Anh Huyen/VOV5 -  
(VOVworld) – วันที่๒๗เดือนนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกรณีปล่อยปละละเลยจนเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินซึ่งท่ามกลางการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่นับวันมีความรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ ข้อกล่าวหาใหม่ๆทำให้รัฐบาลไทยต้องเผชิญอุปสรรคและความท้าทายนานัปการและความไร้เสถียรภาพในประเทศนี้ยังไม่สามารถหาทางออกได้
(VOVworld) – วันที่๒๗เดือนนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยต้องเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกรณีปล่อยปละละเลยจนเกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินซึ่งท่ามกลางการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่นับวันมีความรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ ข้อกล่าวหาใหม่ๆทำให้รัฐบาลไทยต้องเผชิญอุปสรรคและความท้าทายนานัปการและความไร้เสถียรภาพในประเทศนี้ยังไม่สามารถหาทางออกได้
|
ชาวนาขับรถไถนาเข้ากรุงเทพ(Photo:tuoitre) |
โครงการรับจำนำข้าวเริ่มปฏิบัติเมื่อกว่า๒ปีก่อนซึ่งถูกถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่สำคัญที่สุดของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเพื่อแสวงหาการสนับสนุนจากชาวนาจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อปี๒๐๑๑โดยรัฐบาลจะรับจำนำข้าวจากชาวนาในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดกว่าร้อยละ๕๐ซึ่งเป็นแนวทางช่วยเพิ่มกำไรในการขายข้าวในฐานะเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้น
ผลกระทบจากนโยบาย
แต่นโยบายนี้ได้ประสบความล้มเหลวเพราะบรรดาประเทศคู่แข่งได้เพิ่มการส่งออกข้าวซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อสถานะทางการเมืองของนายกรัฐมตรียิ่งลักษณ์โดยรัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาข้าวค้างสค๊อกปริมาณมหาศาลที่ไม่สามารถขายได้ในขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกไม่เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์ นโยบายนี้ยังทำให้รัฐบาลต้องจ่ายเงินเกือบ๑หมื่นล้านเหรียญสหรัฐจนส่งผลกระทบต่องบประมาณและรัฐบาลมีเงินไม่พอเพื่อจ่ายให้แก่ชาวนาเพราะมีวงเงินหนี้อยู่ที่เกือบ๔พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนั้น การปฏิบัติโครงการก็ถูกกล่าวหาว่า ปล่อยให้เกิดการทุจริตและปัจจุบัน โครงการนี้เป็นหนึ่งในข้อบกพร่องที่ฝ่ายต่อต้านใช้เป็นเหตุผลผลักดันการชุมนุม เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง และสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวนาซึ่งเป็นชนชั้นที่ถูกถือว่าผู้สนับหนุนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่างๆในหลายปีที่ผ่านมาจนเมื่อสัปดาห์ก่อน ชาวนากว่า๒พันคนได้ขับรถไถนานับร้อยคันเข้ากรุงเทพเพื่อทวงเงินค่าข้าวจากรัฐบาล รัฐบาลไทยได้อนุมัติเงินประมาณ๑๖ล้านยูโร่เพื่อจ่ายให้แก่ชาวนาแต่ตัวเลขนี้ก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินที่ต้องจ่ายคือ๒.๖พันล้านยูโร่และในสถานะปัจจุบัน รัฐบาลรักษาการก็ไม่มีความสามารถและอำนาจเพื่อแก้ไขปัญหานี้ได้
ความชงักงันที่ไม่สามารถหาทางออก
การที่รัฐบาลไม่มีเงินจ่าย ทำให้การสนับสนุนรัฐบาลของชาวนาลดลง อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า อุปสรรคในการปฏิบัติโครงการนี้ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลของนายกรัฐมตรียิ่งลักษณ์เช่นไรและ ปัจจุบัน นายกรัฐมตรียิ่งลักษณ์ยังไม่มีปฏิบัติการปราบปรามผู้ประท้วงรัฐบาลซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เจ้าหน้าที่ไทยไม่อยากปล่อยให้เกิดความรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมได้และสนับสนุนการเจรจากับผู้นำการชุมนุม
เกี่ยวกับทางออกให้แก่ความชงักงันทางการเมืองของไทยในเวลาข้างหน้า บรรดาผู้สันทัดกรณีเห็นว่า ยากที่จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นเพราะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ต้องเผชิญกับการปฏิเสธของฝ่ายชุมนุมโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณหนึ่งในแกนนำผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ลาออกจากตำแหน่งเพื่อทำการจัดตั้งสภาปฏิรูปโดยจะมีการคัดเลือกสมาชิกสภานี้เพื่อทำการแก้ไขปัญหาการคอรัปชั่น แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ไม่มีใครทราบว่า สภานี้จะได้รับการจัดตั้งเช่นไร และหน้าตาของการปฏิรูปเป็นอย่างไร เป็นอันว่า การประนีประนอมระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านยังอยู่ไกลเอื้อม ส่วนความอ่อนโยนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหากำลังทำให้ความอดทนของผู้สนับสนุนรัฐบาลลดลงโดยเมื่อเร็วๆนี้ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลได้จัดการประชุมและเห็นพ้องในการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายยุทธศาสตร์และผู้สนับสนุนนับล้านคนพร้อมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นอกจากนี้ ถ้ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ถูกศาลตัดสินว่า มีความผิดในโครงการรับจำนำข้าวก็จะส่งผลให้ความไร้เสถียรภาพในไทยเพิ่มขึ้นซึ่งอาจจะเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลและอาจจะบานปลายกลายเป็นสงครามกลางเมืองซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น./.
Anh Huyen/VOV5