(VOVworld)-ณ ช่วงเวลานี้เมื่อ40ปีก่อน พลเอกหวอเหงวียนย๊าป ผู้บัญชาการใหญ่กองทัพเวียดนามได้ส่งโทรเลขด่วนถึงสมรภูมิภาคใต้โดยสั่งให้ทุกหน่วยทหารต้องปฏิบัติยุทธนาการโจมตีให้กล้าและรวดเร็วยิ่งขึ้นในทุกนาทีเพื่อบุกเข้าปลดปล่อยภาคใต้ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่เพื่อรบชนะในที่สุด  ซึ่งนับเป็นคำสั่งที่มีความหมายแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญในช่วงก่อนเปิดยุทธนาการโฮจิมินห์เพื่อปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์ รวมประเทศเป็นเอกภาพ

รถถังของกองทัพปลดปล่อยบุกเข้าทำเนียบเอกราชในวันที่30เมษายน

โทรเลขเขียนเมื่อวันที่7เมษายนปี1975ที่ระบุว่า ให้กล้าและรวดเร็วยิ่งขึ้นในทุกนาทีเพื่อบุกเข้าปลดปล่อยภาคใต้ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่เพื่อรบชนะในที่สุดและต้องเผยแพร่คำสั่งนี้ให้ถึงสมาชิกพรรคและทหารทุกนาย ถูกประกาศจากกองบัญชาการยุทธนาการที่บ้านเลขที่ ดี67 ในเขตกำแพงเมืองเก่ากรุงฮานอยและได้ส่งถึงทุกหน่วยทหารที่เข้าร่วมกระบวนการปลดปล่อยภาคใต้ทันที นายเหงวียนบ๊าลิว ทหารของหน่วยสื่อสารกองพลน้อย25ผู้ที่รับหน้าที่ส่งโทรเลขนี้ได้เล่าว่า เช้าตรู่วันที่7เมษายนปี1975 เมื่อเข้าเวรเขาก็ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยว่าต้องพยายามรักษาการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง รับส่งคำสั่งให้รวดเร็วและถูกต้อง ดังนั้นทุกขั้นตอนในการส่งรหัสโทรเลขได้รับการปฏิบัติอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง15นาทีก็เสร็จ แต่จนถึงหลังวันปลดปล่อยตัวเขาเองถึงทราบทีหลังว่าตนเองคือผู้ส่งโทรเลขแห่งประวัติศาสตร์ฉบับนั้น“ตอนนั้นเรารู้แต่ว่าต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคำสั่งถึงสมรภูมิอย่างรวดเร็ว โอกาสเพื่อปลดปล่อยภาคใต้มาถึงแล้วดังนั้นทุกคำสั่งจึงมีความหมายสำคัญ แต่หลังจากที่ทราบว่าตัวเองคือคนส่งโทรเลขของท่านพลเอกหวอเงวียนย๊าป ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง”

สำหรับพลโทควดยวีเตี๊ยน อดีตหัวหน้าหน่วยสู้รบของกองทัพที่3ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังสำคัญในการเข้าปลดปล่อยภาคใต้ในตอนนั้น โทรเลขฉบับสำคัญที่เขาได้รับคือคำสั่งเปิดการโจมตีอย่างรวดเร็วเพื่อใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ทันทีและพวกเราก็เร่งเคลื่อนพลมุ่งหน้าไปยังนครโฮจิมินห์“โทรเลขฉบับนี้ได้สื่อความหมายว่า กระบวนการต่อสู้กับสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติของประชาชนเวียดนามได้มาถึงขั้นสุดท้ายที่ต้องเร่งให้รวดเร็วมากขึ้นเพื่อปลดปล่อยภาคใต้ ดังนั้นทุกหน่วยทหารต้องระดมพลังอย่างเต็มที่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสมรภูมิให้เร็วที่สุด”

ส่วนพันเอกเหงวียนวันหิว อดีตนายแพทย์กองทัพเตยเงวียนเผยว่า โทรเลขของพลเอกหวอเงวียนย๊าปได้สร้างขวัญกำลังใจและพลังอันเข้มแข็งให้แก่ทหารในสมรภูมิ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสัญญาณเปิดการโจมตีเพื่อให้ทหารจากทุกทิศทางเคลื่อนพลอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังศูนย์บัญชาการของศัตรูและความรู้สึกของเขาในวันนี้ก็ยังคงเหมือนที่เขาเพิ่งได้รับคำสั่งนั้นใหม่ๆ“ผมรู้สึกว่าบรรยากาศตอนนั้นฮึกเหิมมากเพราะเราเพิ่งรบชนะที่บวนเมถวดและทหารทุกนายก็พร้อมที่จะเคลื่อนพลให้รวดเร็วเพื่อรับหน้าที่ต่อไป เราเคลื่อนพลจากบวนมาถวดไปที่ตัวเมืองและปลดปล่อยสนามบินที่ฟานรางก่อนที่มุ่งหน้าไปยังนครโฮจิมินห์”

ในสภาวการณ์นั้น โทรเลขสั่งให้โจมตีอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลปนั้นยังเป็นคำสั่งที่สำคัญในการปฏิบัติแผนการสู้รบที่อาศัยโอกาสอย่างเต็มที่ ซึ่งรองศ.ดร.เจิ่นหงอกลอง อดีตรองหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามวิเคราะห์ว่า หลังยุทธนาการเตยเงวียนโอกาสถึงจะเปิดกว้างให้เราเปิดยุทธนาการโจมตียุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ โดยจากเป้าหมายในตอนแรกคือปลดปล่อยภาคใต้ภายในเวลา2ปีตั้งแต่1975-1976 เราสามารถย่นเวลาให้เหลือเพียง1ปีเท่านั้น  โดยเฉพาะหลังชัยชนะของยุทธนาการจิเทียน-เว้-ดานัง ที่ทำให้กองกำลังของฝ่ายตรงข้ามตกเข้าสู่ภาวะแตกแยกโอกาสเพื่อการปลดปล่อยภาคใต้ถึงจะปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งทำให้กรมการเมืองได้มีการตัดสินใจย่นระยะเวลาการปฏิบัติยุทธนาการให้สั้นลงคือต้องสำเร็จก่อนฤดูฝนปี1975คือภายในเดือนเมษายน“ถ้าเราไม่รู้จักใช้โอกาสให้ทันท่วงทีกองกำลังของทางการหุ้นไซ่ง่อนอาจจะมีเวลาฟื้นตัวเพื่อปรับปรุงแผนรับมือยุทธศาสตร์ สงครามก็อาจจะยืดเยื้อไปอีกนาน นอกจากนั้นสงครามกู้ชาติของเรานั้นได้รับการสนับสนุนจากมิตรประเทศอย่างเต็มที่ดังนั้นอิทธิพลของประเทศใหญ่ๆต่อสงครามในเวียดนามก็ถือว่าสำคัญยิ่งดังนั้นหากเราไม่รู้จักใช้โอกาสก็จะต้องเผชิญอุปสรรคอีกมากมายในกระบวนการปลดปล่อยภาคใต้ภายในเดือนเมษายนตามเป้าหมาย”

คำสั่งให้โจมตีอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลปที่พลเอกหวอเงวียนย๊าปได้ส่งถึงทหารทุกหน่วยเปรียบเสมือนเป็นการสร้างหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งประวัติศาสตร์การต่อสู้ เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการวิเคราะห์เกาะติดสถานการณ์พร้อมวิสัยทัศน์แห่งยุทธศาสตร์ของกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามรวมทั้งกองทัพส่วนกลางเพื่อเปิดทางให้แก่การสร้างมหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิตปี1975 ปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์ รวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว./.