ปี2017: ก้าวเดินถอยหลังของความพยายามปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
Anh Huyen -VOV5 -  
(VOVWORLD) -ในช่วงต้นปีใหม่2018 ฝ่ายต่างๆได้มีปฏิบัติการที่มีความหมายสำคัญเพื่อมุ่งสู่การสนทนาโดยตรงบนคาบสมุทรเกาหลี แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากหวนมองดูภาพรวมของปี2017 ความพยายามเกี่ยวกับการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีไม่บรรลุความคืบหน้าใดๆแถมยังมีก้าวเดินถอยหลังด้วย
การทดลองยิงขีปนาวุธของเปียงยาง (Photo: TTXVN) |
ในรอบ1ปีที่ผ่านมา ความผันผวนบนคาบสมุทรเกาหลียังไม่มีความคืบหน้าใหม่ๆและปัญหาความชงักงันยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยมีแต่การยิงขีปนาวุธ การตำหนิคัดค้านกันไปมาและการข่มขู่พร้อมคำสั่งคว่ำบาตร
คำสั่งคว่ำบาตรไม่ใช่มาตรการที่มีประสิทธิภาพ
ในหลายปีที่ผ่านมา การข่มขู่และคำสั่งคว่ำบาตรยังไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้และการเพิ่มแรงกดดันก็ไม่ทำให้เปียงยางเปลี่ยนแปลงจุดยืนเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์แต่กลับมีปฏิบัติการที่แข็งกร้าวมากขึ้น
นับตั้งแต่ปี2006 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ประกาศใช้คำสั่งคว่ำบาตร9ครั้งต่อโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเปียงยาง โดยเฉพาะคำสั่งคว่ำบาตรเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วถือเป็นมติคว่ำบาตรที่เข้มงวดที่สุดที่มุ่งเป้าไปยังภาคการส่งออกที่เป็นจุดแข็งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี เช่น สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัตินโยบายที่เกี่ยวข้องถึงแรงงานของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีในต่างประเทศ แต่ถึงกระนั้น เปียงยางก็ไม่ยอมถอยหากได้ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฮวางซอง-15รุ่นใหม่ที่มีพิสัยการยิงครอบคลุมทั้งประเทศสหรัฐ เป็นอันว่านับตั้งแต่ต้นปี2017มาจนถึงปัจจุบัน แม้ต้องรับแรงกดดันจากการถูกคว่ำบาตรแต่เปียงยางก็ยังคงทำการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย15ลูก โดยมีการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป3ครั้งและยังประกาศหลายครั้งเกี่ยวกับความสำเร็จด้านนิวเคลียร์ เช่น การลดขนาดของหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมทั้ง ยืนยันว่า ได้เสร็จสิ้นการยกระดับทักษะความสามารถด้านนิวเคลียร์ของประเทศตนให้มีความสมบูรณ์อย่างสำเร็จ
แม้ต้องรับแรงกดดันจากการถูกคว่ำบาตรแต่เปียงยางก็ยังคงทำการยิงขีปนาวุธอย่างน้อย15ลูก (Photo: TTXVN) |
สหรัฐหมดความอดทนและก้าวเดินถอยหลังของความพยายามทางการทูต
ในเวลาที่ผ่านมา ประเทศมหาอำนาจต่างๆของโลก รวมทั้งสหรัฐได้พยายามควบคุมโครงการขีปนาวุธของเปียงยางผ่านมาตรการคว่ำบาตรที่สหประชาชาติสนับสนุน แต่ทุกอย่างได้ประสบความล้มเหลวและทำให้สหรัฐหมดความอดทน ซึ่งหนึ่งในท่าทีของสหรัฐคือการระบุสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเข้าในรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายที่อดีตประธานาธิบดี จอร์จ บุชเคยยกเลิกเมื่อปี2008 ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการที่แข็งกร้าวเพื่อประท้วงการยิงขีปนาวุธของเปียงยางเมื่อวันที่29พฤศจิกายน นับตั้งแต่ปี2009 หลังจากที่การเจรจา6ฝ่ายเกี่ยวกับการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีชงักงัน สหรัฐได้ขู่หลายครั้งว่า จะระบุเปียงยางในบัญชีดำ โดยเฉพาะ ภายหลังการทดลองขีปนาวุธต่างๆของเปียงยาง หลังจากที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐก็ได้พิจารณาปัญหาดังกล่าวหลายครั้ง ซึ่งถือเป็นมาตรการเพิ่มแรงกดดันต่อสาธารณรัฐประชิปไตยประชาชนเกาหลีเนื่องจากปัญหานิวเคลียร์เพราะตามกฎหมายของสหรัฐ ประเทศใดที่ถูกระบุในบัญชีดังกล่าวจะต้องเผชิญกับคำสั่งคว่ำบาตรที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับกิจกรรมการช่วยเหลือในต่างประเทศของสหรัฐ ห้ามการซื้อขายและส่งออกอุปกรณ์ทางทหารและมาตรการคว่ำบาตรด้านการเงิน
บรรดาผู้สังเกตการณ์ได้ให้ข้อสังเกตว่า การที่สหรัฐระบุเปียงยางเข้าในรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายอีกครั้งถือเป็นก้าวเดินถอยหลังในกระบวนการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีเพราะการตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐเหมือนเป็นการปิดทางไปสู่การสนทนาเกี่ยวกับปัญหาปลอดนิวเคลียร์และอาจทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอยู่นอกเหนือการควบคุม
ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า ภาพรวมเกี่ยวกับการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีในปี2017มีแต่ความมืดมน แต่อย่างไรก็ดี จากการแสดงท่าทีในเชิงบวกของฝ่ายต่างๆในช่วงต้นปีใหม่2018 ประชามติมีความหวังว่า จะสามารถแสวงหามาตรการแก้ไขความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ที่ไม่ใช่การใช้ปฏิบัติการยั่วยุ คำสั่งคว่ำบาตรและการตอบโต้ที่ไม่มีทางออกอย่างที่เป็นมา.
Anh Huyen -VOV5