( VOVworld )- ความมั่นคงในอัฟกานิสถานได้รับความสนใจและสร้างความวิตกให้แก่ประชาคมระหว่างประเทศนับตั้งแต่กองกำลังทหารสหรัฐอเมริกาและกองกำลังสนับสนุนความมั่นคงระหว่างประเทศหรือไอเอสเอเอฟปรากฎตัวที่ประเทศเอเชียใต้นี้  และความวิตกกังวลยังคงมีอยู่ต่อไปหลังกองกำลังพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้จะถอนทหารออกไปทั้งหมดในปี ๒๐๑๔  ซึ่งสาเหตุมาจากที่การวางระเบิดและโจมตีก่อการร้ายโดยกองกำลังแตกทัพตาลีบันและเครือข่าวก่อการร้ายอัลไกด้าที่ถี่ขึ้นและมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งได้สร้างความสูยเสียต่อประชาชนอัฟกันผู้บริสุทธิ์

ัเหตุระเบิดถี่ขึ้น ณ อัฟกานิสถาน

วันที่ ๘ ตุลาคม กลุ่มนักวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตโลกหรือไอซีจีได้ประกาศรายงานพาดหัวว่า อัฟกานิสถาน ระยะทางที่ขรุขระไปสู่การถ่ายโอนอำนาจ โดยระบุว่า หลังนาโต้ถอนทัพทหารออกไปหมดในปี ๒๐๑๔ รัฐบาลอัฟกานิสถานอาจจะล่มสลาย โดยเฉพาะหากมีการทุจริตการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำหนดจะมีขึ้นในปีเดียวกัน  ก่อนหน้านั้นคือวันที่ ๗ ตุลาคม ศูนย์วิจัยระหว่างประเทศคาร์นีแกก็ได้เตือนว่า หลังปี ๒๐๑๔ ตาลีบันจะกลับมากุมอำนาจในประเทศนี้  ซึ่งความคิดเห็นเหล่านี้มาจากการวิเคราะห์สถานการณ์ในอัฟกานิสถานปัจจุบัน  ซึ่งเห็นได้ชัดจากสถานการณ์ความมั่นคง  โดยวันที่ ๘ ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดคาร์บอม ณ จังหวัดเฮลมานด์ ฟารีด อาห์เหม็ด ทางภาคกลาง ส่งผลให้มีนายทหารฝ่ายข่าวกรองของอัฟกานิสถานเสียชีวิต ๒ นายและอีก ๗ คนได้รับบาดเจ็บ  ก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดเหตุระเบิดพลีชีพที่มุ่งเป้าใส่หน่วยทหารลาดตระเวนร่วมระหว่างกองกำลังของนาโต้กับอัฟกานิสถาน ณ เมืองคอสต์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย ๑๓ คน ซึ่งประกอบด้วยทหารนาโต้ ทหารอัฟกันและชาวอัฟกันผู้บริสุทธิ์และมี ๔๐ คนได้รับบาดเจ็บ  ทั้งนี้และทั้งนั้นทำให้ยอดทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในอัฟกานิสถานรวมเป็น ๒,๐๐๐ นาย นอกจากถูกโจมตีโดยกองกำลังต่อต้านแล้ว  ทหารอเมริกันและกองกำลังพันธมิตรในอัฟกานิสถานก็ยังถูกโจมตีโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของอัฟกานิสถานเช่นกัน   ซึ่งหากหวนกลับไปช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ได้เกิดเหตุทหารและตำรวจอัฟกันโจมตีกองกำลังพันธมิตรทำให้กองกำลังสนับสนุนความมั่นคงระหว่างประเทศต้องระงับโครงการฝึกทหารเกณฑ์อัฟกัน  ข้อมูลสถิติปรากฎว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามในอัฟกานิสถานวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๐๐๑     มาจนถึงปัจจุบัน ทหารอเมริกันกว่า ๒,๐๐๐ นาย และทหารของกองกำลังพันธมิตรประมาณ ๑,๑๙๐ นายเสียชีวิต และยังส่งผลเสียหายมหาศาลให้แก่ชาวอัฟกันอีกด้วย  ส่วนข้อมูลของสหประชาชาติปรากฎว่า ตั้งแต่ปี ๒๐๐๗ ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ๒๐๑๒  ชาวอัฟกันผู้บริสุทธิ์ ๑ หมื่น ๓ พัน ๔ ร้อย ๓๑ คนเสียชีวิตจากสงคราม  หากนับตั้งแต่สหรัฐส่งทหารเข้าอัฟกานิสถานตัวเลขนี้จะขึ้นเป็นกว่า ๒ หมื่นราย  แต่สถานการณ์ที่เป็นจริงยังน่าเป็นห่วงกว่า  แม้ได้ส่งทหารกว่า ๑ แสน ๓ หมื่นนายประจำการในทั่วอัฟกานีสถานแต่นับตั้งแต่เข้ามาในอัฟกานิสถานเมื่อปี ๒๐๐๑           นาโต้ยังไม่สามารถสยบการลุกขึ้นของนักรบตาลีบันได้  ซึ่งความวิตกกังวลในอนาคตของอัฟกานิสถานนั้นเป็นผลมาจากความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ของนาโต้โดยสหรัฐเป็นผู้นำ

สถานการณ์การใช้ความรุนแรงนับวันบานปลาย

ในขณะเดียวกัน ในด้านเศรษฐกิจและสังคม อัฟกานิสถานกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาเมื่อปี ๒๐๐๙  และ ๒๐๑๐ ที่ถูกถกเถียงกัน  อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี ฮามิด คาร์ซายและคณะรัฐมนตรีอัฟกานิสถานกำลังมีแผนจัดตั้งพันธมิตรชั่วคราวเพื่อรักษาอำนาจของตนแทนการอธิบายให้ประชาชนมีความมั่นใจในระบบการเมืองเพื่อความมีเสถียรภาพอย่างถาวร  ซึ่งปัญหาตรงนี้อาจจะเป็นต้นเหตุของการต่อสู้ทางการเมืองที่อาจจะกลายเป็นการใช้ความรุนแรงหลังนาโต้ถอนทหารออกไปทั้งหมด

ทหารอเมริกีนในอัฟกานิสถาน

สำหรับชาวอัฟกันนั้น ตลอดระยะเวลากว่า ๑๐ ปีที่สหรัฐและประเทศตะวันตกเข้ามาทำการโค่นล้มระบอบตาลีบัน ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขานับวันถดถอยลง  เมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารโลกได้พยากรณ์ว่า  หลังปี ๒๐๑๔ งบประมาณประจำปีของอัฟกานิสถานจะขาดดุลประมาณ ๗ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกองทัพอัฟกานิสถานจะไม่สามารถต่อสู้ได้หากไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ และสถานการณ์อีกประการที่น่าวิตกคือ อัฟกานิสถานได้กลายเป็นศูนย์กลางผลิตและจำหน่ายยาเสพติดของโลก สงครามและการปะทะได้ทำลายเศรษฐกิจของประเทศนี้ ซึ่งอัฟกานิสถานต้องการเงินอีก ๑ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อฟื้นฟูและสร้างสรรค์ประเทศ โดยเฉพาะการขุดเจาะน้ำมันและขยายการส่งออก  แต่ดูเหมือนว่า สงครามในอัฟกานิสถานยังหาข้อยุติไม่ได้  อย่างไรก็ดี บรรดาผู้นำของนาโต้ยังไม่ยอมรับสถานการณ์ดังกล่าว แต่กลับยืนยันว่า กองทัพอัฟกานิสถานมีความเข้มแข็งพอที่จะรับมือกับการโจมตีต่างๆได้   หลายฝ่ายเห็นว่า ภาพที่สหรัฐและประเทศตะวันตกวาดขึ้นเมื่อส่งทัพทหารเข้าไปในอัฟกานิสถานเพื่อกวาดล้างกองกำลังตาลีบันและเครือข่ายอัลไกด้าด้วยเหตุผลสร้างประชาธิปไตยในประเทศนี้ยังไกลเอื้อม  แต่ภาพที่เห็นชัดคือ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอัฟกันนับวันเลวลงทั้งด้านชีวิตการครองชีพและความปลอดภัย ./.