นิมิตหมายของการเปลี่ยนแปลงใหม่ในวาระของสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12

(VOVWORLD) - บนเจตนารมณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็งและความรับผิดชอบ ในวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ชี้นำระบบการเมืองส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติเพื่อนำประเทศฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายนานัปการและประสบผลงานที่สำคัญในด้านต่างๆ โดยนิมิตหมายของการเปลี่ยนแปลงใหม่วิธีการนำของพรรคในวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12สะท้อนให้เห็นจากการเลือกเป้าหมายที่สำคัญและหน้าที่ที่เร่งด่วนเพื่อระดมพลังที่เข้มแข็งของทั้งระบบการเมืองเพื่อชี้นำการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ

นิมิตหมายของการเปลี่ยนแปลงใหม่ในวาระของสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 - ảnh 1ภาพการประชุมสมัชชสใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 (dangcongsan.vn)

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงเกือบ 10ปีก่อนตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 11 จนถึงปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12มีหน้าที่ที่หนักหน่วงมากและเพื่อปฏิบัติหน้าที่นั้น ทั้งพรรค กองทัพและประชาชนทุกคนได้ปฏิบัติงานด้านบุคลากรอย่างเคร่งครัดเพื่อแต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมแทนเจ้าหน้าที่ที่ขาดทักษะความสามารถและทำงานขาดประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย งานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นได้รับการชี้นำอย่างเคร่งครัดจนประสบผลงานที่สำคัญอย่างรอบด้าน สร้างความประทับใจและแรงจูงใจในสังคม กลายเป็นขบวนการปฏิบัติที่เข้มแข็งและได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและประชาชนและได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงวียนฟู้จ่อง หัวหน้าคณะกรรมการส่วนกลางว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นได้ยืนยันว่า“การที่ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นได้รับการควบคุมแก้ไขนั้นได้มีส่วนร่วมรักษาเสถีรยภาพทางการเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม อีกทั้งเสริมสร้างความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและประชาชนต่อพรรคและรัฐ ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่จัดโดยคณะกรรมการประชาสัมพันธ์และให้การศึกษาส่วนกลางเมื่อเร็วๆนี้ปรากฎว่า มีประชาชนร้อยละ 93แสดงความเชื่อมั่นต่อการนำของพรรคในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งทำให้การปล่อยข่าวที่บิดเบือนความจริงเพื่อต่อต้านพรรคและรัฐของกลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริไร้ความหมาย”

ควบคู่กับการผลักดันงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ในวาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12และการประชุมสมัยก่อนๆ พรรคได้ถืองานด้านการสร้างสรรค์องค์กรพรรคเป็นหน้าที่สำคัญพิเศษ โดยไม่เคยมีสมัยใดที่คณะกรรมการกลางพรรคได้ประกาศมติ 4 ฉบับและข้อกำหนด 1ฉบับเกี่ยวกับงานด้านการสร้างสรรคพรรค ส่วนกรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการกลางพรรคก็ได้ประกาศเอกสารชี้นำงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคถึง 130ฉบับเหมือนในสมัยนี้ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายและเป็นจุดเด่นของวาระการประชุมที่ช่วยแปรมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12ให้เป็นรูปธรรม การเชื่อมโยงระหว่างแนวทางของพรรคและข้อกำหนดของรัฐอย่างพร้องเพรียงได้ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของทั้งระบบการเมือง รองศ.ดร.เยืองจุงอี๋ รองผู้อำนวยการสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ได้ให้ข้อสังเกตว่า“อาจกล่าวได้ว่า วาระการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12ได้ประสบผลงานที่สำคัญในหลายด้าน โดยเฉพาะการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค โดยคณะกรรมการกลางพรรค กรมการเมืองพรรคและคณะเลขาธิการพรรคได้ประกาศใช้มติและเอกสารหลายฉบับเกี่ยวกับการสร้างสรรค์องค์กรพรรค เช่น มติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 4สมัยที่ 12เกี่ยวกับการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค มติของกรมการเมืองพรรคเกี่ยวกับการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์และมติที่ 18เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของทั้งระบบการเมืองให้กระทัดรัดและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ”

นิมิตหมายของการเปลี่ยนแปลงใหม่ในวาระของสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 - ảnh 2เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงวียนฟู้จ่อง (dangcongsan.vn)

นอกจากให้ความสนใจต่อการสร้างสรรค์องค์กรพรรค ในการเตรียมพร้อมงานด้านบุคลากร รัฐบาลได้แปรมติต่างๆของพรรคให้เป็นแผนการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่ต้นวาระปี 2016-2020 การขยายตัวในด้านต่างๆของเศรษฐกิจสังคมได้ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2015โดยเฉพาะภาคการผลิตเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำได้ลดลงต่ำสุดเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัญหาน้ำทะเลซึมและภัยแล้งที่รุนแรง  ต่อสถานการณ์ดังกล่าว ใน3แผนการบริหารเศรษฐกิจปี2016 ที่วางไว้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เลือกแผนการที่ยากที่สุดด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ว่า รัฐบาลจะไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความท้าทาย พยายามบรรลุป้าหมายและหน้าที่ที่วางไว้ในระดับสูงสุด ถึงแม้อัตราการขยายตัวจีดีพีในปี 2016ไม่ได้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติเป้าหมายยากที่สุดของรัฐบาลได้ทำให้จีดีพีในปี2017, 2018 และปี 2019 บรรลุในระดับสูงและได้รับการประเมินว่า เป็นผลงานที่ดีที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยในปี 2019อยู่ที่กว่าร้อยละ 7 สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้เวียดนามติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในภูมิภาคและโลก ส่วนในปี 2020 การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอุทกภัยครั้งรุนแรงได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งถือเป็นบททดสอบต่อสติปัญญาและความมุ่งมั่นตั้งใจของประชาชาติเวียดนาม แต่ด้วยจิตใจ “ไม่ย่อท้อและไม่ยอมแพ้”ของรัฐบาลได้นำไปสู่ผลงานที่น่ายินดีในการปฏิบัติ 2 เป้าหมายพร้อมกันคือการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดโดยอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.91 ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้ย้ำว่า“ในสภาวการณ์ที่หลายประเทศต้องประสบปัญหาด้านการเงิน เวียดนามยังสามารถเสริมสร้างศักยภาพในด้านต่างๆจากการบรรลุอัตราการขยายตัวในระดับสูงในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เวียดนามไม่ต้องพึ่งพาตลาดโลกมากนักเพราะเรามีศักยภาพทางเศรษฐกิจและสถานประกอบการที่เข้มแข็ง”

สถานการณ์การปฏิบัติมติต่างๆของการประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 12 ในรอบ5ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า เพื่อปฏิบัติมติต่างๆของพรรคให้ประสบความสำเร็จ ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆต่องานด้านการสร้างสรรค์พรรค โดยในการสร้างสรรค์พรรค ต้องให้ความสนใจต่อการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคและในการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรคนั้น ต้องให้ความสำคัญต่องานด้านบุคลากร ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญพิเศษเพราะบุคลากรถือเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อความสำเร็จของการปฏิบัติแนวทางและมติต่างๆของพรรค

ผลสำเร็จในวาระของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่12 ได้สร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้เวียดนามทำการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาอย่างเข้มแข็งในเวลาข้างหน้า อีกทั้งเป็นการยืนยันว่า แนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคคือแนวทางที่ถูกต้องและมีความสร้างสรรค์และเส้นทางพัฒนาสู่สังคมนิยมของเวียดนามสอดคล้องกับสถานการณ์ภายในประเทศและแนวโน้มการพัฒนาของยุคสมัย .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด