ปรับปรุงนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พัฒนา

(VOVworld) –  เศรษฐกิจเวียดนามในทุกด้านกำลังฟื้นฟูอย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอุปสรรคและความท้าทายใหญ่ๆรออยู่ข้างหน้า การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและ อำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการฟื้นฟูและพัฒนาการผลิต ขยายกรอบเงินเฟ้อให้ในระดับที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมาตรการต่างๆที่บรรดาผู้แทนรัฐสภาแนะนำให้เน้นปฏิบัติในปี๒๐๑๕เพื่อสร้างพื้นฐานให้เศรษฐกิจพัฒนายิ่งขึ้นในเวลาข้างหน้า

(VOVworld) –  เศรษฐกิจเวียดนามในทุกด้านกำลังฟื้นฟูอย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีอุปสรรคและความท้าทายใหญ่ๆรออยู่ข้างหน้า การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและ อำนวยความสะดวกทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการฟื้นฟูและพัฒนาการผลิต ขยายกรอบเงินเฟ้อให้ในระดับที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นมาตรการต่างๆที่บรรดาผู้แทนรัฐสภาแนะนำให้เน้นปฏิบัติในปี๒๐๑๕เพื่อสร้างพื้นฐานให้เศรษฐกิจพัฒนายิ่งขึ้นในเวลาข้างหน้า

ปรับปรุงนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พัฒนา - ảnh 1
ปรับปรุงนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้พัฒนา(Photo:Điêntưchinhphu )

ตามรายงานของรัฐบาล เงินเฟ้อได้รับการควบคุม เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ใน๙เดือนที่ผ่านมา อัตราราคาสินค้าบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ๒.๒๕เท่านั้นซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำที่สุดในรอบ๑๐ปีที่ผ่านมา และคาดว่า ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นต่ำกว่าร้อยละ๕  ส่วนการขยายตัวด้านสินเชื่อจนถึงปลายเดือนกันยายนอยู่ที่ร้อยละ๗.๒๖ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ๖.๘๗และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ๑๒ถึงร้อยละ๑๔ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีเสถียรภาพ เงินสำรองต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดว่าจะบรรลุ๑๓เป้าหมายจากทั้งหมด๑๔เป้าหมายที่วางไว้ในปี๒๐๑๔

เศรษฐกิจฟื้นฟูในทุกด้านแต่ยังมีปัญหาใหญ่ๆที่คั่งค้างอยู่

            ปี๒๐๑๔ เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณดีขึ้นซึ่งนายกาวสีเกียม ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดท้ายบิ่งกล่าวว่า แนวโน้มพัฒนาของเศรษฐกิจชัดเจนมาก มีการฟื้นตัวในทุกด้านของเศรษฐกิจ สังคม การผลิต การบริโภคและการส่งออก โดยเฉพาะ การควบคุมเงินเฟ้อและ กำลังซื้อได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง มีการปรับปรุงโครงสร้างควบคู่กับการปรับปรุงรูปแบบการขยายตัวและระเบียบการ

            อย่างไรก็ดี ถ้าตั้งปี๒๐๑๔อยู่ในเป้าหมายระยะยาวของแผนการ๕ปี ปีนี้ สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมก็ยังคงส่อให้เห็นปัญหาใหญ่ๆ ผลของการปฏิบัติเป้าหมายต่างๆเกี่ยวกับการควบคุมเงินเฟ้อ การสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจมหภาค การขยายตัวที่เหมาะสมและการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจยังไม่ตอบสนองความต้องการ ผู้แทนรัฐสภาจำนวนมากชี้แจงว่า ปีนี้  การควบคุมเงินเฟ้อค่อนข้างดีซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าการพยากรณ์คืออยู่ประมาณร้อยละ๔ถึงร้อยละ๔.๕ แต่นี่ไม่เพียงแต่เป็นผลจากนโยบายบริหารเท่านั้นหากยังมาจากอุปสงค์รวมที่อ่อนแอและการขยายตัวที่จำกัด ดังนั้นถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงกว่านี้อีกนิดก็จะทำให้อัตราการขยายตัวดีกว่านี้

ควรอำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบพัฒนาการผลิต

            ผู้แทนรัฐสภาจำนวนมากเห็นว่า จำนวนสถานประกอบการที่ประกาศยกเลิกกิจการใน๙เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า๗หมื่นแห่งในขณะที่จำนวนสถานประกอบการที่ได้รับการจัดตั้งใหม่อยู่ที่๕หมื่น๑พันแห่งซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ผลิตและประกอบธุรกิจยังคงประสบอุปสรรคนานัปการ นายโด๋หงอกเหนียน ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดบิ่งถ่วนเห็นว่า นอกจากนโยบายเกี่ยวกับการลดภาษีและดอกเบี้ยแล้วก็ควรมีนโยบายใหม่ๆเพื่อให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการ เช่น ขยายตลาด ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ส่วนนางเหงวียนถิ่เหงวียตเหื่อง ผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยเห็นว่า เพื่อให้จีดีพีมีอัตราการขยายตัวร้อยละ๖.๒ ในปี๒๐๑๕ รัฐบาลควรมีโครงการพัฒนาสถานประกอบการอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะ สถานประกอบการภายในประเทศเพื่อมีรายรับที่มั่นคงในระยะยาว นายหวูซวนห่งผู้แทนรัฐสภาจังหวัดฟู้เถาะกล่าวว่า“ในเวลาที่ผ่านมา มีสถานประกอบการจำนวนมากที่กลับมาเปิดดำเนินการแต่ก็ยังมีสถานประกอบการอีกบางส่วนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ ดังนั้น ปัจจุบัน พวกเราต้องเน้นช่วยเหลือด้านภาษีและเงินทุนโดยเฉพาะนโยบายด้านภาษี เทคโนโลยี สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมต้องได้กู้เงินทุน ท้องถิ่นต่างๆควรมีนโยบายอำนวยความสะดวกด้านที่ดิน เพราะในปี๒๐๑๕จะจัดตั้งประชาคมอาเซียนซึ่งมีประชาคมเศรษฐกิจ เป็นหนึ่งในเสาหลักต่างๆ นอกจากนี้ เวียดนามกำลังเจรจากับสหรัฐและประเทศต่างๆเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีและเจรจาในโค้งสุดท้ายกับประเทศยุโรปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี ดั้งนั้น พวกเราต้องช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้สถานประกอบการเข้าร่วมในเชิงรุก”

การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจต้องมีผลที่เป็นรูปธรรม

            บรรดาผู้แทนรัฐสภายังเห็นว่า แม้จะมีโครงการแบบบูรณาการและโครงการย่อยต่างๆแต่จนถึงปัจจุบันผลของการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน นายเลมินห์ธง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดแทงฮว้ากล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆของเศรษฐกิจต้องตระหนักให้ดีถึงปัญหาเหล่านี้และมีมาตรการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ

            เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้เสียจากการปรับปรุงโครงสร้างระบบธนาคารและองค์กรสินเชื่อ นายฝ่ามฮวีหุ่งผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรพิจารณากลไกการดำเนินงานของบริษัทซื้อขายหนี้หรือวีเอเอ็มซี เพื่อมีคำตอบที่มีเหตุมีผล ควรทำการตรวจบัญชีของระบบธนาคารในทุกด้านเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาใหญ่ๆในการปรับปรุงโครงสร้างธนาคาร นายเจิ่นยูหลีกผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์เห็นว่า ไม่ควรใช้งบประมาณแผ่นดินในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย“ในทางเป็นจริง หนี้เสียเป็นเรื่องปกติขององค์กรสินเชื่อแต่เมื่อมันกลายเป็นปัญหาของเศรษฐกิจมหภาค องค์กรสินเชื่อไม่สามารถแก้ไขได้ ผมเห็นว่า ไม่นำงบประมาณแผ่นดินมาใช้แก้ไขปัญหาหนี้เสียเพราะปัจจุบัน รัฐบาลยังมีแหล่งเงินอื่นๆเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เช่น กองทุนพัฒนาเป็นหุ้นส่วน และกองทุนรวมอื่นๆที่มีเงินนับสิบล้านล้านด่งที่พวกเราสามารถกู้ยืมได้ นอกจากนี้ ปัจจุบันงบประมาณรายจ่ายสูงกว่ารายรับ รัฐสภาควรมีมติอนุญาตให้รัฐบาลใช้แหล่งกองทุนต่างๆที่กำลังบริหารเพื่อแก้ไขหนี้สาธารณะ ยกเว้นงบประมาณแผ่นดิน”

รัฐบาลตั้งเป้าไว้ว่า ในปี๒๐๑๕ จะสร้างเสถียรภาพให้เศรษฐกิจมหภาคต่อไป อัตราการขยายตัวจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ๖.๒ ดัชนีราคาผู้บริโภคจะอยู่ที่ร้อยละ๕ อัตราเสียเปรียบดุลการค้าเมื่อเทียบกับยอดมูลค่าการส่งออกจะอยู่ที่ร้อยละ๕ ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ควรมีนโยบายเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเป็นรูปธรรมเพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจพัฒนา./.

Vân –Hải


 

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด