บรรดาผู้นำของนาโต้ถ่ายรูปก่อนการประชุมสุดยอดนาโต้ ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อวันที่ 24 มีนาคม (AFP)

นี่เป็นครั้งแรกที่บรรดาผู้นำนาโต้ได้พบปะกันอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่รัสเซียเปิดยุทธนาการทางทหารพิเศษในยูเครน

ยืนยันจุดยืนของนาโต้

แถลงการณ์ร่วมของนาโต้หลังการประชุมระบุถึงความสามัคคีและการยืนหยัดคัดค้านปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย การให้ความช่วยเหลือรัฐบาลและประชาชนยูเครน ตลอดจนการรักษาความมั่นคงของประเทศพันธมิตร ผู้นำนาโต้เห็นชอบในการจัดตั้งกองกำลังสำรองอีก 4 หน่วยในบัลแกเรีย ฮังการี โรมาเนียและสโลวาเกีย ซึ่งทำให้จำนวนหน่วยกำลังสำรองของนาโต้ตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำเพิ่มขึ้นเป็น 8 หน่วย นอกจากกองกำลังทหารยุโรปแล้ว ทหารสหรัฐ 100,000 นายได้ถูกส่งมาประจำการเพื่อสนับสนุนนาโต้ นาโต้ได้ขยายระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระของนาย Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโต้ ออกไปอีกหนึ่งปีจนถึงวันที่ 30 กันยายนปี 2023

สำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงในภาคตะวันออก นาย Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโต้ยืนยันว่า นาโต้กำลังใช้มาตรการป้องกันนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพและอาวุธเคมี ในขณะเดียวกัน ประเทศพันธมิตรก็กำลังเร่งทำการติดตั้งระบบป้องกันนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพและอาวุธเคมีของตนเองเพื่อเสริมสร้างกองกำลังรบที่มีอยู่และกลุ่มใหม่ ตามความเห็นของนาย Stoltenberg นาโต้จะระดมเครื่องบินมากขึ้นและเสริมการป้องกันภัยทางอากาศในภาคตะวันออก เรือรบ เรือดำน้ำและเรือประจัญบานต้องพร้อมตลอดเวลา สมาชิกของนาโต้ตกลงที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียและขยายการสนับสนุนยูเครนผ่านการติดตั้งอุปกรณ์ทางทหารที่สำคัญให้แก่ประเทศนี้ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศ เครื่องบินไร้คนขับ รถถังและงบประมาณก้อนโต

แถลงการณ์ร่วมขององค์กรทางทหารชั้นนำของยุโรปยังยืนยันว่า นาโต้มีความสามัคคีเพื่อเป็นธำรงพันธมิตรที่เข้มแข็งและค้ำประกันความปลอดภัยให้แก่ประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม ทัศนะของนาโต้คือจะไม่ส่งกองกำลังไปยังยูเครน แต่จะปฏิบัติตามความรับผิดชอบเพื่อไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นอีกและไม่ปล่อยให้เกิดอันตรายหรือการสูญเสียเพิ่มเติม

สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน (Maxar)

ส่งเสริมกิจกรรมด้านมนุษยธรรมในยูเครน

จนถึงขณะนี้ได้ครบ 1 เดือนที่รัสเซียปฏิบัติยุทธนาการทางทหารพิเศษในยูเครน การเจรจาระหว่างมอสโคว์กับทางการเคียฟถึงแม้ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงยุติการปะทะ แต่ก็ได้มีความคืบหน้าบางประการ โดยประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ได้เผยว่า จะไม่กดดันให้ยูเครนเป็นสมาชิกของนาโต้อีกต่อไป และพร้อมประนีประนอมเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขตโดเนตสค์และลูฮานสค์ที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ให้การรับรองเอกราชก่อนปฏิบัติยุทธนาการทางทหารพิเศษเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ นอกจากนั้น รัสเซียและยูเครนได้ตกลงที่จะเปิดเส้นทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นับตั้งแต่มีการเปิดเส้นทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ประชาชนประมาณ 300,000 คนได้อพยพออกจากเขตสงคราม ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ  ขณะนี้มีชาวยูเครน 3.6 ล้านคนได้อพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

คาดว่า ขณะนี้ สหภาพยุโรปได้รับคลื่นผู้อพยพมากกว่าปี2015 และ2016 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดสงครามในซีเรียโดยโปแลนด์ โรมาเนีย ฮังการีและสโลวาเกีย เป็น 4 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่มีพรมแดนติดกับยูเครนทางทิศตะวันออกได้รับผู้อพยพชาวยูเครนเป็นจำนวนมาก ตามรายงานของกรรมาธิการกิจการภายในของสหภาพยุโรป ผู้อพยพชาวยูเครนทุกคนได้รับอนุญาตให้ข้ามพรมแดนของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป อียูยังได้ตัดสินใจอนุญาตให้ชาวยูเครนพลัดถิ่นทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน ได้รับที่อยู่อาศัยและสวัสดิการสังคมต่างๆ

จนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงยุติการปะทะ แต่รัสเซียและยูเครนได้แสดงความพร้อมสำหรับการเจรจามาโดยตลอด นอกจากนี้ การที่นาโต้และสหรัฐยืนยันถึงจุดยืนของตนที่จะไม่ส่งทหารเข้าไปยังยูเครนได้สร้างความหวังว่า ความขัดแย้งจะไม่ตกเข้าสู่ภาวะที่อันตรายมากขึ้น.