ความสัมพันธ์เวียดนาม - กัมพูชา: สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสามัคคี

(VOVWORLD) - วันที่ 24 มิถุนายน เมื่อ 55 ปีก่อน เวียดนาม-กัมพูชาได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในช่วงนั้น ประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่า นี่เป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี เป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการรักษาสันติภาพในอินโดจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศเป็นการแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่ใกล้ชิดและความสามัคคีในการต่อสู้ ในตลอด 55 ปีที่ผ่านมา มิตรภาพนั้นได้พัฒนามากขึ้นและนำประโยชน์มากมายมาสู่ทั้งสองประชาชาติ
ความสัมพันธ์เวียดนาม - กัมพูชา: สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสามัคคี - ảnh 1นาย Chay Navuth เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเวียดนาม

เวียดนามและกัมพูชาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนปี 1967 ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นจากความต้องการและเป้าหมายร่วมกันในภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติของทั้งสองประเทศ 55 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญในการพัฒนา ความสัมพันธ์เวียดนาม-กัมพูชา ซึ่งได้สร้างนิมิตหมายผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ยากที่จะลืม

ความร่วมมือนำไปสู่ผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม

หลังจากสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เวียดนามและกัมพูชาได้อยู่เคียงข้างกันและได้รับชัยชนะมากมายทั้งในแนวรบทางการทหารและการทูต และได้รับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกันในฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ความสามัคคีและการช่วยเหลือจุนเจือกันระหว่างสองประชาชาติได้สะท้อนอย่างชัดเจนและลึกซึ้งมากขึ้นเมื่อทั้งสองประเทศอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่และร่วมมือกันโค่นล้มระบอบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรแดงเมื่อวันที่ 7 มกราคมปี 1979 ช่วยให้ประเทศและประชาชนกัมพูชารอดพ้นจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในเวลาต่อมา เวียดนามได้ส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไปช่วยเหลือกัมพูชาในการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ ปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่รุ่งโรจน์ บริสุทธิ์ และหายากในประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ด้วยการกำหนดแนวทางผลักดันและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศบนเจตนารมณ์ “เพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพที่มีมาช้านาน ร่วมมือในทุกด้าน ยั่งยืนและยาวนาน” เนื่องในโอกาสที่เลขาธิการใหญ่พรรคฯ นง ดึ๊ก แหม่ง เยือนกัมพูชาเมื่อเดือนมีนาคมปี 2005 ความสัมพันธ์ทวิภาคีก็ได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาในทุกด้าน นำผลประโยนช์ที่เป็นรูปธรรมมาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศ ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้เข้าสู่ระยะความร่วมมือในทุกด้าน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน เข้าสู่ส่วนลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง ทั้งสองฝ่ายได้ธำรงการพบปะหารือในระดับสูงและกลไกความร่วมมือทวิภาคีในทุกช่องทาง แม้กระทั่งในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างซับซ้อนในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลและประชาชนของทั้งสองประเทศได้ประสานงานและให้การช่วยเหลือกันอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด

ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นหลักการที่จะไม่ปล่อยให้ฝ่ายที่เป็นอริใช้ดินแดนของตนเพื่อสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของอีกฝ่ายหนึ่ง บนพื้นฐานของสนธิสัญญาและข้อตกลงของผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางการปกครองและท้องถิ่นในเขตชายแดนของทั้งสองประเทศได้พยายามสร้างสรรค์แนวชายแดนแห่งสันติภาพและมิตรภาพ ร่วมมือและพัฒนา เมื่อปี 2019 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในเอกสารทางนิตินัยเพื่อรับรองผลการปักปันและปักหลักพรมแดนในพื้นที่ประมาณร้อยละ 84 และขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงทำการเจรจาอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขส่วนงานที่เหลืออีกร้อยละ 16

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนพัฒนาอย่างเข้มแข็งและบรรลุผลงานที่น่ายินดี โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนในปี 2021 บรรลุ 9.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 79.1  เมื่อเทียบกับปี 2020 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2022 บรรลุ 5.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 จนถึงปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนที่กำลังดำเนินการในกัมพูชา 188 โครงการ รวมยอดทุนจดทะเบียน 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มากเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียนและติดกลุ่ม 5 ประเทศที่มีเงินลงทุนในกัมพูชามากที่สุด นาย Chay Navuth เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำเวียดนาม ประเมินว่า

“ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับกัมพูชามีความใกล้ชิดมากขึ้น ถึงแม้ว่ากลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริจะพยายามทำลายความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนี้ก็ตาม เราตระหนักเสมอว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตและความสามัคคีที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศยังคงมีความลึกซึ้ง ในทุกระยะ เราได้ร่วมมือและสามัคคีกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ

ความสัมพันธ์เวียดนาม - กัมพูชา: สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสามัคคี - ảnh 2รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เลมิงค้าย กล่าวปราศรัยในโอกาสฉลองครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-กัมพูชาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย 

มุ่งสู่เป้าหมายใหม่

เวียดนามและกัมพูชาจะยังคงพัฒนาความร่วมมือที่ชะงักงันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป เมื่อเร็วๆนี้ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เห็นพ้องกันที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ทั้งสองประเทศจะพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ มิตรภาพและความร่วมมือ ค้ำประกันกิจกรรมการพบปะสังสรรค์ การแลกเปลี่ยนการค้าของประชาชนในพื้นที่เพื่อสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อไป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันคือสามัคคีเพื่อร่วมกันพัฒนา

ทั้งเวียดนามและกัมพูชาเป็นสมาชิกของอาเซียน ในปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่กัมพูชาดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ทั้งสองประเทศได้มีส่วนร่วมและประสานงานในทุกด้านเพื่อร่วมกันรับมือความท้าทายต่างๆ ในการกล่าวปราศรัยในโอกาสฉลองครบรอบ 55 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-กัมพูชาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เลมิงค้าย ได้ยืนยันว่า

“ถึงแม้สถานการณ์ในโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่เวียดนามยังคงยึดมั่น ให้ความสำคัญและจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อร่วมกับกัมพูชา รักษาและทำนุบำรุงความสัมพันธ์เวียดนาม - กัมพูชา ด้วยความเชื่อมั่นที่แน่วแน่และการพัฒนาที่ดีงามของความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ สองประชาชาติ เรามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อรักษาและทำนุบำรุงความสามัคคีมิตรภาพเวียดนาม-กัมพูชา”

ในกว่า 55 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความท้าทายและความผันผวนทางประวัติศาสตร์ แต่ความสามัคคีมิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในทุกด้านที่ดีงามระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์และสมบัติอันล้ำค่าที่ผู้นำและประชาชนของทั้งสองประเทศกำลังรักษาและส่งเสริมให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด