(VOVworld) – ชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อ๖๐ปีก่อนได้ยุติสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสผู้รุกรานที่ยาวนานมาเป็นเวลา๙ปีของกองทัพและประชาชนเวียดนามซึ่งไม่เพียงแต่เป็นหลักหมายทองอันรุ่งโรจน์ในประวัติศาสตร์การสร้างและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของประชาชาติเวียดนามเท่านั้นหากยังเป็นปาติหาริย์ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ในศตวรรษที่๒๐และสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนที่ฝักใฝ่สันติภาพในโลกต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคม ช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติ
(VOVworld) – ชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อ๖๐ปีก่อนได้ยุติสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสผู้รุกรานที่ยาวนานมาเป็นเวลา๙ปีของกองทัพและประชาชนเวียดนามซึ่งไม่เพียงแต่เป็นหลักหมายทองอันรุ่งโรจน์ในประวัติศาสตร์การสร้างและพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของประชาชาติเวียดนามเท่านั้นหากยังเป็นปาติหาริย์ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ในศตวรรษที่๒๐และสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้ประชาชนที่ฝักใฝ่สันติภาพในโลกต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคม ช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพมาให้แก่ประชาชาติ
|
ทหารเวียดมินห์ปักธงบนป้อมบัญชาการแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ณ เดียนเบียนฟู(Photo:phapluat ) |
เมื่อเอ่ยถึงชัยชนะเดียนเบียนฟูทุกครั้ง บรรดานักวิจัย นักประวัติศาสตร์ และนักการทหารทั้งในและต่างประเทศล้วนย้ำถึงแนวทางปฏิวัติที่ถูกต้อง ความร่วมแรงร่วมใจสู้รบของทั้งประชาชาติและศิลปะการทหารที่ปรีชาสามารถของบรรดานายพลเวียดนาม
การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อชัยชนะเดียนเบียนฟู
นับตั้งแต่เริ่มเปิดสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสผู้รุกราน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ได้วางแนวทางทำสงครามและแนวทางการทหารที่เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองและมีความคิดสร้างสรรค์ แนวทางนั่นคือ ทำการปฏิวัติประชาชาติประชาธิปไตยและประชาชนด้วยสงครามปฏิวัติต่อไปโดยมีเป้าหมาย“เอกราชของชาติ ชาวนามีนาและก้าวไปสู่สังคมนิยม” พรรคคอมมิวนิสต์และประธานโฮจิมินห์ก็เลือกแนวทางทำสงครามที่มีประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมในทุกด้าน ในระยะยาวและพึ่งพาตนเองเป็นสำคัญจึงสามารถส่งเสริมให้กำลังใจและสร้างความสามัคคีในประชาชนทุกหมู่เหล่าเพื่อต่อต้านศัตรูด้วยพลังที่เข้มแข็งของทั้งประชาชาติ โดยอาศัยตนเองเป็นสำคัญ พร้อมทั้งแสวงหาการสนับสนุนจากประชาชนที่ฝักใฝ่สันติภาพในโลก จากวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามก็ตระหนักได้ว่า ต้องทำให้แผนการนาวาร์ประสบความล้มเหลวผ่านการเปิดยุทธนาการต่างๆในทั่วสมรภูมิอินโดจีนในเชิงรุก ทำให้ศัตรูไม่สามารถรวมกำลังกันได้ โดยเฉพาะ กองกำลังเคลื่อนที่เชิงยุทธศาสตร์ในสมรภูมิต่างๆและทำให้กองทัพฝรั่งเศสต้องเผชิญกับการปักใจรบเชิงยุทธศาสตร์ที่เดียนเบียนฟู รองศาสตราจารย์ ดร. เหงวียนจ่องฟุก สถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์กล่าวว่า“บทบาทการนำของพรรคและประธานโฮจิมินห์แสดงให้เห็นจากการทำให้ศัตรูไม่สามารถรวมกำลังกันได้ เมื่อนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสรวบรวมกองกำลังเคลื่อนที่ในเขตที่ราบทางภาคเหนือ กองกำลังของเราก็เข้าตีกองทัพของศัตรูในหลายทิศทาง เช่นตะวันตกเฉียงเหนือ ประเทศลาวตอนบนและตอนล่างซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของพรรคและประธานโฮจิมินห์”
|
นายPierre Bonny และภริยา |
ชัยชนะที่มาจากพลังที่เข้มแข็งของมหาสามัคคีชนในชาติ
หนึ่งในปัจจัยที่ชี้ขาดชัยชนะของยุทธนาการเดียนเบียนฟูคือ การส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของมหาสามัคคีชนในชาติโดยมีประชาชนและเยาวชนอาสาสมัคร๖๒,๐๐๐คนได้เข้าร่วมการก่อสร้างและซ่อมแซมถนนนับร้อยกิโลเมตร ท่าเรือและสะพานจำนวนมาก ลำเลียงเสบียงอาหารกว่า๒๕,๐๐๐ตันและอาวุธยุทโธปกรณ์นับพันตันไปยังแนวรบ นายPierre Bonny ทหารผ่านศึกฝรั่งเศสที่ได้เข้าร่วมยุทธนาการเดียนเบียนฟูเล่าว่า“ตอนผมถูกจับตัวเป็นเชลยศึก ผมเห็นขบวนรถจักรยานลำเลียงเสบียงอาหารที่ยาวเหยียดไม่มีที่สิ้นสุดไปยังเดียนเบียนฟูไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพดและอาวุธเบา พวกเขาไม่ได้นั่งบนรถจักรยานแต่ใช้เป็นยานพาหนะบรรทุกสิ่งของ นอกจากนี้ยังมีขบวนหาบเสบียงอาหารด้วยซึ่งได้ช่วยเลี้ยงทหารกว่า๓หมื่นนายในสมรภูมิเดียนเบียนฟู ชัยชนะเดียนเบียนฟูเป็นชัยชนะของทั้งประชาชาติเวียดนามที่มีประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมมิใช่แค่กองทัพเท่านั้น”
ศาสตราจารย์สวีลิงผิง ผู้เชี่ยวชาญที่วิจัยเกี่ยวกับเวียดนามและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งสถาบันสังคมศาสตร์จีนกล่าวว่า “ประชาชนเวียดนาม ประชาชาติเวียดนามเป็นประชาชาติที่มีความขยันหมั่นเพียร มีความทรหดอดทน ไม่ยอมย่อท้อต่อความยากลำบาก ผมเห็นว่า ความทรหดอดทนของประชาชาติเวียดนามเป็นเหตุผลที่นำไปสู่ชัยชนะเดียนเบียนฟู”
|
สมรภูมิเดียนเบียนฟูเมื่อ๖๐ปีก่อนปัจจุบันได้รับการปกคลุมด้วยสีเขียว |
ศิลปะแห่งสงครามประชาชนเวียดนาม
จุดสุดยอดของศิลปะการทหารเวียดนามในชัยชนะเดียนเบียนฟูได้แสดงให้เห็นใน๓ด้านของการชี้นำคือ ยุทธศาสตร์การทหาร ศิลปะยุทธนาการและยุทธวิธี จากแนวทางรบเร็วเพื่อชนะเร็วในตอนแรก พรรคสาขาและกองบัญชาการยุทธนาการได้ตัดสินใจเปลี่ยนมาเป็นการรบต้องชนะและเลื่อนเวลาเปิดการโจมตีเพื่อจัดกองกำลังใหม่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตัดสินใจอย่างแน่วแน่และความคิดสร้างสรรค์ของพรรคคอมมิวนิสต์และประธานโฮจิมินห์ โดยเฉพาะ พรรคสาขาและกองบัญชาการยุทธนาการ ระบบหลุมเพลาะและอุโมงใต้ดินนับหมื่นแห่งเพื่อเป็นที่นอน สถานปฐมพยาบาลและคลังแสงได้ช่วยให้ทหารเวียดนามสามารถปิดล้อมฐานที่มั่นเดียนเบียนฟู โดยเฉพาะ ที่มั่นต่อต้านหลักแต่ละแห่ง นอกจากก่อสร้างสนามรบของทหารราบแล้ว กองทัพเวียดนามยังขัดขวางเส้นสนับสนุน(ทางอากาศ)ของศัตรู นายPierre Bonny ทหารผ่านศึกฝรั่งเศสกล่าวว่า“บรรดาผู้บังคับบัญชาของฝรั่งเศสมีความผิดพลาดนั่นคือ การประเมินศักยภาพการสนับสนุนของเครื่องบินผิดไปเพราะเครื่องบินของฝรั่งเศสต้องลงจอดอย่างเร่งด่วนเนื่องจากถูกโจมตีจากปืนต่อสู้อากาศยานของเวียดมินห์ ทหารฝรั่งเศสในฐานที่มั่นเดียนเบียนฟูจึงประสบความลำบากยากเข็ญนานัปการเนื่องจากต้องเผชิญกับความกล้าหาญของทหารเวียดนามและความผิดพลาดในการบัญชาการของบรรดานายพล ดังนั้น เวียดนามได้ประสบชัยชนะ”
ฝ่ายเวียดนามได้ฉวยโอกาสที่ได้เปรียบคือ ฝ่ายศัตรูมีสัญญาณวิ่งหนี ทำการโจมตีกองบัญชาการในหลายด้านและจับเป็นนายพลคริสเตียน เดอ คาสตรีส์และเข้ายึดกองบัญชาการฐานที่มั่นในวันที่๗พฤษภาคมยุติการทำสงครามต่อต้านฝรั่งเศสที่ยาวนานมาเป็นเวลา๙ปี พลโท อานาโตลี คิวเฟแนน หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญทหารสหภาพโซเวียตในสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติกล่าวว่า“เมื่อกล่าวถึงเวียดนาม ต้องกล่าวถึงชัยชนะเดียนเบียนฟูเมื่อวันที่๗พฤษภาคมปี๑๙๕๔ กองทัพฝรั่งเศสยอมจำนนโดยปราศจากเงื่อนไข อาจกล่าวได้ว่า นี่คือชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของสงครามจรยุทธพร้อมยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ที่ปรีชาสามารถของกองทัพประชาชนเวียดนามภายใต้การนำของประธานโฮจิมินห์และพลเอกหวอเงวียนยาฟผู้บัญชาการทหารสูงสุด”
๖๐ปีได้ผ่านพ้นไปแต่ชัยชนะเดียนเบียนฟูของทหารและประชาชนเวียดนามยังคงเป็นชัยชนะหนึ่งไม่มีสองในประวัติศาสตร์ทหารโลกซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็งในความสามัคคีประชาชน จุดรวมของความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และสติปัญญาของประชาชาติเวียดนาม./.