การปลูกต้นไม้ในจังหวัดกว๋างนิง (baogiaothong.vn)

เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมากที่สุดเนื่องจากมีชายฝั่งทะเลยาว ซึ่งถ้าหากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น 1 เมตร ก็จะทำให้พื้นที่เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงร้อยละ 40 และเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงร้อยละ 10 ถูกน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 20-30 ล้านคน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการแก้ปัญหาความยากจน เป้าหมายแห่งสหัสวรรษและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวียดนาม รวมทั้งทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรลดลงร้อยละ 3.5 ภายในปี 2050 และส่งผลกระทบต่อประชากรร้อยละ 74 ของเวียดนาม โดยเฉพาะสตรี เด็ก คนจนและคนพิการ

ความพยายามร่วมกับประชาคมโลกป้องกันและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ตั้งแต่ปี 1994 เวียดนามได้เข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCCC เป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หน้าที่ต่างๆตาม UNFCCC พิธีสารเกียวโตและข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งได้ส่งการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด หรือ  INDC เมื่อปี 2015 และปี 2020ให้แก่ UNFCCC และยังเป็นหนึ่งใน 20 ประเทศแรกที่เสร็จสิ้นการตรวจสอบและอัพเดท INDC พร้อมทั้งได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมจนถึงปี 2030 โดยให้คำมั่นว่า จะลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกที่ร้อยละ 9 หรือ เท่ากับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ 83.9 ล้านตันเมื่อเทียบกับแผนการที่วางไว้ก่อนหน้านี้ด้วยแหล่งพลังต่างๆภายในประเทศและร้อยละ  27 หรือ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ 250.8 ล้านตันภายใต้การสนับสนุนของประชาคมโลกผ่านความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคีและการลงทุนของสถานประกอบการ ล่าสุดนี้ เวียดนามได้ประกาศแผนการระดับชาติเกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศระยะปี 2021-2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2050 เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อกลุ่มเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศผ่านการเสริมสร้างศักยภาพการปรับตัวและการรับมือของเขตชุมชน เศรษฐกิจทุกภาคส่วนและระบบนิเวศ การสอดแทรกการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในยุทธศาสตร์และการวางผังการพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติ

ในทางเป็นจริง ในหลายปีมานี้ เวียดนามได้มีแผนและโครงการต่างๆเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและปัญหาน้ำทะเลหนุนในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงและพื้นที่ริมฝั่งทะเล การบังคับให้องค์การและประชาชนทุกคนที่อาศัยและทำงานในประเทศเวียดนามลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกถูกระบุในกฎหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมฉบับแก้ไขปี 2020 และเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนาประเทศแรกที่ระบุหน้าที่และคำมั่นเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในระบบกฎหมายและถือเป้าหมายดังกล่าวและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความรับผิดชอบของทั้งระบบการเมือง

การสัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อกลุ่มเสี่ยง (กระทรวงการต่างประเทศ)

ให้ความสนใจค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในแผนการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

นอกจากพยายามปฏิบัติเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแล้ว เวียดนามยังให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในกระบวนการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในนโยบายและกฎหมายของเวียดนามได้รับการจัดทำสอดคล้องกับอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เวียดนามเป็นภาคีและเวียดนามกำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสหประชาชาติในการส่งเสริมมติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสิทธิของมนุษย์ โดยเฉพาะสิทธิของเด็ก สิทธิของสตรี สิทธิของผู้สูงอายุและสิทธิของผู้อพยพในสภาวการณ์ของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ในเวลาข้างหน้า เวียดนามจะพยายามแก้ไขผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนระหว่างประเทศในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการปฏิบัติคำมั่นในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP 26 รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 อนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่เวียดนามเป็นภาคี เช่น ICCPR, ICESCR, CEDAW, CRC, CRPD เพื่อปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ รวมถึงสิทธิการเข้าร่วม การสื่อสารอย่างโปร่งใส ความรับผิดชอบ ความเท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติในความพยายามลดผลกระทบและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.