นำฝรั่งเศสเข้าใกล้เวียดนามยิ่งขึ้น
Huyen – VOV5 -  
( VOVworld )-ปีฝรั่งเศสในเวียดนามจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนศกนี้ไปจนถึงกลางปี ๒๐๑๔ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ต่อจากนั้น ทั้งสองประเทศจะจัดปีเวียดนามใน ฝรั่งเศสในปี ๒๐๑๔ เพื่อเป็นนิมิตหมายแห่งความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสครบรอบ ๔๐ ปีอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการเปิดระยะร่วมมือใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพอย่างแข็งขันและลึกซึ้งมากขึ้น
( VOVworld )-ปีฝรั่งเศสในเวียดนามจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนศกนี้ไปจนถึงกลางปี ๒๐๑๔ ด้วยกิจกรรมที่หลากหลายเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ต่อจากนั้น ทั้งสองประเทศจะจัดปีเวียดนามใน ฝรั่งเศสในปี ๒๐๑๔ เพื่อเป็นนิมิตหมายแห่งความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสครบรอบ ๔๐ ปีอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นการเปิดระยะร่วมมือใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพอย่างแข็งขันและลึกซึ้งมากขึ้น
|
ท่านฌอง โนแอล พวารีเอร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส
ประจำเวียดนามตอบคำถามของผู้สื่อข่าว
|
“ พวกเราจะทำจนสุดความสามารถเพื่อนำฝรั่งเศสเข้าใกล้เวียดนามมากขึ้น ” นี่คือคำยืนยันของท่าน ฌอง โนแอล พวารีเอร์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำเวียดนามในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกิจกรรมฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสครบรอบ ๔๐ ปี ณ กรุงฮานอยเมื่อเร็วๆนี้ โดยจะมีกิจกรรมใหญ่ๆ ๑๐๐ กิจกรรมที่ครอบคลุมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ศิลปะ และผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยเน้นในด้านสถาปัตยกรรม แฟชั่น กิจกรรมแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และการศึกษาเป็นต้น ทั้งนี้เพื่อแนะนำประเทศฝรั่งเศสในปัจจุบันสู่สายตาชาวเวียดนามซึ่งเป็นหุ้นส่วนสำคัญของฝรั่งเศส ท่านฌอง โนเอล พวารีเอร์ กล่าว “ การที่เวียดนามและฝรั่งเศสตกลงฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ ๔๐ ปี ด้วยกิจกรรมใหญ่ๆ ๒ กิจกรรมได้แก่ ปีฝรั่งเศส ณ เวียดนามในปีนี้ และปีเวียดนามในฝรั่งเศสในต้นปีหน้าเพื่อแนะนำศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละประเทศจะเป็นพื้นฐานผลักดันความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาข้างหน้า ”
อาจกล่าวได้ว่า แม้ว่าในกว่า ๔๐ ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ประสบความสำเร็จในความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแต่ก็ยังไม่สมกับศักยภาพของแต่ละประเทศ โดยมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสยังอยู่ในระดับต่ำกว่าระหว่างฝรั่งเศสกับบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุนี้ ในปีฝรั่งเศส ณ เวียดนาม ๒๐๑๓ นี้จึงเน้นในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้า โดยคณะนักธุรกิจฝรั่งเศสจะมาเยือนนครโฮจิมินห์ของเวียดนามเพื่อเข้าร่วมฟอรั่มนักธุรกิจเวียดนาม-ฝรั่งเศสในวันที่ ๘ เมษายนนี้และกิจกรรมส่งเสริมแลกเปลี่ยนด้านธุรกิจ ซึ่งท่านตาร์เดียว สมิท อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์สถานทูตฝรั่งเศสประจำเวียดนามได้เผยว่า นี่เป็นหนึ่งในคณะนักธุรกิจใหญ่ ๓ แห่งของฝรั่งเศสที่เดินทางมาเวียดนามเพื่อส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศโดยท่าน นิโกล บริค รมว.