ปัจจัยเพื่อปลดชนวนปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี

(VOVworld) – สถานการณ์บนคาบสมุรเกาหลีกำลังร้อนระอุขึ้นในทุกขณะหลังจากมีการประกาศ มาตรการคว่ำบาตรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีอย่างต่อเนื่องเพราะ ประเทศนี้ได้ทดลองนิวเคลียร์และปล่อยจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อ เร็วๆนี้ โดยเฉพาะคำสั่งคว่ำบาตรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาของสหประชาชาติถือเป็นคำสั่ง คว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ส่วนมาตรการคว่ำบาตรใหม่จะส่งผลกระทบอย่างไรและวิธีการใดที่จะช่วยแก้ปัญหา ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีล้วนเป็นข้อสงสัยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่าง มากจากประชามติโลก
(VOVworld) – สถานการณ์บนคาบสมุรเกาหลีกำลังร้อนระอุขึ้นในทุกขณะหลังจากมีการประกาศมาตรการคว่ำบาตรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีอย่างต่อเนื่องเพราะประเทศนี้ได้ทดลองนิวเคลียร์และปล่อยจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อเร็วๆนี้ โดยเฉพาะคำสั่งคว่ำบาตรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาของสหประชาชาติถือเป็นคำสั่งคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ส่วนมาตรการคว่ำบาตรใหม่จะส่งผลกระทบอย่างไรและวิธีการใดที่จะช่วยแก้ปัญหาความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีล้วนเป็นข้อสงสัยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชามติโลก
ปัจจัยเพื่อปลดชนวนปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี - ảnh 1
สหประชาชาติได้ประกาศคำสั่งคว่าบตรเปียงยางเนื่องจากการทดลองนิวเคลียร์และปล่อยจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วงอวกาศเมื่อเร็วๆนี้( ภาพประกอบข่าว Photo Reuters)
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มีนาคม สาธารณรัฐเกาหลีได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อเปียงยาง โดยห้ามเรือที่เข้าประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเป็นเวลา 180 วันเข้ามาในน่านน้ำของสาธารณรัฐเกาหลี ระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี 38 คน ชาวต่างชาติ 2 คนและองค์การ 30 แห่งที่เข้าร่วมโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเข้าในบัญชีดำ พร้อมทั้งประกาศให้พลเมืองสาธารณรัฐเกาหลีที่กำลังอาศัยในต่างประเทศห้ามเข้าร้านอาหารของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ก่อนหน้านั้น รัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีได้ยุติโครงการร่วมมือ 3 ฝ่าย “ Nanjin – Khasan” กับรัสเซียและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีอย่างเป็นทางการ
ปฏิกิริยาในทางลบ
ส่วนทางฝ่ายเปียงยางได้มีปฏิกิริยาต่อคำสั่งคว่ำบาตรอย่างต่อเนื่องดังกล่าวและในสภาวการณ์ที่สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีเริ่มทำการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยการออกคำเตือนว่า อาจใช้อาวุธเคมี และในขณะที่เปียงยางประกาศปฏิเสธคำสั่งคว่ำบาตรของสหประชาชาติ เปียงยางก็ได้เสริมสร้างคลังอาวุธนิวเคลียร์และประกาศว่า พร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในทุกเวลาและตั้งอยู่ในภาวะ “โจมตีก่อน” ถ้าหากถูกศัตรูข่มขู่
บรรดาผู้สังเกตการณ์เผยว่า ปฏิกิริยาของปียงยางไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศนี้มีปฏิกิริยาในทางลบต่อคำสั่งคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเคยประกาศคำสั่งคว่ำบาตรเปียงยางมาแล้ว 3 ครั้งเมื่อปี 2006 2009 และ 2013 แต่อย่างไรก็ตาม ท่าทีครั้งนี้ของเปียงยางมีความแข็งกร้าวมากขึ้นเพราะสหประชาชาติได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆที่ถือว่าเข้มงวดที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สินค้าทุกชนิดทั้งเข้าและออกจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีจะต้องถูกตรวจสอบ ห้ามการส่งออกถ่านหิน แร่ธาตุ ทองคำ ไทเทเนียมและแร่ธาตุหายาก รวมทั้งห้ามประเทศต่างๆจัดสรรค์เชื้อเพลิงด้านการบินให้แก่เปียงยาง มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ถือว่า จะส่งผลกระทบต่อแหล่งสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อขยายโครงการขีปนาวุธที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์
ปัจจัยเพื่อปลดชนวนปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี - ảnh 2
นายหวางอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนประกาศว่า จีนสนับสนุนคำสั่งคว่ำบาตรเปียงยางของสหประชาชาติ (Photo Reuters)
ปัจจัยอะไรที่จะสามารถทำให้เปียงยางกลับมานั่งโต๊ะเจรจา
ในความเป็นจริง ถึงขณะนี้ ประชามติยังคงมีข้อครหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของคำสั่งคว่ำบาตรเปียงยางของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะมติคว่ำบาตรทั้ง 4 ฉบับนับตั้งแต่ปี 2006 ค่อยๆเพิ่มความเข้มงวดต่อเปียงยางไม่ได้ช่วยลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีและไม่สามารถโน้มน้าวให้เปียงยางยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปได้ และคาบสมุทรเกาหลียังคงอยู่ในสถานการณ์ความตึงเครียดเนื่องจากการตอบโต้กันระหว่างสองภาคเกาหลี
แต่อย่างไรก็ตาม มติคว่ำบาตรครั้งนี้ของสหประชาชาติยังมีสัญญาณที่น่ายินดีที่อาจช่วยให้เปียงยางกลับมานั่งเจรจาเพื่อแสวงหามาตรการสันติภาพให้แก่ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี นั่นคือประเทศจีน เพราะโดยปรกติ จีนมักจะปฏิเสธไม่ลงคะแนนในการประชุมเกี่ยวกับมติคว่ำบาตรเปียงยางเนื่องจากปัญหาด้านผลประโยชน์แต่ในครั้งนี้ ปักกิ่งกลับมีท่าทีที่กระตือรือร้นและร่วมมือกับสหรัฐเพื่อผลักดันการอนุมัติมติคว่ำบาตรเปียงยาง เพราะวอชิงตันและปักกิ่งต่างเห็นว่า เปียงยางต้องไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และต้องกลับเข้าร่วมการเจรจา 6 ฝ่าย พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า มติคว่ำบาตรครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นพื้นฐานให้แก่มาตรการทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี นอกจากคำประกาศต่างๆ แล้วปักกิ่งยังเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดต่อเปียงยางทันที เช่น สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลปัญหาการเดินเรือของจีนระบุรายชื่อเรือต่างๆของเปียงยางเข้าในบัญชีดำ พร้อมทั้งยืนยันว่า จะหารือกับเปียงยางอย่างเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูการเจรจา 6 ฝ่าย
การที่จีนลงนามในมติคว่ำบาตรเปียงยางฉบับไหม่ถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเปิดความหวังให้แก่การเจรจา 6 ฝ่าย เนื่องจากผลประโยชน์ที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิด ปักกิ่งถือว่ามีบทบาทและอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อเปียงยาง โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจของเปียงยางที่กำลังถูกคว่ำบาตร ดังนั้นบรรดานักวิเคราะห์จึงเห็นว่า ปักกิ่งจะมีบทบาทมากขึ้นในกระบวนการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีดังคำประกาศของประเทศนี้ว่า เป้าหมายสูงสุดของคำสั่งคว่ำบาตรไม่ใช่ทำให้สถานการณ์เผชิญหน้าเลวร้ายลงหากเป็นการโน้มน้าวให้ฟื้นฟูการเจรจาเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์และนำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีกลับเข้าร่วมประชาคมระหว่างประเทศ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด