รายงานประจำปี2014 เกี่ยวกับเสรีภาพด้านศาสนาทั่วโลกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยว่า เวียดนามควบคุมการประกอบศาสนกิจด้วยกฎหมายและการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐ จำกัดการประกอบศาสนกิจโดยอิสระ รวมทั้งปราบปรามบุคคลและกลุ่มบุคคลที่นับถือศาสนา ซึ่งนี่คือข้อมูลที่ผิดพลาดและขัดกับสถานการณ์ในทางปฏิบัติเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนาในเวียดนามอย่างมีชีวิตชีวา

เวียดนามเป็นประเทศที่มีศาสนาหลายศาสนาและชนเผ่าหลากชาติพันธุ์ พรรคและรัฐเวียดนามยืนยันทัศนะดังกล่าวผ่านกฎหมายว่า “ความเลื่อมใสและศาสนาเป็นความต้องการทางจิตใจของประชาชนส่วนหนึ่ง ซึ่งกำลังและจะคงอยู่กับประชาชาติตลอดกาล” มาตรา 24 ของรัฐธรรมนูญปี 2013 ของเวียดนามได้ระบุอย่างชัดเจนว่า “ หนึ่งคือ ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนา โดยสามารถนับถือหรือไม่นับถือศาสนาก็ได้ ทุกศาสนาต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย สองคือ รัฐให้ความเคารพและปกป้องสิทธิเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนา สามคือ ไม่มีใครมีสิทธิ์ละเมิดสิทธิเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนาหรือฉวยโอกาสใช้ความเลื่อมใสและศาสนาเพื่อละเมิดกฎหมาย” เวียดนามได้มีกฤษฎีกาด้านความเลื่อมใสและศาสนา มติที่แนะนำการปฏิบัติบางข้อของกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเลื่อมใสและศาสนา มติที่กำหนดรายละเอียดและมาตรการปฏิบัติกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเลื่อมใสและศาสนา คำสั่งเกี่ยวกับงานด้านต่างๆสำหรับศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ จากทัศนะ นโยบายและระบบเอกสารทางกฎหมายดังกล่าว สามารถยืนยันได้ว่า สิทธิเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนาในเวียดนามเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับ ได้รับความเคารพและได้รับการปกป้องจากพรรคและรัฐเวียดนาม ซึ่งส่งผลให้ชีวิตทางศาสนาในเวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

ตามข้อมูลสถิติเบื้องต้น ประชากรเวียดนามร้อยละ 95 มีความเลื่อมใสและนับถือศาสนา ปัจจุบันนี้ ในเวียดนาม มีศาสนาต่างๆ 13 ศาสนารวมผู้นับถือเกือบ 24 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27 ของประชากรทั่วประเทศ ควบคู่กันนั้น มีองค์กรด้านความเชื่อและศาสนาต่างๆที่มีอยู๋และกำลังจดทะเบียนประกอบศาสนกิจหลายสิบองค์กร ที่กำลังประกอบศาสนกิจอย่างคึกคักและกำลังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ในความเป็นจริง การประกอบศาสนกิจในเวียดนามกำลังมีขึ้นอย่างคึกคักและมีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับกิจกรรมทางสังคม โดยในทุกปี มีเทศกาลทางศาสนาและความเลื่อมใสประมาณ 8,500 รายการถูกจัดขึ้น การศึกษาและฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่มีสมณศักดิ์และพระภิกษุได้ถูกจัดขึ้นและขยายขอบเขตทั่วไป โดยหลายท่านได้ถูกส่งไปศึกษาในประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ ฝรั่งเศส อิตาลีและอินเดีย ในนามศาสนาต่างๆในเวียดนาม มีผู้ที่มีสมณศักดิ์ได้เข้าร่วมการสนทนาทางศาสนา ความเลื่อมใส พบปะแลกเปลี่ยนเพื่อเรียนรู้แลกเปลี่ยนพระธรรมคำสอนและระเบียบวินัยในฟอรั่มใหญ่ๆ เช่น ฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย – ยุโรปหรืออาเซ็มและสมาคมอาเซียน เวียดนามยังเป็นเจ้าภาพจัดงานวันวิสาขบูชาโลกเมื่อปี 2008 และปี 2014 และการประชุมสุดยอดพุทธศาสนาโลกเมื่อปี 2010 เป็นต้น เวียดนามยังมีความสัมพันธ์กับวาติกันตั้งแต่ปี 1989 บนพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์นี้ วาติกันตั้งตัวแทนไม่ถาวรประจำเวียดนามนับตั้งแต่ปี 2011 และจนถึงขณะนี้ ตัวแทนไม่ถาวรได้เดินทางมาเยือนเวียดนามรวม 20 ครั้งโดยลงพื้นที่เยี่ยมเยือน 60 จังหวัดจากจำนวนทั้งหมด 63 จังหวัดและนครทั่วประเทศ ข้อเท็จจริงเหล่านี้ถือว่าเป็นคำตอบที่ชัดแจ้งสำหรับการกล่าวหาว่าเวียดนามจำกัดและละเมิดสิทธิเสรีภาพในด้านความเลื่อมใสและศาสนา องค์กรศาสนาเหล่านี้สามารถสร้างสถานะและพัฒนาได้อย่างมั่นคงหรือไม่ และศาสนาต่างๆในเวียดนามสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเหมือนในปัจจุบันได้หรือไม่

กรอบนิตินัยที่ชัดเจนและความเป็นจริงอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเสรีภาพด้านความเลื่อมใสและศาสนาของเวียดนามถือเป็นการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า รายงานประจำปี2014 เกี่ยวกับเสรีภาพด้านศาสนาโลกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้อ้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์เสรีภาพด้านศาสนาของเวียดนาม จนถึงขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐกำลังมีก้าวพัฒนาอย่างข้ามขั้นและมั่นคง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การแก้ไขผลร้ายจากสงคราม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กลาโหมและความมั่นคง ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้ทำให้สองฝ่ายต้องปิดฉากอดีต ฟันฝ่าความแตกต่างเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ แต่เพื่อการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายต้องสร้างสรรค์ความไว้วางใจและให้ความเคารพระบอบการเมืองของกัน.