พาณิชย์ฝรั่งเศสเป็นหัวหน้าคณะ ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ฝรั่งเศสเล็งเห็นศักยภาพของตลาดเวียดนาม ท่านสมิทกล่าว “ ปี ๒๐๑๒ และช่วงต้นปีนี้เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความยากลำบาก แต่ในช่วงนี้เช่นกัน นักธุรกิจฝรั่งเศสได้มีความเชื่อมั่นต่อตลาดเวียดนามมากขึ้น ฝรั่งเศสยังคงลงทุนในเวียดนามต่อไปและการลงทุนนั้นได้เพิ่มมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมา กองทุนแลกเปลี่ยนการค้าระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๙ อย่างไรก็ดี พวกเรายังประสงค์ที่จะขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับเวียดนาม ดังนั้นในปี ๒๐๑๓ นี้พวกเรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้ได้ ”
|
การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกิจกรรมฉลอง
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสครบรอบ ๔๐ ปี
|
ปีจจุบัน มีสถานประกอบการฝรั่งเศสประมาณ ๓๐๐ แห่งกำลังดำเนินกิจการในเวียดนาม ตามข้อมูลสถิติปี ๒๐๑๒ ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกสินค้าของเวียดนามไปยังฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น ท่านตาร์เดียว สมิท อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ของฝรั่งเศสเห็นว่า ฝรั่งเศสกำลังรอคอยเวียดนามเพิ่มจำนวนสินค้าส่งออกมายังฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นความร่วมมือใหม่ๆระหว่างสองประเทศในอนาคต ส่วนฟอรั่มนักธุรกิจฝรั่งเศส-เวียดนาม ณ นครโฮจิมินห์จะเป็นกิจกรรมเริ่มต้นปีฝรั่งเศส ณ เวียดนาม โดยจะมีการพบปะระหว่างนักธุรกิจทั้งสองประเทศกว่า ๑,๐๐๐ ครั้งในท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศโดยเฉพาะนครใหญ่ๆ ท่านตาร์เดียว สมิท เผยว่า “ เศรษฐกิจเวียดนามกำลังพัฒนาในหลายด้านเช่น อุตสาหกรรมอาหารและสินค้าบริโภค ซึ่งเรามีศักยภาพในด้านนี้ดังนั้นเราเห็นลู่ทางร่วมมือที่แจ่มใส ดิฉันขอย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามมีลักษณะระยะยาว ดังนั้นความยากลำบากทางเศรษฐกิจเฉพาะหน้าไม่เป็นอุปสรรคขัดขวาง หากในทางกลับกัน บรรดานักธุรกิจฝรั่งเศสมีความประสงค์ที่จะได้ประกอบธุรกิจระยะยาวในเวียดนาม ”
นอกจากนี้ ยังมีการสนทนาทางเศรษฐกิจระดับสูงระหว่างฝรั่งเศสกับเวียดนามเพื่อแปรแผนการร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เป็นรูปธรรม และในปีนี้ ทั้งสองประเทศจะยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ ซึ่งสอดคล้องกับประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสในปัจจุบัน อันเป็นการสร้างกรอบความสัมพันธ์และร่วมมือใหม่ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาอย่างกว้างลึก นับตั้งแต่ฝรั่งเศสช่วยทำลายการถูกปิดล้อมทางเศรษฐกิจให้แก่เวียดนามตั้งแต่ช่วงต้นคริสตศักราช ๑๙๙๐ และสนับสนุนเวียดนามผสมผสานเข้ากับโลกนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศได้ขยายตัวจนกลายเป็นตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่พัฒนากับประเทศที่กำลังพัฒนา ดังนั้นในโอกาสฉลองครบรอบ ๔๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสจึงถือเป็นโอกาสให้ทั้งสองประเทศทบทวนประวัติความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ได้รับการทำนุบำรุงมาตลอดเพื่อมุ่งสู่ความร่วมมือใหม่ที่เต็มไปด้วยศักยภาพในอนาคต ./.
Huyen – VOV5