ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียค่อยๆมีความอบอุ่นมากขึ้น

(VOVworld) –  นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประเทศที่มีประชากรมากอันดับ๒ของโลกนี้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทั้งสองฝ่ายจะมองข้ามความขัดแย้งเพื่อร่วมกันสร้างความอบอุ่นให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้หรือไม่เป็นสิ่งที่น่าจับตามองในการเยือนครั้งนี้

(VOVworld)–นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประเทศที่มีประชากรมากอันดับ๒ของโลกนี้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ วันที่๓๑กรกฎาคม นายจอห์น แคร์รี่ และนางสุษมา สวราชรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียได้ร่วมเป็นประธานการสนทนาทางยุทธศาสตร์สหรัฐ– อินเดีย ครั้งที่๕เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ประสบมรสุมในเวลาที่ผ่านมาให้ดีขึ้นแต่ทั้งสองฝ่ายจะมองข้ามความขัดแย้งเพื่อร่วมกันสร้างความอบอุ่นให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้หรือไม่เป็นสิ่งที่น่าจับตามองในการเยือนครั้งนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียค่อยๆมีความอบอุ่นมากขึ้น - ảnh 1
นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ(Photo:Reuters )

เมื่อ๔ปีก่อน นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเคยแถลงว่า ความ สัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับสหรัฐอาจกลายเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่มั่นคงของศตวรรษที่๒๑ แต่จนถึงปัจจุบัน ความคาดหวังนี้ยังไม่กลายเป็นความจริงและยังมีหลายปัญหาที่ทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีไม่สามารถพัฒนาได้ ดังนั้น ในการเยือนอินเดียครั้งนี้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รี่   สหรัฐตั้งความหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะประสบความก้าวหน้าที่มีความหมายในโครงการร่วมมือด้านกลาโหม ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้เครือบริษัทต่างๆของสหรัฐเข้าร่วมด้านพลังงานนิวเคลียร์และได้รับคำมั่นสัญญาจากอินเดียในการแบ่งผลประโยชน์ในเอเชีย

มุ่งสู่ผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์

ก่อนการเยือน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์น แคร์รี่ได้ยืนยันว่า ความสัมพันธ์มิตรภาพที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับอินเดียเป็นหนึ่งในปัญหาที่สหรัฐให้ความนใจเป็นอันดับต้นๆในระยะยาว และเห็นว่า บัดนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อผลักดันศักยภาพความสัมพันธ์หุ้นส่วนสหรัฐ–อินเดียเพราะทั้งสองประเทศต่างมีความตั้งใจที่จะร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่เมื่ออินเดียมีรัฐบาลชุดใหม่พร้อมกับความสนใจและความสามารถใหม่ๆ และนายจอห์น แคร์รี่ยังแสดงการสนับสนุนต่อวิสัยทัศน์และแผนพัฒนาของนายกรัฐมนตรีนเรนดรา โมดีอย่างเต็มที่ ส่วนพลเรือเอกซามูเอล ลอคเลียร์ ผู้บัญชาการทหารสหรัฐประจำภาคพื้นแปซิฟิกเผยว่า วอชิงตันมีความประสงค์จะขยายความสัมพันธ์ทางทหารกับนิวเดลีและหวังว่า นิวเดลีจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งกำลังมีการพิพาททางดินแดนกับจีน

ในด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบัน อินเดียและสหรัฐมีมูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๑แสนล้านเหรียญสหรัฐและทั้งสองฝ่ายต่างหวังว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น๕เท่าในอนาคต ส่วนรัฐบาลอินเดียหวังว่า จะดึงดูดการลงทุนจากสหรัฐมากขึ้น โดยเฉพาะ ในด้านประกันภัย และกลาโหม  ผ่านการเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอในด้านการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นเป็นร้อยละ๔๙ เมื่อเทียบกับปัจจุบันคือร้อยละ๒๖ ทั้งสองประเทศได้กำหนดก้าวเดินต่อไปในยุทธศาสตร์ร่วมกันผลิตและร่วมกันพัฒนาซึ่งบนพื้นฐานนั้น ในระเบียบวาระการประชุมของการสนทนายุทธศาสตร์ครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงความร่วมมือในการผลิตจรวดแจเวอลินรุ่นใหม่และโครงการพัฒนาเครื่องบินไร้คนขับ ส่วนอินเดียมีความประสงค์จะร่วมมือกับสหรัฐมากขึ้นในการผลิตก๊าซจากหินดินดานส่วนสหรัฐมีความประสงค์จะขยายการผลิตและการลงทุนในอินเดีย

กำแพงกีดกันไม่น้อย

แม้ว่าทั้งสองประเทศมีเงื่อนไขมากมายเพื่อกระเถิบเข้าใกล้กันยิ่งขึ้นแต่ก็ต้องยอมรับว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคียังไม่มีความคืบหน้าที่สวยงามมากนักซึ่งก่อนอื่นต้องกล่าวถึงการที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่นเรนดรา โมดีเคยถูกห้ามเข้าประเทศสหรัฐเป็นเวลา๙ปีเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามเหตุจลาจลที่รัฐคุชราตในสมัยที่เขาเป็นผู้ว่าการจนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า๑พันคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม หลังจากที่ขึ้นบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรีนเรนดรา โมดีได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดตั้งธนาคารของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วหรือบริกส์ ที่ประกอบด้วยจีน รัสเซีย อินเดีย บราซิล และแอฟริกาใต้เพื่อหลุดพ้นจากอิทธิพลของสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ถูกถือว่า ถูกสหรัฐและยุโรปครอบงำ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็ถูกปกคลุมด้วยเงามืดหลังจากที่วอชิงตันจับกุมนางเทพยานี โคบรากราเตรองกงสุลใหญ่อินเดียประจำนิวยอร์กในข้อหาแจ้งข้อมูลเท็จในการขอวีซาสหรัฐและทำร้ายคนรับใช้เมื่อปีกลาย นอกจากนี้ยังมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการคุ้มครองการค้า ลิขสิทธิทางปัญญา และการปฏิรูปการถือครองกรรมสิทธิในสถานประกอบการด้านกลาโหมของอินเดีย

ต่อจากการเยือนอินเดียของรัฐมนตรีต่างประเทศจอห์น แคร์รี่  ในต้นเดือนสิงหาคม นายชัค เฮเกลรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐจะเดินทางไปเยือนอินเดียและตามแผนการ นายกรัฐมนตรีอินเดียคนใหม่นเรนดรา โมดีจะเดินทางไปเยือนสหรัฐในเดือนกันยายนตามคำเชิญของนาย บารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งกิจกรรมการทูตนี้แสดงให้เห็นถึงความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ แต่ถึงกระนั้น การผลักดันให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอินเดียเกิดประสิทธิภาพก็เป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายนัก./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด