การลงคะแนนอนุมัติมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 (VNA)

ในสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีองค์กรและบุคคลที่ไม่หวังดีและมีเป้าหมายฉวยโอกาสทางการเมืองได้สร้างคารมบิดเบือน คัดค้าน ปฏิเสธบทบาทและลักษณะของนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แต่ถึงกระนั้น คุณค่าของประชาธิปไตยที่ลึกซึ้งของนิติรัฐสังคมนิยมที่เวียดนามกำลังสร้างสรรค์และก้าวไปสู่นั้นเป็นการพิสูจน์อย่างมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับแนวทางที่ถูกต้องและทำลายคารมที่ไม่ถูกต้องขององค์กรและบุคคลที่ไม่หวังดี

องค์กรและบุคคลที่ไม่หวังดีและมีเป้าหมายฉวยโอกาสทางการเมืองได้เผยว่า หลักนิติรัฐมีต้นกำเนิด ได้รับการสร้างสรรค์และปฏิบัติในประเทศทุนนิยม ซึ่งการที่เวียดนามยึดมั่นการสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐก็หมายความว่า ยึดหลักระบบทุนนิยมและสร้างคารมที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับนิติรัฐสังคมนิยมในเวียดนามที่ไม่มีเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนและเผยว่า มีแต่นิติรัฐในพัฒนาการของระบบทุนนิยมเท่านั้น  ปฏิเสธบทบาทการชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต่อนิติรัฐ ซึ่งเวียดนามต้องยุบพรรคคอมมิวนิสต์และสร้างสรรค์รูปแบบการแบ่งอำนาจด้านนิติบัญญัติ การบังคับกฎหมายและตุลาการให้แก่หน่วยงานต่างๆเพื่อทำให้สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในเวียดนามได้รับการรับรอง เคารพและปฏิบัติอย่างจริงจัง

การสร้างคารมที่บิดเบือนความจริงเพื่อคัดค้านและปฏิเสธบทบาทและลักษณะของนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามดังกล่าวขององค์กรและบุคคลที่ไม่หวังดีและมีเป้าหมายฉวยโอกาสทางการเมืองนั้นไม่ได้มีการอ้างอิงถึงรัฐธรรมนูญฉบับต่างๆของเวียดนามที่ระบุว่า นิติรัฐสังคมนิยมเป็นรัฐของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ส่วนประธานโฮจิมินห์ได้ย้ำว่า “เวียดนามเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยและประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด” “ระบอบของเราคือระบอบประชาธิปไตย โดยประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ” อำนาจของรัฐทั้งหมดมาจากประชาชน โดยประชาชน เพื่อรับใช้ประชาชน ในนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กฎหมายเป็นกลไกเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของมนุษย์ ไม่ใช่เพื่อทำลายมนุษย์

 องค์กรและบุคคลที่เป็นอริจงใจเพิกเฉยว่า หลังความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมปี 1945 และการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งเป็นรัฐแห่งแรกของกรรมกรและชาวนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้สานต่อและเรียนรู้แนวคิดที่ก้าวหน้าของประเทศต่างๆในโลกเพื่อพัฒนาและปรับปรุงทฤษฎี ทัศนะและแนวทางเกี่ยวกับนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญปี 1946, 1959, 1980, 1992 และ 2013 โดยเฉพาะในหลักนโยบายสร้างสรรค์ประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สังคมนิยมฉบับปี 1991 ปี 2011 และรัฐธรรมนูญปี 2013 พรรคและรัฐเวียดนามได้ยืนยันว่า หนึ่งในลักษณะของระบอบคือ “การสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน” โดยหลักนโยบายสร้างสรรค์ประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่สังคมนิยมระบุว่า “รัฐเวียดนามคือนิติรัฐสังคมนิยมของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน อำนาจของรัฐทั้งหมดเป็นของประชาชนบนพื้นฐานของพันธมิตรระหว่างชนชั้นกรรมกร เกษตรกรและปัญญาชนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม” “รัฐค้ำประกันและส่งเสริมสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชน รับรอง ให้ความเคารพ ปกป้องและค้ำประกันสิทธิมนุษยชน สิทธิพลเมือง ปฏิบัติเป้าหมายประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง   มีประชาธิปไตย ความยุติธรรมและอารยธรรม ประชาชนมีความอิ่มหนำผาสุกและมีโอกาสพัฒนาในทุกด้าน”

ทั้งนี้ สามารถยืนยันได้ว่า นิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามคือรัฐที่มุ่งสู่คุณค่าที่ก้าวหน้า ความเป็นมนุษย์ บนพื้นฐานของการสร้างความกลมกลืนในด้านผลประโยชน์ระหว่างสังคมกับมนุษย์ ซึ่งมีความแตกต่างกับลักษณะการสร้างสรรค์สังคมที่มีการแข่งขันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะบุคคลหรือเฉพาะกลุ่ม ซึ่งต้องมีเงื่อนไขในการสร้างสรรค์และสร้างความเห็นพ้องในสังคมแทนที่จะสร้างความขัดแย้งทางสังคม  ในระบอบสังคมนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างพรรค รัฐและประชาชนคือความสัมพันธ์และความเห็นพ้องเกี่ยวกับเป้าหมายและผลประโยชน์ โดยแนวทางของพรรค นโยบาย กฎหมายและกิจกรรมต่างๆของรัฐล้วนมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ถือความผาสุกของประชาชนเป็นเป้าหมายในการปฏิบัติ ระบอบการเมืองและกลไกดำเนิงานของระบอบสังคมนิยมคือพรรคชี้นำ รัฐบริหารและประชาชนเป็นเจ้าของ ประชาธิปไตยเป็นลักษณะของระบอบสังคมนิยม เป็นเป้าหมายและพลังขับเคลื่อนให้แก่ภารกิจการสร้างสรรค์สังคมนิยม ดังนั้น การสร้างสรรค์ประชาธิปไตยสังคมนิยม ค้ำประกันสิทธิการเป็นเจ้าของของประชาชนคือหน้าที่สำคัญในระยะยาวของการปฏิวัติเวียดนาม

หลังการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 จนถึงปัจจุบัน การสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐสังคมนิยมคือปัญหาทางทฤษฎีและการปฏิบัติที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งต้องมีความเข้าใจทั้งในด้านวิชาการและการปฏิบัติ ถึงกระนั้น พรรคและรัฐก็ยังคงยึดหลักแนวทางสังคมนิยมในการสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐสังคมนิยมของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ตอบสนองความต้องการพัฒนาประเทศในระยะใหม่ ส่วนสำหรับคารมที่ว่า “การสร้างสรรค์นิติรัฐคือยึดหลักระบบทุนนิยม” หรือ “นิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามไม่ใช่ตัวอย่างของความก้าวหน้า เสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน” นั้นถือเป็นคารมบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับลักษณะของนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามตามยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์และปรับปรุงนิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามจนถึงปี 2030 วิสัยทัศน์จนถึงปี 2045  ผลสำเร็จและเป้าหมายของการสร้างสรรค์นิติรัฐสังคมนิยมเวียดนามหลังการสถาปนาประเทศและการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945 จนถึงปัจจุบันเป็นการตอบโต้ที่เข้มแข็งและทำลายคารมที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับนิติรัฐ ซึ่งการบิดเบือนความจริงไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดและในช่วงเวลาไหนก็ไม่อาจลบล้างความเป็นจริง ทำลายชื่อเสียง ลักษณะและความดีเลิศของระบอบสังคมนิยม และสถานะของนิติรัฐสิงคมนิยมเวียดนามบนเวทีโลกได้.