ความท้าทายต่อคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นชุดใหม่
Hong Van – VOV5 -  
( VOVworld ) - พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นหรือแอลดีพีได้ชนะการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อวันที่ ๑๖ ที่ผ่านมาอย่างถล่มทลาย และนายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นในไม่ช้านี้ ชัยชนะของพรรคแอลดีพีสะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวญี่ปุ่นมีความไว้วางใจต่อพรรค แต่รัฐบาลชุมใหม่ของญี่ปุ่นจะต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆทั้งจากปัญหาภายในประเทศและต่างประเทศ
( VOVworld ) - พรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นหรือแอลดีพีได้ชนะการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อวันที่ ๑๖ ที่ผ่านมาอย่างถล่มทลาย และนายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นในไม่ช้านี้ ชัยชนะของพรรคแอลดีพีสะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวญี่ปุ่นมีความไว้วางใจต่อพรรค แต่รัฐบาลชุมใหม่ของญี่ปุ่นจะต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆทั้งจากปัญหาภายในประเทศและต่างประเทศ
ภายหลังชัยชนะของพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นหรือแอลดีพี นายชินโซ อาเบะ หัวหน้าพรรคได้มีคำแถลงอย่างแข็งขันโดยยืนยันถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะนำประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤตปัจจุบัน โดยในการประชุมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อเร็วๆนี้ นายชินโซ อาเบะได้เผยว่า จะประกาศรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันที่ ๒๖ ธันวาคมนี้ โดยมีนโยบายหลักคือ นำประเทศฟันฝ่าวิกฤต ขยายเศรษฐกิจและฟื้นฟูพลังอันแข็งแกร่งทางการทูต ซึ่งรายละเอียดของนโยบายคือ ในด้านเศรษฐกิจนั้น จะแก้ไขปัญหาสภาพคล่องที่ยืดเยื้อมานานและค่าเงินเยนแข็งตัว โดยจะสั่งให้บรรดารมว.ลงนามข้อตกลงกับธนาคารชาติญี่ปุ่นในการปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างคล่องตัวและอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ ๒ ต่อปี ซึ่งเป็นโจทย์ยากสำหรับรัฐบาลชุดใหม่เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของญีปุ่นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ ๓.๕ เท่านั้น ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมปี ๒๐๑๑ นอกจากนี้ เศรษฐกิจญีปุ่นที่อาศัยการส่งออกเป็นหลักก็กำลังประสบกับความยากลำบากต่างๆนานาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา อีกประเด็นที่เป็นความท้าทายคือ การฟื้นฟูภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ โดยเฉพาะการแก้ไขผลเสียหายของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ
ในด้านการต่างประเทศ หัวหน้าพรรคแอลดีพีได้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกายังเป็นพันธมิตรที่สำคัญอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นโดยยืนยันว่า จะคงความเป็นพันธมิตรญี่ปุ่น-อเมริกาไว้ การฟื้นฟูพลังอันแข็งแกร่งทางการทูตของญี่ปุ่นที่อ่อนแอในปีที่ผ่านมาเพราะวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาอื่นๆอีกบางประเด็น ซึ่งเห็นได้ชัดคือ เมื่อเช้าวันที่ ๑๘ ที่ผ่านมา นายชินโซ อาเบะได้เจรจาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา โดยเห็นพ้องที่จะขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและหารือถึงสนธิสัญญาความมั่นคงระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจด้วย นายอาเบะยังยืนยันว่า จะมีการพบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาในเดือนมกราคมศกหน้า บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า ในความสัมพันธ์กับสหรัฐ พรรคแอลดีพีต้องแก้ไขปัญหาฐานทัพอากาศฟูเทนมะอย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการประท้วงจากทางการและชาวจังหวัดโอกินาวา ซึ่งมีฐานทัพทหารของสหรัฐมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น หากทำไม่สำเร็จก็จะส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐเหมือนบริบทที่ได้เกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดก่อนๆ
สำหรับความสัมพันธ์กับจีนนั้น แม้นายชินโซ อาเบะได้ยืนยันว่า เป็นความสัมพันธ์ที่สำคัญสำหรับญี่ปุ่น แต่ยังคงแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือหมู่เกาะต่างๆ โดยแถลงว่า จะไม่อ่อนข้อในเรื่องอธิปไตยเหนือหมู่เกาะที่สองประเทศกำลังพิพาทกันอยู่ อีกทั้งยังให้สัญญาว่า จะศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าเรือทะเล ณ เกาะเซนกากุหรือส่งข้าราชการไปปฏิบัติงานเพื่อยืนยันสิทธิการถือกรรมสิทธิ์ของญี่ปุ่นเหนือหมู่เกาะยุทธศาสต์เหล่านี้ที่ยังไม่เคยมีคนอาศัยอยู่ อย่าไรก็ดี วงการวิเคราะห์สถานการณ์เห็นว่า หากใช้มาตรการดังกล่าว ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนในเวลาที่จะถึงจะตึงเครียดต่อไป ดังนั้น รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นจะต้องครุ่นคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะปฏิบัติ
จากปฏิบัติการต่างๆดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า นายชินโซ อาเบะและพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่นกำลังปฏิบัตินโยบายที่ให้ไว้กับประชาชนในการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมาคือ การฟื้นคืนชีพและสร้างสรรค์ญี่ปุ่นใหม่ แต่เส้นทางไปสู่ความสำเร็จจะขรุขระ และชาวญี่ปุ่นผู้เทคะแนนให้กับพรรคแอลดีพีกำลังติดตามพรรคแอลดีพีว่า จะสามารถนำรัฐนาวาญี่ปุ่นไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่ ./.
Hong Van – VOV5