัน เมื่อปี๑๙๙๒ ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ต่อจากนั้น ความสัมพันธ์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจนถึงเดือนสิงหาคมปี๒๐๐๑ ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนร่วมมือในทุกด้านและเมื่อเดือนตุลาคมปี๒๐๐๙ ทั้งสองประเทศ ได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ และนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและมีลักษณะของความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์ที่แท้จริง  เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการเมือง ผู้นำของทั้งสองประเทศได้มีความไว้วางใจกันในระดับสูง”           ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือระดับท้องถิ่นระหว่างสองประเทศนับวันยิ่งได้รับการขยาย จนถึงปัจจุบันมีกว่า๓๐จังหวัดและนครของเวียดนามที่ผูกมิตรกับจังหวัดและนครต่างๆของสาธารณรัฐเกาหลี ส่วนสมาคมมิตรภาพเวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลี และสมาคมสาธารณรัฐเกาหลี เวียดนามก็เป็นสะพานเชื่อมสัมพันธไมตรี เชื่อมโยงสองวัฒนธรรมและผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศโดยสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านได้พัฒนาอย่างรวดเร็วก็เพราะทั้งสองฝ่ายมีความละม้ายคล้ายคลึงกันด้านวัฒนธรรมและผลประโยชน์ พร้อมทั้งยังได้รับการผลักดันโดยผู้นำทั้งสองประเทศ ด้วยเหตุนี้ ในการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีครั้งนี้ นอกจากการเจรจากับท่านกางจางฮีประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว ท่านเหงวียนซิงหุ่งยังมีการพบปะหารือกับผู้นำระดับสูงของสาธารณรัฐเกาหลีเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นในเวลาที่จะถึง            
หลังจากเสร็จสิ้นการเยือนสาธารณรัฐเกาหลี  ท่านเหงียนซิงหุ่นจะเดินทางไปเยือนประเทศพม่าอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของนายKhin Aung Myint ประธานรัฐสภาพม่าโดย การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาพม่าเป็นครั้งแรกในรอบ๒๐ปี โดยเฉพาะรัฐบาลพม่านำโดยพลเอกเต็งเส่งประธานาธิบดีกำลังมีก้าวเดินที่ดีในนโยบายภายในและต่างประเทศ ผลักดันกระบวนการประชาธิปไตย และผสมผสานได้สร้างเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อให้ทั้งสองประเทศขยายความร่วมมือ ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้เสริมสร้างและผลักดันสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านโดยมีการเยือนระดับสูงต่างๆ เช่น การเยือนพม่าของนายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนเติ้นหยุง เมื่อเดือนเมษายนปี๒๐๑๐และการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีเต็งเส่ง เมื่อเดือนมีนาคมปี๒๐๑๒ และของประธานรัฐสภาพม่าKhin Aung Myint  เมื่อเดือนมิถุนายนปี๒๐๑๒ ได้มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์ให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ท่านฝ่ามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า“ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งเวียดนามและพม่าได้พยายามสร้างกรอบความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเมือง การต่างประเทศ ความมั่นคง การป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสเพื่อให้พวกเราส่งเสริมกรอบความร่วมมือเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น”            
ในการเยือนพม่าครั้งนี้ ประธานรัฐสภาพม่าจะเชิญท่านเหงวียนซิงหุ่งกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาซึ่งเป็นนักการเมืองต่างชาติคนที่๒ที่กล่าวปราศรัยในรัฐสภาพม่าต่อจากเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนับถือของพม่าต่อเวียดนาม โดยเฉพาะ ประธานรัฐสภาเวียดนาม และความตั้งใจที่จะส่งเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือ  โดยเฉพาะ ความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น            
การเยือนต่างประเทศของประธานรัฐสภาเหงวียนซิงหุ่งครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือ ให้ความสำคัญต่อสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านต่อทั้งสองหุ้นส่วนที่สำคัญในเอเชียตะวันออก พร้อมทั้งวางระเบียบการร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นระหว่างรัฐสภาเวียดนามกับรัฐสภาของสองประเทศในอนาคต อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อแสวงหาการสนับสนุนในการที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือIPU ครั้งที่๑๓๒ ในปี๒๐๑๕ ซึ่งจะมีส่วนร่วมยกระดับสถานะของเวียดนามให้สูงเด่นบนเวทีโลก./.