การปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับชาวอิสราเอลในพื้นที่ Sheikh Jarrah ของเยรูซาเลมตะวันออกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ (AFP)

การปะทะที่นองเลือดได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเขตเวสต์แบงก์หลังการโจมตีของกองทัพอิสราเอลใส่เมืองนาบลุสในเขตเวสต์แบงก์เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 100 คน ได้มีความพยายามมากมายเพื่อควบคุมสถานการณ์แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เกิดประสิทธิผล

การปะทะที่นองเลือด

การปะทะครั้งใหม่ที่ต้องกล่าวถึงคือ การปะทะที่เมืองเจนินเมื่อวันที่ 16 มีนาคมซึ่งกองทัพอิสราเอลทำการจู่โจมค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองแห่งนี้โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อจับตัวผู้ต้องสงสัย  สถานีโทรทัศน์ภาษาอาหรับ Aljazeera รายงานว่า ได้เกิดการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างทหารอิสราเอลกับนักรบชาวปาเลสไตน์ในค่ายผู้ลี้ภัย ซึ่งทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 4 คนซึ่งเป็นทั้งเด็กและนักรบปาเลสไตน์และบาดเจ็บอีก 23 คน ก่อนหน้านั้น 10 วัน คือวันที่ 7 มีนาคม กองทัพอิสราเอลก็เปิดทำการโจมตีใส่เมืองเจนินโดยอ้างเหตุผลเดียวกัน จนทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 6 คนและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน ภายหลังการโจมตีดังกล่าว การปะทะแบบกลุ่มเล็กๆที่เมืองเจนินได้เกิดขึ้นทุกวัน ซึ่งทำให้ประชาชนและนักรบชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน

นอกจากเมืองเจนินแล้ว ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ก็ยังเกิดการปะทะระหว่างทหารอิสราเอลกับประชาชนปาเลสไตน์ในพื้นที่หลายแห่งในเขตเวสต์แบงก์ โดยเฉพาะ ในเมืองนาบลุส ตามรายงานของทางการปาเลสไตน์ กองทัพอิสราเอลกำลังเพิ่มปฏิบัติการทางทหารต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ในสภาวการณ์ที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่ได้ให้ความสนใจอย่างเพียงพอต่อจุดร้อนนี้ ในขณะเดียวกัน กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ เช่น ขบวนการฮามาสและกลุ่มญิฮาดได้ประกาศว่า จะเปิดการโจมตีตอบโต้ “การกระทำที่ไม่เป็นมิตร” ของอิสราเอล ส่วนกองทัพอิสราเอลได้ตัดสินใจยกระดับการแจ้งเตือนความปลอดภัยในพื้นที่เลียบตามแนวชายแดนฉนวนกาซ่าเนื่องจากมีความกังวลว่า นักรบชาวปาเลสไตน์อาจตอบโต้ด้วยการยิงจรวดจากฉนวนกาซ่าใส่อิสราเอล

นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลัฟ ช็อลทซ์ ( AFP/VNA)

ผลักดันความพยายามเพื่อควบคุมสถานการณ์และส่งเสริมการไกล่เกลี่ยระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล

ตามความเห็นของผู้สังเกตการณ์ระดับภูมิภาคและโลก สถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์น่ากังวลมาก การปะทะที่ทำให้ชาวปาเลสไตย์และอิสราเอลเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากยังคงเกิดขึ้นต่อไป ถึงแม้ว่าประชาคมระหว่างประเทศได้ผลักดันความพยายามเพื่อลดความตึงเครียดและควบคุมสถานการณ์การใช้ความรุนแรงแล้วก็ตาม โดย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมฉุกเฉินพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้ความรุนแรงในเขตเวสต์แบงก์และเรียกร้องให้ยุติ “การกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียว” ทันที ซึ่งทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคมีความไร้เสถียรภาพมากขึ้น ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ตัวแทนของปาเลสไตน์และอิสราเอลได้จัดการพบปะ  ณ เมืองอควาบาของจอร์แดน โดยตกลงที่จะร่วมมือด้านความมั่นคงและลดความตึงเครียด

ล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม สำนักโฆษกของ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ออกประกาศว่า การปะทะที่เมืองเจนิน ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 4 คนในวันเดียวกันนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ต้องผลักดันความพยายามระหว่างประเทศเพื่อยุติสถานการณ์การใช้ความรุนแรงและฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลทันที ในวันเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ Aljazeera ได้อ้างคำประกาศของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี โอลัฟ ช็อลทซ์ โดยย้ำว่า ปาเลสไตน์และอิสราเอลต้องฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพทันที ยึดมั่นปฏิบัติตามแนวทางสองรัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติและหลีกเลี่ยงการกระทำแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียดและการใช้ความรุนแรงขยายตัวมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐหรือ USCentcom ได้ประเมินว่า สถานการณ์ความมั่นคงในเขตเวสต์แบงก์มีความร้ายแรงจึงต้องมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมสถานการณ์และหลีกเลี่ยงการเกิดการปะทะที่อันตราย

ทั้งนี้ สหประชาชาติ สันนิบาตอาหรับ หลายประเทศในตะวันออกกลางและยุโรปได้ประกาศเร่งรัดให้อิสราเอลและปาเลสไตน์แสวงหาวิธีการเพื่อคลี่คลายความตึงเครียดในเขตเวสต์แบงก์ หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้สถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การฟื้นฟูการเจรจาสันติภาพ โดยก่อนอื่น ทั้งสองฝ่ายต้องแสวงหาวิธีการเพื่อปฏิบัติตามคำมั่นเกี่ยวกับการคลี่คลายความตึงเครียดที่ได้ตกลงกันไว้ ณ จอร์แดน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเสถียรภาพในเขตนี้.