ขยายความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศส
Thuy Van- VOV -  
(VOVWorld)-การเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่๕-๗กันยายนนี้ของนาย ฟรองซัว อองลองค์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในรอบ๑๒ปี ซึ่งจะมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศส สร้างโอกาสความร่วมมือใหม่ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในยุโรปกับประเทศในภูมิภาคเอเชียที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัวและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
(VOVWorld)-การเยือนเวียดนามในระหว่างวันที่๕-๗กันยายนนี้ของนาย ฟรองซัว อองลองค์
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดีฝรั่งเศสในรอบ๑๒ปี ซึ่งจะมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศส สร้างโอกาสความร่วมมือใหม่ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในยุโรปกับประเทศในภูมิภาคเอเชียที่กำลังพัฒนาอย่างคล่องตัวและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
![ขยายความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศส - ảnh 1](https://photo-cms-vovworld.zadn.vn/w730/uploaded/vovworld/uqvpvowk/2016_09_05/0509%20tsct%20pierre%20journoud.jpg)
นาย Pierre Journoud ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ด้านการทหาร
|
เวียดนามและฝรั่งเศสได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อเดือนเมษายนปี๑๙๗๓ การที่ทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี๒๐๑๓ได้ช่วยขยายความสัมพันธ์ในทุกด้าน เช่น การเมือง การทูต เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรมและการศึกษา เป็นต้น
ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสมีศักยภาพมากมาย
ในหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง ฝรั่งเศสเป็นหุ้นส่วนการค้าอันดับ๕ของเวียดนามในยุโรปรองจากเยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์และอิตาลี มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี๒๐๑๕อยู่ที่๔.๒พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๑๙เมื่อเทียบกับปี๒๐๑๔ ซึ่งในนั้น มูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามไปยังฝรั่งเศสอยู่ที่๒.๙พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๓ ปัจจุบัน ฝรั่งเศสเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ๓ของเวียดนามในยุโรป รองจากเนเธอร์แลนด์และอังกฤษและติดอยู่อันดับ๑๖ในจำนวนทั้งหมด๑๑๔ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการลงทุน๔๖๑โครงการ รวมยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า๓.๔พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ฝรั่งเศสเป็นนักอุปถัมภ์รายใหญ่ของเวียดนามในยุโรป โดยเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับวงเงินช่วยเหลือของฝรั่งเศสทั้งสามรูปแบบได้แก่ วงเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจากงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษจากสำนักงานการพัฒนาของฝรั่งเศสและกองทุนสามัคคี
![ขยายความสัมพันธ์เวียดนาม-ฝรั่งเศส - ảnh 2](https://photo-cms-vovworld.zadn.vn/w730/uploaded/vovworld/uqvpvowk/2016_09_05/0509%20tsct%20gerard%20ngo.jpg)
ทนายความ Gerard Ngo
|
ด้านความร่วมมือที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆระหว่างสองประเทศ
จนถึงขณะนี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามเอกสารทางนิตินัยที่จำเป็นเพื่อขยายความร่วมมือ เช่น กรอบข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ข้อตกลงส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ข้อตกลงเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีซ้ำซ้อนและข้อตกลงความร่วมมือในด้านต่างๆ ซึ่งนำผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมาให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ ในสภาวการณ์ที่บรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจในเวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปหรืออียู การลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี การแก้ไขกฎหมายการลงทุน กฎหมายสถานประกอบการและการจัดตั้งประชาคมอาเซียนเมื่อปลายปี๒๐๑๕จะสร้างโอกาสใหม่ให้แก่บรรดานักลงทุนและสถานประกอบการ รวมทั้ง สถานประกอบการฝรั่งเศส ดังนั้น การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะเปิดระยะแห่งความร่วมมือใหม่ระหว่างสองประเทศ นาย Pierre Journoud ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหารที่ติดตามประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ ในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ได้ให้ข้อสังเกตว่า “การเยือนเวียดนามครั้งนี้ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งสองประเทศกำลังต้องการพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ในทุกระดับทั้งรัฐบาล สำนักงานภาครัฐ ท้องถิ่นและองค์การพลเรือน ส่วนความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและการค้ายังไม่สมกับศักยภาพความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ผมคิดว่า ยังมีหลายด้านที่ทั้งสองประเทศสามารถร่วมมือกันได้ เช่น การแลกเปลี่ยนสินค้าและเทคโนโลยีเป็นต้น ผมคิดว่า ๑ในเป้าหมายของการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์คือ การเปิดระยะใหม่ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะ ด้านเศรษฐกิจและการค้า”
ความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรมระหว่างสองประเทศได้รับการพัฒนานับตั้งแต่ปี๑๙๘๐ ฝรั่งเศสถือการศึกษาและฝึกอบรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเป้าหมายที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในกิจกรรมของตนในเวียดนาม โดยเน้นถึงการสอนและพัฒนาภาษาฝรั่งเศส การฝึกอบรมแหล่งบุคลากรในหลายด้าน เช่น การบริหารเศรษฐกิจ ธนาคาร การเงิน กฎหมายและเทคโนโลยีใหม่ ในระยะปัจจุบัน จากนโยบายมุ่งสู่ตะวันออก นอกเหนือจากการผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าแล้ว ฝรั่งเศสยังถือเวียดนามเป็นสะพานเชื่อมให้แก่ขบวนการพัฒนาภาษาฝรั่งเศสในอาเซียน ทนายความ Gerard Ngoได้เผยว่า “ฝรั่งเศสตระหนักเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเวียดนามเนื่องจากทั้งเหตุผลทางประวัติศาสตร์ การเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการค้า ตลอดจน เวียดนามอาจช่วยผลักดันขบวนการพัฒนาภาษาฝรั่งเศสในภูมิภาค ในปีนี้ ประธานรัฐสภาฝรั่งเศส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะผู้แทนต่างๆของฝรั่งเศสได้เดินทางมาเยือนเวียดนาม ส่วนเวียดนามก็มีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์กับฝรั่งเศส ผมเห็นว่า ฝรั่งเศสกำลังพยายามฟื้นฟูอิทธิพลในภูมิภาคและเน้นผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าเพราะเมื่อความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ที่เรียนภาษาฝรั่งเศสจะมีโอกาสได้งานทำที่ดีและฝรั่งเศสจะสามารถแข่งขันกับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในเวียดนามและภูมิภาคเอเชียได้”
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ด์ถูกตั้งความหวังจะเปิดโอกาสในหลายด้านโดยเฉพาะ ในสภาการณ์ที่ฝรั่งเศสกำลังประสบอุปสรรคมากมายและในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังใกล้จะมาถึง การจัดการเดินทางเยือนเวียดนามครั้งนี้ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและการให้ความสำคัญต่อสถานะและบทบาทของความสัมพันธ์กับเวียดนาม ซึ่งช่วยพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-ฝรั่งเศสให้เป็นรูปธรรม ผลักดันความร่วมมืออย่างจริงจังและเพื่อช่วยให้เวียดนามกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของฝรั่งเศสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
Thuy Van- VOV