ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจหวอชี้แถ่ง (Photo dantri.com.vn)

การสร้างสรรค์ “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์” เป็นการสานต่อการปฏิบัติตามเจตนารมณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ของพรรคในตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บนเจตนารมณ์อะไรที่จะช่วยให้ประเทศพัฒนา เจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็ง อะไรที่เอื้อประโยชน์ต่อประเทศและประชาชาติล้วนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ

ในการประชุมรัฐบาลการหารือและการเสวนาต่างๆในปี 2017 ผู้นำรัฐบาลมักจะย้ำถึงคำว่า “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์” เหมือนเป็นแนวทางของการปฏิบัติเพื่อให้เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่าภาคภูมิใจในช่วงปลายปี

การบริหารอย่างคล่องตัวและเป็นฝ่ายรุก

ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจหวอชี้แถ่ง “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์” คือรัฐบาลที่มีทักษะความสามารถ ความบริสุทธิ์และชี้แจงทุกประเด็นอย่างสมเหตุสมผล สองคือสามารถกำหนดวิสัยทัศน์และนโยบายที่ดี พร้อมทั้งเป็นรัฐบาลที่เข้าถึงและใกล้ชิดกับประชาชนและสถานประกอบการ ตลาดและสังคม ตลอดจนสามารถสร้างการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนา นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กให้ข้อสังเกตว่า            “ รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์คือต้องเป็นฝ่ายรุกจัดทำนโยบายและกฎหมายพัฒนาประเทศ สร้างบรรยากาศที่อำนวยให้แก่การประกอบธุรกิจเพื่อช่วยให้บรรยากาศการประกอบธุรกิจในเวียดนามอยู่ในกลุ่มแถวหน้าของอาเซียนและอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาของโออีซีดี รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ก็เพื่อรับใช้ประชาชนให้ดีที่สุดผ่านสวัสดิการสังคมและสวัสดิภาพ เช่น สาธารณสุข การศึกษา การกีฬาและวัฒนธรรม”

ตามแนวทางดังกล่าว ในปี 2017 รัฐบาลได้บริหารชี้นำการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมทั้งด้านกว้าและส่วนลึก โดยในด้านกว้าง ได้ทำการปฏิรูประเบียบการและปรับปรุงบรรยากาศประกอบธุรกิจ โดยประกาศนโยบายที่เอื้อให้แก่การประกอบธุรกิจและการพัฒนาของสถานประกอบการ รวมทั้งยกเลิกระเบียบการที่สร้างอุปสรรคต่อการลงทุน

ในด้านลึก รัฐบาลได้ชี้นำโดยตรงและระดมพลังทุกแห่งเพื่อพัฒนาหน่วยงาน ท้องถิ่นและสถานประกอบการที่มีศักยภาพในการขยายตัว ซึ่งช่วยให้โครงการหลายแห่งถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว นี่คือจุดใหม่ในการบริหารของรัฐบาลในปี 2017

สำหรับการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วนและการถอนเงินทุนของสถานประกอบการภาครัฐ รัฐบาลได้เลือกสถานประกอบการที่เป็นตัวอย่างสำหรับการแปรรูปอย่างเด็ดขาด เช่น การขายหุ้นที่ภาครัฐถือในบริษัท Sabeco และ Vinamilk  ในด้านการเกษตร รัฐบาลได้พยายามแสวงหาวิธีการใหม่ในการผลิต ดึงดูดการลงทุนและแสวงหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเน้นปฏิบัติดแทนการใช้คำสั่งทางราชการเพียงอย่างเดียวของรัฐบาล

เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเวียดนาม Giles Lever (Photo VN Express)

สร้างกรอบกระบวนการที่ดีให้เวียดนามพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเวียดนาม Giles Lever ให้ข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่ที่รัฐบาลเวียดนามเปลี่ยนการบริหารจากการออกคำสั่งทางราชการเพียงอย่างเดียวมาเป็นการสร้างสรรค์ “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์” เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จที่น่ายินดีต่างๆ โดยรัฐบาลเวียดนามได้บรรลุก้าวพัฒนาใหม่เนื่องจากได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆต่อการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ ลดระเบียบราชการและพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิก นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามสามารถตอบสนองปัญหาที่เกิดใหม่ได้อย่างรวดเร็วฉับไวและมีมาตรการแก้ไขอย่างทันท่วงที นาย Ousmane Dione ผู้อำนวยการแห่งชาติของธนาคารโลกแสดงความคิดเห็นว่า            “เราขอแสดงความยินดีต่อรัฐบาลเวียดนามที่ได้บรรลุผลสำเร็จที่น่ายินดีในปี 2017 โดยเฉพาะในการปฏิรูประเบียบราชการ ธนาคาร การลงทุนภาครัฐและการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย เวียดนามได้สร้างนิมิตรหมายผ่านอัตราการการขยายตัว เสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพและสถานะที่นับวันสูงเด่นมากขึ้นบนเวทีโลก”

บรรดาหุ้นส่วนนานาชาติยังให้ข้อสังเกตว่า การที่นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ประกาศ “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ ปฏิบัติอย่างเด็ดขาด ไม่บริหารโดยออกคำสั่งเพียงอย่างเดียว” คือกรอบที่ดีเพื่อให้เวียดนามพัฒนามากขึ้น รองประธานหอการค้าย่านเอเชียของสหรัฐ James W. Fatheree ให้ข้อสังเกตว่า            “เวียดนามกำลังแสดงให้เห็นถึงทักษะความสามารถของเศรษฐกิจที่คล่องตัวและมีโอกาสสูง เวียดนามกำลังพัฒนาอย่างถูกทิศทาง หวังว่า จากความพยายามและคำมั่นของเวียดนามในปี 2017จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขความท้าทายใหม่ๆ”

อาจกล่าวได้ว่า ความสำเร็จที่น่าประทับใจของเวียดนามในการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคม โดยเฉพาะการขยายตัวของจีดีพีที่บรรลุร้อยละ 6.81 ซึ่งสูงที่สุดในหลายปีที่ผ่านมาล้วนมีส่วนร่วมของ “รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์” ในการย่างเข้าสู่ปี 2018 ตามความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊ก เจตนารมณ์นี้จะได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อให้เวียดนามไม่ล้าหลังและตกขบวนของการพัฒนา.