ข้อตกลงการค้าเสรี-โอกาสการพัฒนาของแอฟริกา
Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 2 เมษายน รัฐสภาแกมเบียได้อนุมัติข้อตกลงเขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกาหรือ AfCFTAทำให้จำนวนประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบันข้อตกลงฉบับนี้รวมเป็น 22 ประเทศ ซึ่งเป็นการบรรลุตัวเลขขั้นต่ำเพื่อให้ AfCFTA มีผลบังคับใช้ ภายหลัง 30 วันนับตั้งแต่สหภาพแอฟริกาหรือเอยูรับเอกสารให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการจาก 22 ประเทศนี้ซึ่ง AfCFTA ได้รับการคาดหวังว่า จะสร้างเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา อันเป็นการเปิดโอกาสการพัฒนาของทวีปนี้ในอนาคต
ข้อตกลงการค้าเสรี-โอกาสพัฒนาให้แก่แอฟริกา (hanoimoi.com.vn) |
เมื่อมีผลบังคับใช้ ข้อตกลง AfCFTA จะยกเลิกภาษีต่อสินค้าร้อยละ 90 รายการ สร้างตลาดแอฟริกาที่มีผู้บริโภคกว่า 1 พันล้านคนและมีจีดีพีบรรลุกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้แอฟริกากลายเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หัวเลี้ยวหัวต่อให้แก่การขยายตัวและการเชื่อมโยงภูมิภาค
เมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 มี 49 ประเทศจากทั้งหมด 55 ประเทศแอฟริกาได้ลงนาม AfCFTA เพื่อสร้างเขตการค้าเสรีอันกว้างใหญ่ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะผลักดันการขยายตัวการค้าภายในกลุ่มขึ้นเป็นร้อยละ 52 ภายในปี 2022 ยอดจีดีพีของประเทศสมาชิกบรรลุ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ AfCFTA จะอำนวยความสะดวกให้แก่การค้าระหว่างภูมิภาค ผลักดันการขยายตัวและช่วยแก้ปัญหาความยากจน
ข้อตกลง AfCFTA ได้รับการลงนามในช่วงที่ผลประโยชน์จากการค้าเสรีกำลังเผชิญกับความท้าทาย และประเทศใหญ่ๆที่ถือการค้าเป็นพลังขับเคลื่อนของการขยายตัวกำลังมีความสงสัยเกี่ยวกับหลักการของการค้าเสรี ดังนั้น ข้อตกลง AfCFTA จะเป็นโอกาสเพื่อให้การค้าของเขตแอฟริกาสร้างก้าวกระโดดในระดับสูง ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ มูลค่าการส่งออกภายในกลุ่มแอฟริกาได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 10 เมื่อปี 1995 เป็นร้อยละ 17 เมื่อปี 2017 แต่ก็ยังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับทวีปอื่นๆ และนี่คือเหตุผลที่สร้างความหวังว่า การค้าจะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักให้แก่การขยายตัวในแอฟริกา ตามการพยากรณ์ของคณะกรรมการเศรษฐกิจแอฟริกาหรืออีซีเอ ข้อตกลง AfCFTA โดยจะเป็นปัจจัยหลักเพื่อกระตุ้นการพัฒนาการค้าภายในกลุ่ม จะทำให้มูลค่าการส่งออกภายในกลุ่มเพิ่มขึ้น คาดว่า ในปี 2040 มูลค่าการค้าภายในกลุ่มจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 25 หรือประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่ยังไม่มี AfCFTA
ข้อดีของ AfCFTA เมื่อเทียบกับข้อตกลงการค้าเสรีฉบับอื่นๆคือขอบเขตของ AfCFTA กว้างกว่าเขตการค้าเสรีอื่นๆที่เน้นถึงการค้าเชิงพาณิชย์ การบริการ การลงทุน ลิขสิทธิ์ทางปัญญา นโยบายการแข่งขันและการค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ส่วนข้อตกลง AfCFTA ยังรวมถึงความคิดริเริ่มอื่นๆในระดับทวีป ประกอบด้วย การเคลื่อนย้ายประชากร ซึ่งหมายความว่า พลเมืองแอฟริกาสามารถเที่ยวในแอฟริกาโดยไม่ต้องใช้วีซ่า มีสิทธิ์เป็นพลเมืองของไม่ว่าประเทศแอฟริกาใด หรือพลเมืองแอฟริกาทุกคนมีสิทธิ์จัดตั้งสถานประกอบการหรือจ้างงานในทุกประเทศแอฟริกา
นอกจากนั้น จาก AfCFTA การแลกเปลี่ยนการค้า การบริการปลอดภาษีและการเดินทางอย่างเสรีของประชาชนในทวีปก็จะช่วยผลักดันการพัฒนาของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งขณะนี้ กำลังสร้างงานทำร้อยละ 80และมีส่วนร่วมร้อยละ 50 ต่อจีดีพีของแอฟริกา
ใช้โอกาสเพื่อสร้างก้าวกระโดด
ศักยภาพของข้อตกลง AfCFTA ยังมีอีกมาก ดังนั้น การตระหนักได้ดีถึงพลังขับเคลื่อนหลักของข้อตกลงและมาตรการที่ดีที่สุดเพื่อใช้โอกาสและฟันฝ่าความเสี่ยงและความท้าทายคือสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ขณะนี้ ช่องว่างรายได้ระหว่างประเทศสมาชิกกำลังเป็นอุปสรรคหลักต่อกระบวนการผสมผสานและการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เช่นอียิปต์ ไนจีเรียและแอฟริกาใต้มีส่วนร่วมต่อจีดีพีของแอฟริกากว่าร้อยละ 50 ในขณะที่ 6 ประเทศหมู่เกาะในทวีปนี้มีส่วนร่วมเพียงร้อยละ 1 ต่อจีดีพีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ข้อตกลง AfCFTA ยังคงเป็นเครื่องมือเพื่อผลักดันการขยายตัวในแอฟริกาและเพิ่มความหลากหลายเศรษฐกิจ นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการใช้ประโยชน์เพื่อผลักดันการขยายตัวภายในกลุ่ม พัฒนาแอฟริกาที่มีการผสมผสานและเชื่อมโยง รวมทั้งมีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจโลก.
Anh Huyen/VOV5