ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน การลงทุนเพื่ออนาคต
(VOVworld)- รองประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง กำลังอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการเป็นเวลา5วันเพื่อมุ่งผลักดัน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงความเชื่อถือซึ่งกันและกันและส่งเสริมความเข้าใจกันระหว่างผู้นำจีน -สหรัฐตลอดจนช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งที่ยังคั่งค้างอยู่ระหว่างสองประเทศมหา อำนาจของโลก
(VOVworld)- รองประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง กำลังอยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการเป็นเวลา5วันเพื่อมุ่งผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ปรับปรุงความเชื่อถือซึ่งกันและกันและส่งเสริมความเข้าใจกันระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐตลอดจนช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งที่ยังคั่งค้างอยู่ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจของโลก
การเยือนสหรัฐครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพื่อตอบแทนการเยือนจีนเมื่อปลายปี2011ของรองประธานาธิบดี โจไบเดน เท่านั้นหากยังมีความหมายอื่นๆอีกหลายประการ โดยก่อนอื่นคือได้ประจวบครบรอบ40ปีประธานาธิบดีสหรัฐนิกสันได้เดินทางเยือนประเทศจีนโดยไม่มีการเปิดเผยและได้มีการออกแถลงการณ์เซียงไฮ้เพื่อเปิดช่องทางการสนทนาอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และใน40ปีให้หลัง การที่นาย สีจิ้นผิง ซึ่งเป็นบุคคลที่คาดว่าจะกลายเป็นผู้นำสูงสุดคนใหม่ของจีนได้เดินทางเยือนสหรัฐนั้นก็ได้ช่วยเพิ่มความคึกคักให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายโดยเฉพาะหลังจากที่เกิดความขัดแย้งในหลายปัญหาในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มจากแถลงการณ์ของสหรัฐเกี่ยวกับศักราชแห่งแปซีฟิก ตามด้วยความขัดแย้งเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย อิหร่านและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี โดยเฉพาะการถกเถียงเรื่องความสมดุลย์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและปัญหาค่าเงินหยวน และอีกหนึ่งเป้าหมายของการเยือนสหรัฐครั้งนี้คือจะช่วยให้ทั้งสองประเทศมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เป็นจริงของกันมากขึ้นในสภาวการณ์ที่ทั้งจีนและสหรัฐกำลังจะเข้าสู่ระยะแห่งการถ่ายโอนอำนาจด้วยการจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศครั้งสำคัญในปีนี้
ที่สหรัฐ นาย สีจิ้นผิง ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติตามรัฐพิธีที่ไม่เคยมีการจัดพิธีต้อนรับในลักษณะนี้ให้แก่รองผู้นำประเทศอื่นๆมาก่อนคือการยิงสลุต19นัดด้วยปืนใหญ่ ซึ่งบรรดาผู้สังเกตุการณ์ได้แสดงความเห็นว่า สิ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่าวอชิงตันให้ความสำคัญต่อการเยือนของรองประธานประเทศจีนรวมทั้งความสัมพันธ์กับปักกิ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ดีนอกจากการจับมือกันและการยืนยันถึงการธำรงความสัมพันธ์กับจีนในขณะนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อสหรัฐแล้ว บรรดาผู้นำสหรัฐยังพูดถึงปัญหาที่เป็นความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานระหว่างสองฝ่าย โดยในการพบปะกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีสหรัฐบารักโอบามาก็ได้เตือนความใสใจว่าการพัฒนาอย่างเข้มแข็งของจีนใน2ทศวรรษที่ผ่านมาต้องควบคู่กับปฏิบัติการที่มีความรับผิดชอบ นั่นคือปักกิ่งต้องธำรงกระแสการค้าที่สมดุลย์ไม่เพียงแต่กับสหรัฐเท่านั้นหากรวมถึงประเทศต่างๆในโลกด้วย ในขณะที่รองประธานาธิบดี โจไบเดน ก็ได้ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างจีน-สหรัฐจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ทวิภาคีอย่างแท้จริงถ้าหากทั้งสองฝ่ายมีการแข่งขันอย่างยุติธรรม เพราะความสัมพันธ์ทางการค้าเป็นเรื่องที่วอชิงตันให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆเนื่องจากเป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งในปัญหาด้านการเมืองภายในสหรัฐ โดยผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันยังตำหนิติติงนายโอบามาว่าไม่มีความแข็งกร้าวพอที่จะแก้ไขปัญหาค่าเงินหยวนของจีน ซึ่งตามความเห็นของสหรัฐ จีนกำลังกำหนดค่าเงินหยวนให้อ่อนกว่าเงินเหรียญสหรัฐและกำลังปฏิบัตินโยบายต่างๆที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อสถานประกอบการสหรัฐและวอชิงตันก็เคยเร่งรัดให้จีนต้องทำการแก้ไขเพื่อลดการเสียเปรียบดุลการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ได้เพิ่มขึ้นถึง2แสน9หมื่น5พันล้านเหรียญสหรัฐ บรรดาผู้นำสหรัฐยังแสดงความผิดหวังเมื่อจีนไม่เห็นชอบต่อร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาซีเรียและไม่ขานรับคำเรียกร้องของวอชิงตันในการคว่ำบาตรอิหร่าน
สำหรับนาย สีจิ้นผิง เองก็ได้แสดงความเป็นห่วงต่อแนวทางนโยบายใหม่ๆของสหรัฐ เช่นเมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีบารักโอบามาได้ประกาศยุทธศาสตร์การทหารใหม่ที่เน้นส่งเสริมการประจำการของกองทัพในเอเซียแปซีฟิกในขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเกิดข้อพิพาทต่างๆ ซึ่งปักกิ่งมีความสงสัยต่อนโยบายมุ่งสู่เอเซียและแผนการขยายความร่วมมือด้านการทหารของสหรัฐที่มีต่อฟิลิปปีนส์และออสเตรเลีย ในขณะที่นายสีจิ้นผิงเดินทางเยือนสหรัฐ หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ลงบทบรรณาธิการที่ระบุว่า ปักกิ่งควรให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของประเทศตนเหนือกว่าทุกอย่าง ถึงแม้ว่าสหรัฐและสหภาพยุโรปจะเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของจีนแต่ก็มิใช่ว่าจะต้องสละผลประโยชน์ของตนเพื่อสร้างความพอใจให้แก่ฝ่ายตะวันตก ดังนั้นในการเยือนนี้นายสีจิ้นผิงก็ได้ยืนยันจุดยืนของจีนเสมอและแสดงความเห็นว่าจีนปรารถนาที่จะสร้างสรรค์ความร่วมมือบนพื้นฐานการให้ความเคารพซึ่งกันและกันและเอื้อประโยชน์แก่กันกับวอชิงตัน และเป้าหมายสำคัญของการเยือนสหรัฐครั้งนี้คือเพื่อปฏิบัติข้อตกลงที่สำคัญต่างๆที่ผู้นำสองประเทศได้ลงนามกันแล้ว
ประชามติได้ประเมินว่า ยากที่จะมีความเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งในการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างสองประเทศหลังการเยือนจีนของรองประธานประเทศจีนสีจิ้นผิง เพราะเป็นการเยือนในลักษณะศึกษาและทำความรู้จักกันเท่านั้น จึงไม่อาจหวังในผลงานที่เป็นรูปธรรมได้เนื่องจากทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความพยายามในระยะยาวจากทั้งสองฝ่ายในอนาคต แต่ถึงกระนั้นประชามติก็ยังมีความหวังว่าการเยือนครั้งนี้จะช่วยวางพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์เส้นทางแห่งความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับจีนในอนาคต./.
Huyen-VOV5